พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดและการอ่านคำพิพากษาให้แก่โจทก์ร่วม การรับหมายแทนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้การอ่านคำพิพากษาไม่สมบูรณ์
ศาลชั้นต้นออกหมายนัดฟังคำพิพากษาเพื่อส่งให้แก่โจทก์ร่วมโดยระบุชื่อโจทก์ร่วมในหมายนัด แต่การส่งหมาย เจ้าพนักงานศาลได้ให้บ.สามีโจทก์ร่วมลงชื่อรับแทน โจทก์ร่วมในศาล จึงเป็นการส่งหมายนัดโดยเจ้าพนักงานศาล ไปยังที่อื่นนอกจากภูมิลำเนาของโจทก์ร่วมเมื่อ บ.มิใช่ ผู้มีชื่อระบุว่าเป็นผู้รับหมายโดยตรงและไม่ ปรากฏว่าเป็นผู้ซึ่งโจทก์ร่วมหรือทนายความของโจทก์ร่วม แต่งตั้งให้ทำการแทน แม้ บ.จะรับหมายในศาลจาก เจ้าพนักงานศาล ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับหมายไว้แทนโจทก์ร่วมโดยชอบการที่โจทก์ร่วมไม่มาศาลในวันนัดศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์และจำเลยฟังโดยถือว่า โจทก์ร่วมได้ฟังด้วยแล้วนั้นจึงไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่า ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์ร่วมฟังแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้ปกครองซ้ำซ้อน: ศาลตั้งผู้ปกครองใหม่เมื่อมีผู้ปกครองเดิมอยู่แล้ว เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1590
เดิมศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมามีคำสั่งตั้งผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมหาสารคามให้มีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ดังนั้นขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมหาสารคามผู้เยาว์จึงมีผู้ปกครองอยู่แล้วซึ่งศาลจะตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์อีกไม่ได้ ทั้งกรณีของผู้ร้องก็มิใช่เป็นเรื่องการตั้งผู้ปกครองหลายคน เพราะขอตั้งคนละคราวกับผู้คัดค้าน คำขอของผู้ร้องจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1590 การที่ศาลจังหวัดมหาสารคามมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2541/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินที่ไม่ชอบตามกฎหมาย ทำให้ผู้รับโอนไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ย.เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทซึ่งเดิมเป็นที่ดินมือเปล่า การที่ ว. ซึ่งมิได้ทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าว อ้างว่าได้ซื้อจาก ย. ตามสัญญาซื้อขายซึ่งไม่เป็นความจริงและขอออกโฉนดโดย ย. มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ว. ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามโฉนดที่เจ้าพนักงานออกให้ เพราะเป็นการออกโฉนดตามหนังสือสัญญาขายที่ดินที่ไม่ชอบ และออกทับที่ดินซึ่ง ย.มีสิทธิครอบครองอยู่ก่อน การที่ ว. โอนที่ดินที่ตนไม่มีกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ จึงไม่ก่อให้เกิดกรรมสิทธิ์ขึ้นมาเป็นของโจทก์ผู้รับโอน โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานประกอบกิจการเดียว: การรถไฟฯ มีคณะกรรมการลูกจ้างได้เพียงคณะเดียว การแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างประจำจังหวัดไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยมีผู้ว่าการเป็นผู้บริหารงานและเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานทุกคน ดำเนินการโดยสั่งการจากส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาคมิได้มีการแบ่งหน่วยงานที่ดำเนินกิจการโดยลำพังเป็นหน่วย ๆ จึงเป็นสถานประกอบกิจการเพียงหน่วยเดียวและมีคณะกรรมการลูกจ้างได้เพียงคณะเดียว พนักงานของจำเลยจึงจะแยกเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้างในแต่ละเขตการเดินรถหรือแต่ละจังหวัดไม่ได้
เมื่อคำสั่งของสหภาพแรงงานจำเลยที่แต่งตั้งโจทก์กับพวกเป็นกรรมการลูกจ้างประจำจังหวัดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมีอำนาจลงโทษทางวินัยแก่โจทก์โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน
เมื่อคำสั่งของสหภาพแรงงานจำเลยที่แต่งตั้งโจทก์กับพวกเป็นกรรมการลูกจ้างประจำจังหวัดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมีอำนาจลงโทษทางวินัยแก่โจทก์โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานประกอบกิจการเดียว การแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างจังหวัดไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายจ้างมีอำนาจลงโทษวินัยได้
การรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยมีผู้ว่าการเป็นผู้บริหารงานและเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานทุกคน ดำเนินการโดยสั่งการจากส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาคมิได้มีการแบ่งหน่วยงานที่ดำเนินกิจการโดยลำพังเป็นหน่วย ๆ จึงเป็นสถานประกอบกิจการเพียงหน่วยเดียวและมีคณะกรรมการลูกจ้างได้เพียงคณะเดียว พนักงานของจำเลยจึงจะแยกเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้างในแต่ละเขตการเดินรถหรือแต่ละจังหวัดไม่ได้
เมื่อคำสั่งของสหภาพแรงงานจำเลยที่แต่งตั้งโจทก์กับพวกเป็นกรรมการลูกจ้างประจำจังหวัดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยจึงมีอำนาจลงโทษทางวินัยแก่โจทก์โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน
เมื่อคำสั่งของสหภาพแรงงานจำเลยที่แต่งตั้งโจทก์กับพวกเป็นกรรมการลูกจ้างประจำจังหวัดเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยจึงมีอำนาจลงโทษทางวินัยแก่โจทก์โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อบกพร่องคำฟ้องอุทธรณ์และการพิจารณาคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้อุทธรณ์มิได้ลงชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องอุทธรณ์หรือสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ล่วงเลยเวลาที่จะปฏิบัติแล้ว เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อบกพร่องคำฟ้องอุทธรณ์และการพิจารณาคดีโดยศาลอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้อุทธรณ์มิได้ลงชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องอุทธรณ์หรือสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ล่วงเลยเวลาที่จะปฏิบัติแล้ว เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีขัดทรัพย์โดยผู้พิพากษานายเดียวไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อมีทุนทรัพย์เกินห้าหมื่น
คดีร้องขัดทรัพย์ซึ่งมีทุนทรัพย์เกินกว่าห้าหมื่นบาทผู้พิพากษานายเดียวตรวจคำร้องขอแล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอ เป็นการไม่ชอบด้วยพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 21(2) เพราะเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 131(2) และเป็นกรณีที่ต้องมีผู้พิพากษาเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาอย่างน้อยสองนาย ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 22,23 เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้องโดยให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ ให้มีผู้พิพากษาครบองค์คณะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อเอกสารสูญหายระหว่างถูกยึด เจ้าของภาษีไม่ต้องรับภาระ
โจทก์ไม่สามารถนำเอกสารตามหมายเรียกไปมอบให้เจ้าพนักงานประเมินทำการไต่สวนโดยมิใช่เพราะความผิดของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์จงใจขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่นำเอกสารมาให้เจ้าพนักงานประเมินทำการไต่สวนตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร เจ้าพนักงานประเมินจึงไม่มีอำนาจประเมินให้โจทก์เสียภาษีในอัตราร้อยละ 2 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายตามมาตรา 71(1) และแม้โจทก์จะให้ความยินยอมในการประเมินดังกล่าวก็หาทำให้การประเมินซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายกลับกลายเป็น การประเมินที่ชอบไปแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: การอุทธรณ์เฉพาะเหตุผล ศาลยกอุทธรณ์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ จำเลยอุทธรณ์ว่าเห็นด้วย กับผลของคำพิพากษา แต่ไม่เห็นด้วยในเหตุผลที่ศาลแรงงานกลางอ้าง เป็นอุทธรณ์ที่มิได้โต้แย้งผลของคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ทั้งมิได้อ้างว่าผลแห่งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางทำให้จำเลยเสียสิทธิ หรือมีผลกระทบกระเทือนถึงสิทธิของจำเลยประการใด จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณา