พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษจำคุกและรอการลงโทษในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 มาตรา 53 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติฝิ่น(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2494 อันมีกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงยี่สิบปี และปรับสิบเท่าราคาฝิ่น แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500 บาทนั้น เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ควรรับโทษจำคุกเกินกว่า 2 ปีแล้วศาลจะพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำคุกไว้ภายใน 5 ปี ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดและแจ้งข้อมูลเท็จ ศาลฎีกาพิพากษาโทษจำคุก
เจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอ ไม่มีหน้าที่สืบเสาะไต่สวนหรือฟ้องคดีที่มีความผิดฐานเล่นการพนักด้วย จึงจะมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดฐานเล่นการพนันให้พ้นอาญา ตามมาตาา 142 ไม่ได้
สรรพสามิตอำเภอจับผู้เล่นการพนันมาแล้ว กลับช่วยเหลือโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกทีจับมามีสุราเถื่อน ดังนี้มีผิดตามมาตรา 157,158
จำเลยกระทำหลักฐานเท็จ โดยเอาขาดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่าพวกผู้ต้องหาที่จำเลยจับมามีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนหลงเชื่อทำการเปรียบเทียบปรับพวกผู้ต้องหาเสร็จไปชั้นอำเภอ ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 160
สรรพสามิตอำเภอจับผู้เล่นการพนันมาแล้ว กลับช่วยเหลือโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกทีจับมามีสุราเถื่อน ดังนี้มีผิดตามมาตรา 157,158
จำเลยกระทำหลักฐานเท็จ โดยเอาขาดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่าพวกผู้ต้องหาที่จำเลยจับมามีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนหลงเชื่อทำการเปรียบเทียบปรับพวกผู้ต้องหาเสร็จไปชั้นอำเภอ ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 160
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในความผิดซ้ำ: โทษจำคุกรอการลงอาญาไม่ถือว่าพ้นโทษ
ครั้งแรกจำเลยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกายตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ศาลจำคุก 15 วัน ปรับ 20 บาท โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ครั้งที่สอง ต้องโทษฐานชิงทรัพย์แต่หลบหนีการควบคุม มากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีกเป็นครั้งที่สาม แม้ในการลงโทษครั้งที่ 2 นั้น ศาลได้ยกเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในครั้งแรกมาลงแก่จำเลยด้วย แต่จำเลยก็ยังมิได้พ้นจากโทษจำคุกนั้นไปจึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ในความผิดครั้งที่สามไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยมีด ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
การที่จำเลยชักมีดปลายแหลมตรงเข้าแทงผู้ตายฝ่ายเดียวที่หน้าอกใต้ไหปลาร้า 1 ที โดยแรงจนปลายมีดไปตุงข้างหลัง ผู้ตายอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียวก็ขาดใจตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม. 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 243 กะทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี และตามมาตรา 299 อีกกะทงหนึ่ง มีกำหนด 3 ปี รวมโทษ 2 กะทง 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ความผิดของจำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 842/2482)
(อ้างฎีกาที่ 842/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา243 กระทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี และตามมาตรา 299 อีกกระทงหนึ่ง มีกำหนด 3 ปี รวมโทษ 2 กะทง 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ ความผิดของจำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 842/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกจากความผิดซ้ำภายใน 5 ปี และการนำโทษที่รอการลงโทษไปลงโทษ
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมีกำหนด 9 เดือนมาแล้ว แต่ถูกรอการลงอาญาไว้มากระทำผิดฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 249 ขึ้นอีกภายใน 5 ปี ศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี และเพิ่มโทษตามมาตรา 42, 72 อีก 1 ใน 3 เป็นโทษให้จำคุก 20 ปีแล้วเอาโทษที่รอไว้ 9 เดือนมาลงแก่จำเลย รวมเป็นโทษจำคุก 20 ปี 9 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและการป้องกันเกินสมควร ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุก
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน ตามมาตรา 249
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 249,53 จำคุก 1 ปี แต่ให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 249,53 จำคุก 1 ปี แต่ให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาข้อหาปลอมเช็คและรับของโจร ศาลฎีกาพิจารณาว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 321 และ 225 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2477 (ฉบับที่ 5) มาตรา 3 ให้รวมโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้องข้อหาฐานรับของโจร ส่วนกำหนดโทษคงยืนตาม ดังนี้ ย่อมเป็นการแก้ไขเล็กน้อย และลงโทษจำคุกจำเลยอย่างเดียวไม่เกิน 5 ปี โจทก์ฎีกา ในข้อเท็จจริงไม่ได้ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย โทษจำคุกฐานปลอมเช็คคงเดิม ฎีกาโจทก์ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 321 และ 225 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2477(ฉบับที่ 5) มาตรา 3 ให้รวมโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้องข้อหาฐานรับของโจร ส่วนกำหนดโทษคงยืนตาม ดังนี้ย่อมเป็นการแก้ไขเล็กน้อย และลงโทษจำคุกจำเลยอย่างเดียวไม่เกิน 5 ปี โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218