คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบี้ยปรับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 673 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีและการงด/ลดเงินเพิ่ม/เบี้ยปรับ กรณีผู้เสียภาษีมีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี
เงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร เป็นเงินเพิ่มสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2525 และเงินเพิ่มตามมาตรา 89 ทวิสำหรับภาษีการค้าปี 2524 และ 2525 ซึ่งเป็นเงินเพิ่มเพราะโจทก์ไม่เสียภาษีภายในกำหนดนั้น กฎหมายกำหนดไว้แน่นอน โดยไม่มีข้อยกเว้นให้งดเก็บเสียได้ และจะลดได้ก็จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ศาลจึงไม่อาจพิจารณางดหรือลดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาซื้อขายสูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจลดลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ข้อเท็จจริงที่ว่าการผิดนัดของโจทก์ทำให้จำเลยเสียหายไม่ได้ใช้ทรัพย์ที่ซื้อจากโจทก์ออกใช้ประโยชน์ ซึ่งหากคิดรายได้เพียงวันละ 9 ชั่วโมง จำเลยจะมีรายได้วันละ 30,937.50 บาท มากกว่าค่าปรับที่จำเลยคิดจากโจทก์ตามสัญญา จำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาเนื่องจากไม่ได้สืบพยานโจทก์และจำเลยในศาลชั้นต้น โจทก์จึงไม่มีโอกาสถามค้านได้ ข้ออ้างของจำเลยฟังไม่ขึ้น ค่าปรับตามสัญญาซื้อขายเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่ง ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ถ้าหากสูงเกินส่วน เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน-ขอบเขตความรับผิด-การอนุมัติระยะเวลาศึกษาต่อเพิ่มเติม-เบี้ยปรับสูงเกินไป
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 มิได้ระบุระยะเวลาที่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ และสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ 2 ทำไว้กับโจทก์ก็มิได้ระบุเวลาที่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อเช่นกัน ฉะนั้น การที่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศเป็นเวลา 2 ปี ครบแล้วโจทก์ได้อนุมัติให้จำเลยที่ 1 ศึกษาต่ออีกเป็นเวลา 4 ปีเศษโดยมิได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบ และจำเลยที่ 2 มิได้ยินยอมในการที่โจทก์อนุมัติให้จำเลยที่ 1 ศึกษาต่ออีกนั้น แม้จะเป็นภาระหนักขึ้นแก่จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันแต่ก็ไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงในสัญญาและเป็นคนละเรื่องกับการที่เจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้ลูกหนี้ จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้นจากความรับผิด
จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาต่อโจทก์จะต้องคืนเงินเดือนเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพที่ตนรับไปให้โจทก์เป็นเงิน 161,863.96 บาท และต้องเสียเบี้ยปรับอีกเท่ากับเงินทั้งหมดที่รับไปกับจะต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีสำหรับเงินต้นรวมกับเบี้ยปรับตามสัญญาด้วยนั้น เบี้ยปรับและดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นข้อสัญญาที่ระบุความเสียหายหรือความรับผิดในการที่จำเลยไม่ชำระหนี้ไว้ล่วงหน้าเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับสูงเกิน ส่วนศาลก็มีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 และเมื่อกำหนดเบี้ยปรับเป็นค่าเสียหายจำนวนพอสมควรแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้ค่าเสียหายเป็นดอกเบี้ยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อทรัพย์สินสูญหาย ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดตามสัญญา แต่ข้อตกลงในสัญญาอาจเป็นเบี้ยปรับได้
สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่ง จึงต้องนำบทบัญญัติลักษณะเช่าทรัพย์มาใช้บังคับด้วย เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับตั้งแต่วันที่รถยนต์สูญหาย ตามป.พ.พ. มาตรา 567 ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อต่อไปส่วนข้อกำหนดตามสัญญาที่ระบุว่า ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย หรือสูญหาย ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบนั้นพอแปลได้ว่าผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามจำนวนดังกล่าวอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งศาลมีอำนาจที่กำหนดให้ตามที่เห็นสมควร ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ค่าเสียหายเป็นเบี้ยปรับ ไม่ใช่ราคาทรัพย์ที่ยังขาดชำระ
ข้อกำหนดในสัญญาเช่าซื้อว่าในกรณีที่เอาทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ขายได้ราคาไม่พอชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงิน จำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบนั้นเป็นเพียงวิธีการคำนวณหาจำนวนค่าเสียหาย ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเมื่อมีการผิดสัญญาเช่าซื้อซึ่งมีลักษณะเป็น เบี้ยปรับตามกฎหมาย หาใช่เป็นการเรียกร้องเอาราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อ ที่ยังขาดอยู่ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ข้อตกลงกำหนดค่าเสียหายล่วงหน้ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มิใช่การเรียกราคาทรัพย์ที่ยังขาด
