พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,546 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละการครอบครองที่ดิน: เจตนาจากพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการติดต่อและการทิ้งร้าง
สามีจากภริยาและบุตรไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น และไปมีภริยาใหม่เกิดบุตรด้วยกันอีกหลายคนเป็นเวลานานเกือบ 40 ปี โดยไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยียนภรรยาและบุตรเดิมเลยนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า เจตนาสละการครอบครองที่นามือเปล่าที่ตนเป็นเจ้าของทำกินร่วมกับภริยาและบุตรคนเดิม ให้แก่ภริยาและบุตรคนเดิมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดา จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์ที่ขอแบ่งมารดาจำเลยได้มาทางบรรพบุรุษของมารดาจำเลยดังนี้ เท่ากับต่อสู้ว่าทรัพย์รายนี้ไม่ใช่มรดกของบิดาโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมเป็นของบิดาโจทก์ แต่บิดาโจทก์สละให้เป็นของมารดาจำเลยและจำเลยแล้วศาลก็ตัดสินให้จำเลยชนะคดีได้ไม่เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดา จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์ที่ขอแบ่งมารดาจำเลยได้มาทางบรรพบุรุษของมารดาจำเลยดังนี้ เท่ากับต่อสู้ว่าทรัพย์รายนี้ไม่ใช่มรดกของบิดาโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมเป็นของบิดาโจทก์ แต่บิดาโจทก์สละให้เป็นของมารดาจำเลยและจำเลยแล้วศาลก็ตัดสินให้จำเลยชนะคดีได้ไม่เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น-ภาระจำยอม: การฟ้องร้องขอเปิดทางผ่านที่ดิน และประเด็นค่าทดแทน
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นหญิงมีสามี ไม่อาจดำเนินคดีฟ้องร้องโดยลำพังตนเองได้เท่านั้น จำเลยไม่ได้คัดค้านว่า ไม่ได้รับอนุญาตจากสามี หรือหนังสืออนุญาตใช้ไม่ได้เพราะเหตุใด เมื่อศาลพอใจในความสามารถของโจทก์ตามหนังสืออนุญาตของสามีโจทก์ที่ติดมาท้ายฟ้องแล้ว เป็นอันฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องคดี ไม่จำเป็นต้องนำสืบอีก
โจทก์บรรยายฟ้องเรื่องทางจำเป็นและมีคำขอเรื่องภาระจำยอมอยู่ท้ายฟ้อง แต่โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องว่า เป็นภาระจำยอมเพราะเหตุใด ย่อมต้องถือว่าโจทก์ฟ้องคดีในเรื่องทางจำเป็นอย่างเดียว
แม้เจ้าของที่ดิน ซึ่งตกอยู่ในที่ล้อมจะมีทั้งสิทธิที่จะผ่านที่ดินของผู้อื่นและทำหน้าที่ชดใช้ค่าทดแทนให้แก่เขาก็ดี มาตรา 1349 ไม่ได้บังคับให้บังคับให้ปฏิบัติหน้าที่เสียก่อนแล้วจึงใช้สิทธิได้ ฉะนั้นเมื่อ
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิเรียกค่าทดแทนยังไม่เรียกร้องเอาค่าทดแทนขึ้นมาในคดีนี้ คดีก็ไม่มีประเด็นที่จะให้ศาลวินิจฉัยถึง.
( อ้างฎีกา 311/89 )
โจทก์บรรยายฟ้องเรื่องทางจำเป็นและมีคำขอเรื่องภาระจำยอมอยู่ท้ายฟ้อง แต่โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องว่า เป็นภาระจำยอมเพราะเหตุใด ย่อมต้องถือว่าโจทก์ฟ้องคดีในเรื่องทางจำเป็นอย่างเดียว
แม้เจ้าของที่ดิน ซึ่งตกอยู่ในที่ล้อมจะมีทั้งสิทธิที่จะผ่านที่ดินของผู้อื่นและทำหน้าที่ชดใช้ค่าทดแทนให้แก่เขาก็ดี มาตรา 1349 ไม่ได้บังคับให้บังคับให้ปฏิบัติหน้าที่เสียก่อนแล้วจึงใช้สิทธิได้ ฉะนั้นเมื่อ
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิเรียกค่าทดแทนยังไม่เรียกร้องเอาค่าทดแทนขึ้นมาในคดีนี้ คดีก็ไม่มีประเด็นที่จะให้ศาลวินิจฉัยถึง.
