พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,546 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการขายแทนทายาท: การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินที่ขายโดยมารดาแทนบุตร
ที่ดินมฤดกตกได้แก่มารดาบุตร เมื่อเจ้ามฤดกตายแล้วทายาทก็เก็บค่าเช่าแบ่งกันต่อมาประมาณ 4 ปี มารดาโอนขายที่มฤดกในนามของตนและแทนเด็กไปตามลำพังดังนี้ อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องแทนเด็กขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายได้
การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้ขายขายในนามของตนเองและขายแทน เมื่อมีการเพิกถอนสัญญาโดยขายแทนเด็กไม่ได้ ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมดส่วนผู้ขายจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ซื้ออย่างไรก็คงมีอยู่ตามกฎหมาย
มารดาขายที่ดินแทนเด็กตามลำพังนั้น ถ้าผู้ซื้อทราบอยู่แล้วว่าเด็กทั้งสองมีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นด้วย ผู้ซื้อจะยกเอาความสุจริตขึ้นต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายเด็กก็ขอให้เพิกถอนสัญญานั้นได้
การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้ขายขายในนามของตนเองและขายแทน เมื่อมีการเพิกถอนสัญญาโดยขายแทนเด็กไม่ได้ ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมดส่วนผู้ขายจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ซื้ออย่างไรก็คงมีอยู่ตามกฎหมาย
มารดาขายที่ดินแทนเด็กตามลำพังนั้น ถ้าผู้ซื้อทราบอยู่แล้วว่าเด็กทั้งสองมีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นด้วย ผู้ซื้อจะยกเอาความสุจริตขึ้นต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายเด็กก็ขอให้เพิกถอนสัญญานั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบตรอกบริษัทขุดคลองฯ ไม่ถือเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เพราะไม่ใช่เอกสารราชการออกให้
ใบตรอกของบริษัทขุดคลองและคูนาสยาม ไม่ใช่หนังสือสำคัญสำหรับที่ดินเพราะไม่ใช่หนังสือของทางราชการออกให้แก่ราษฎร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบตรอกบริษัทขุดคลองไม่ใช่หนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน
ใบตรอกของบริษัทขุดคลองและคูนาสยาม ไม่ใช่หนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน เพราะไม่ใช่หนังสือของทางราชการออกให้แก่ราษฎร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกล้อม – การเสนอค่าทดแทนไม่ใช่เงื่อนไขเบื้องต้น
จำเลยปิดกั้นทางเดินซึ่งโจทก์ใช้เดินออกถนนใหญ่อยู่โดยปกติแม้โจทก์อาจเดินออกมาทางอื่นได้ แต่เป็นทางร่องสวน และต้องเปิดรั้วบ้านบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ทางของปกติชนใช้ไปมาดังนี้ ถือได้ว่าที่โจทก์อยู่ในที่ล้อม
ที่ดินของโจทก์อยู่ในที่ล้อม โจทก์มีสิทธิจะขอทางผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไป สู่ทางสาธารณะได้
จำเลยให้การลอยๆ ว่าโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนที่จะผ่านมิได้เถียงว่าจำเลยไม่เปิดทางให้โจทก์เดินเพราะโจทก์ไม่ให้ค่าทดแทน ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จะนำสืบถึงเรื่องค่าทดแทน
ที่ดินของโจทก์อยู่ในที่ล้อม โจทก์มีสิทธิจะขอทางผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไป สู่ทางสาธารณะได้
จำเลยให้การลอยๆ ว่าโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนที่จะผ่านมิได้เถียงว่าจำเลยไม่เปิดทางให้โจทก์เดินเพราะโจทก์ไม่ให้ค่าทดแทน ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จะนำสืบถึงเรื่องค่าทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องเอกสารกู้เงินและที่ดิน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเอกสารเป็นสัญญากู้เงินให้นาทำต่างดอกเบี้ย
เอกสารซึ่งศาลวินิจฉัย ว่าเป็นสัญญากู้เงินให้นาไว้ทำต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความเอกสารกู้เงินเพื่อพิสูจน์ข้อตกลงซื้อขายที่ดิน: สัญญาซื้อขายหรือกู้เงินทำต่างดอกเบี้ย
เอกสารซึ่งศาลวินิจฉัยว่า เป็นสัญญากู้เงินให้นาไว้ทำต่างดอกเบี้ยไม่ใช่สัญญาซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอาศัยในพินัยกรรม: การตีความตามถ้อยคำในเอกสารสำคัญกว่าเจตนาเดิมของผู้ทำพินัยกรรม
ตัวอย่างพินัยกรรมที่ตีความหมายว่า ให้มีสิทธิอาศัยเฉพาะที่ดินไม่หมายถึงบ้านเรือนด้วย
แม้ศาลจะเชื่อคำพยานบุคคลว่าความประสงค์เดิมของผู้ทำพินัยกรรมอาจประสงค์ให้จำเลยมีสิทธิอาศัยทั้งที่ดินและบ้านเรือนด้วยก็ตามแต่เวลาจดเป็นลายลักษณ์อักษรคงระบุให้อาศัยในที่ดินดังนี้ ย่อมไม่มีสิทธิอาศัยในบ้านเรือนด้วย
แม้ศาลจะเชื่อคำพยานบุคคลว่าความประสงค์เดิมของผู้ทำพินัยกรรมอาจประสงค์ให้จำเลยมีสิทธิอาศัยทั้งที่ดินและบ้านเรือนด้วยก็ตามแต่เวลาจดเป็นลายลักษณ์อักษรคงระบุให้อาศัยในที่ดินดังนี้ ย่อมไม่มีสิทธิอาศัยในบ้านเรือนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน vs. สัญญาเช่าซื้อ: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า "ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ" เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ vs. สัญญาจะซื้อขาย: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า 'ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ' เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: การผิดนัดโอนกรรมสิทธิ์และการเลือกสิทธิเรียกร้อง
การที่คู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งให้ไปทำการโอนขายที่ดิน ก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นกำหนดตามข้อสัญญาเดิม
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่น ไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญา ป.ม.แพ่ง ฯ ม.380 ได้ให้สิทธิ์เจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่น ไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญา ป.ม.แพ่ง ฯ ม.380 ได้ให้สิทธิ์เจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้