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า เมื่อเจ้าของยึดทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนมาแล้วนำออกขาย หากได้เงินไม่พอชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าเช่าซื้อคงเหลือ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบ เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีผู้เช่าซื้อผิดสัญญา มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ โดยเฉพาะข้อความที่ว่า หากเอาทรัพย์ที่เช่าซื้อออกขายได้เงินไม่พอชำระค่าเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่จนครบก็เป็นเพียงวิธีการคำนวณหาจำนวนเบี้ยปรับเท่านั้น มิใช่เป็นการเรียกร้องเอาราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อที่ยังขาดอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อทรัพย์สินสูญหาย ผู้เช่าซื้อรับผิดตามข้อตกลงเบี้ยปรับ ศาลพิจารณาความเสียหายที่แท้จริง
สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 ระบุว่า ถ้าทรัพย์สิน ที่เช่าซื้อถูกโจรภัย...สูญหาย...ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดและยอมชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบข้อสัญญาดังกล่าวแปลได้ว่าเป็นข้อตกลง ที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ได้รับความเสียหาย เพราะเหตุ ที่รถยนต์พิพาทได้หายไปในระหว่างการครอบครองของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์ไม่สามารถกลับเข้าครอบครองได้ และถือว่าเป็นการกำหนดเบี้ยปรับโดยเอาค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระมาเป็นจำนวนค่าเสียหาย ดังนั้น ศาลย่อมกำหนดให้โจทก์ได้ตามควรแก่ความเสียหายที่โจทก์ได้รับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับในสัญญาตัวแทน: จำเลยหักเงินประกันไม่ได้หากไม่ได้สงวนสิทธิ
จำเลยทำสัญญาตั้งโจทก์เป็นตัวแทนรับซื้อแร่ มีข้อตกลงให้โจทก์ชำระค่าตอบแทนให้จำเลยตามจำนวนแร่ที่รับซื้อภายในเวลาที่กำหนดไว้ หากผิดนัดโจทก์ยินยอมให้จำเลยปรับได้ครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท โดยจำเลยมีสิทธิหักค่าปรับจากเงินประกันที่โจทก์วางไว้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียกร้องก่อน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงว่าในกรณีที่โจทก์ผิดนัดจำเลยมีสิทธิหักเงินค่าปรับได้ทันทีเท่านั้น มิได้เป็นข้อตกลงยกเว้นข้อบัญญัติ ป.พ.พ.มาตรา 381 วรรคท้าย ที่ไม่ต้องสงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับในกรณีผิดนัดไว้ในขณะรับชำระหนี้เมื่อจำเลยไม่ได้สงวนสิทธิเรียกเบี้ยปรับไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิหักเงินค่าปรับจากเงินประกันของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3896/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายและการบังคับตามสัญญาเมื่อผิดนัด
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์ โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญายอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญา กับยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งด้วย ค่าเสียหายเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับซึ่งกำหนดไว้ในสัญญา และเป็นเบี้ยปรับซึ่งลูกหนี้สัญญาจะให้เมื่อตนไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร เมื่อจำเลยทั้งสองผิดสัญญาโอนที่ดินให้แก่จำเลยที่ 3 ไปนอกจากโจทก์จะเรียกให้โอนที่ดินเป็นการชำระหนี้ได้แล้ว โจทก์ยังมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับตามสัญญาจากจำเลยได้ด้วย ทั้งหากโจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในมูลชำระหนี้ไม่ถูกต้องสมควร 1โจทก์จะเรียกเอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบในฐานเป็นจำนวนน้อยที่สุดแห่งค่าเสียหาย กับมีสิทธิพิสูจน์ค่าเสียหายยิ่งกว่านั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3896/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาจะซื้อขาย: สิทธิของเจ้าหนี้ในการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมจากเบี้ยปรับ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาจะขายที่ดินให้โจทก์ โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญายอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญา กับยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งด้วย ค่าเสียหายเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับซึ่งกำหนดไว้ในสัญญา และเป็นเบี้ยปรับซึ่งลูกหนี้สัญญาจะให้เมื่อตนไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร เมื่อจำเลยทั้งสองผิดสัญญาโอนที่ดินให้แก่จำเลยที่ 3 ไป นอกจากโจทก์จะเรียกให้โอนที่ดินเป็นการชำระหนี้ได้แล้ว โจทก์ยังมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับตามสัญญาจากจำเลยได้ด้วย ทั้งหากโจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในมูลชำระหนี้ไม่ถูกต้องสมควร โจทก์จะเรียกเอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบในฐานเป็นจำนวนน้อยที่สุดแห่งค่าเสียหายกับมีสิทธิพิสูจน์ค่าเสียหายยิ่งกว่านั้นได้
of 68