( อ้างฎีกา 311/89 )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีข้อตกลงโอนกรรมสิทธิที่ดินเมื่อผิดนัดชำระ ถือเป็นโมฆะตามกฎหมาย
สัญญากู้หนี้ธรรมดาซึ่งข้อที่สัญญามีว่า ถ้าไม่ชำระหนี้เงินกู้ภายในกำหนด ยอมโอนที่ดินให้หลุดเป็นกรรมสิทธิแก่เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการฝ่าฝืนต่อ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 656 วรรค 2.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเมื่อผิดนัดชำระ เป็นโมฆะตามกฎหมาย
สัญญากู้หนี้ธรรมดาซึ่งข้อที่สัญญามีว่า ถ้าไม่ชำระหนี้เงินกู้ภายในกำหนด ยอมโอนที่ดินให้หลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2491
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2491
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยเจ้าของร่วม ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วมทั้งหมดจึงมีผลบังคับใช้
จำเลยได้ทำสัญญาแบ่งขายที่ดินซึ่งจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่กับผู้อื่นอีกคนหนึ่ง ให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเนื้อที่ 15 ไร่โดยเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งนั้นมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ดังนี้โจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ตามสัญญาไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 294/2472)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินพิพาท: ศาลพิพากษาตามส่วนแบ่งมรดกได้ แม้ฟ้องขอทั้งหมด
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทจากจำเลยหมดทั้งแปลง โดยอ้างว่า ย่ายกให้แก่บิดาโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า ที่พิพาทยังเป็นของย่าจนกระทั่งตาย จึงเป็นมฤดกควรได้แก่บิดาโจทก์และจำเลยคนละครึ่ง ศาลเห็นสมควรก็พิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งนั้นได้ ไม่เป็นการเกินคำขอในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำได้โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน แต่มีผลผูกพันตามกฎหมายหากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง...โฉนดที่ 4233.....ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้ จ้อยสกุล จะขอมอบกรรมสิทธิที่ดินรายนี้ให้นางปิ่น จ้อยสกุล ซึ่งเป็นภรรยานายโก้ นายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป 320 บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำเองได้ตามกฎหมาย หากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง ผู้ขายมีสิทธิบังคับให้ผู้ซื้อโอนกรรมสิทธิ์
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง... โฉนดที่ 4233......ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้จ้อยสกุลจะขอมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นจ้อยสกุลซึ่งเป็นภรรยานายโก้ และนายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป320บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1154/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองต่อเนื่อง แม้ไม่มีการโอนโฉนด
บิดาจำเลยได้ขายนาให้แก่มารดาโจทก์เมื่อ 20 ปีเศษแล้ว โดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเอง ตกลงกันจะไปโอนโฉนดในภายหลังได้มอบโฉนดและการครอบครองให้แก่ผู้ซื้อทำกินเป็นเจ้าของตลอดมาต่อมาขโมยลักโฉนดนี้ไป เลยไม่ได้โอนโฉนดกัน ดังนี้ โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในทางครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากกับการครอบครองที่ดิน แม้มีพฤติการณ์คล้ายจำนอง ก็ไม่ทำให้สัญญาเปลี่ยนสภาพ
ทำสัญญาขายฝากตามกฎหมาย แม้ผู้ขายฝากมอบที่ให้ ผู้ซื้อฝากจะมอบที่ให้ผู้ขายฝากครอบครองอยู่ ก็ไม่ทำให้เป็นสัญญาจำนอง