คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่งศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งอุทธรณ์เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ใน 5 วัน หากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ทิ้งอุทธรณ์ เมื่อโจทก์มิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ในกำหนดตามคำสั่งศาล จึงต้องถือว่าโจทก์ทิ้งอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2).(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งอุทธรณ์เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ แม้จะวางเงินค่าส่งหมายแล้ว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ใน 5 วัน หากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ทิ้งอุทธรณ์เมื่อโจทก์มิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ในกำหนดตามคำสั่งศาลจึงต้องถือว่าโจทก์ทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องคดีแพ่งจากความไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และการขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียม
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ให้โจทก์ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้องจำเลยมิได้นำส่ง เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าจำเลยทิ้งคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) แม้จำเลยจะมิได้จงใจทิ้งคำร้องก็ไม่มีกฎหมายให้ศาลยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้ จำเลยกล่าวในคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินและในฎีกาว่าขอให้ศาลกรุณาสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินที่จำเลยต้องเสียแทนโจทก์และค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ต่อไป ดังนี้ หาใช่คำร้องขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำได้เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษไม่ แต่เป็นเรื่องขอให้ศาลฎีกาใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมให้ใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องจากความไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และการขยายเวลาชำระค่าฤชาธรรมเนียม
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาคำร้องขอให้ไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาใหม่ให้โจทก์ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง จำเลยมิได้นำส่ง เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าจำเลยทิ้งคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) แม้จำเลยจะมิได้จงใจทิ้งคำร้องก็ไม่มีกฎหมายให้ศาลยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้
จำเลยกล่าวในคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินและในฎีกาว่าขอให้ศาลกรุณาสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินที่จำเลยต้องเสียแทนโจทก์และค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ต่อไป ดังนี้ หาใช่คำร้องขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำได้เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษไม่ แต่เป็นเรื่องขอให้ศาลฎีกาใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมให้ใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6109/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามคำสั่งศาลเกี่ยวกับการวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระเงินตามคำพิพากษา หากไม่ปฏิบัติตามครบถ้วน ถือเป็นการทิ้งคำร้อง
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยว่า ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาวางศาลภายในกำหนด 7 วันย่อมหมายถึงให้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ครั้นวันครบกำหนดจำเลยคงนำแต่ค่าฤชาธรรมเนียมที่ใช้แทนโจทก์มาวางศาลเท่านั้นมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ถือได้ว่าจำเลยทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งคำสั่งศาล การตรวจเอกสารโดยผู้เชี่ยวชาญ และสิทธิในการรับมรดก
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา ในกรณีที่ศาลเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเอกสารในสำนวน และศาลเห็นสมควร ศาลก็ย่อมใช้อำนาจของศาลเองที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 99ส่งเอกสารนั้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ได้ โดยไม่จำต้องให้คู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยื่นบัญชีระบุพยานหรือระบุชื่อผู้เชี่ยวชาญ จำเลยเป็นพี่ชายเจ้ามรดก ส่วนโจทก์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก จำเลยเป็นทายาทลำดับหลังโจทก์ ไม่มีสิทธิรับมรดกรายนี้ จำเลยจึงยกอายุความมรดก 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755 มาต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลในชั้นบังคับคดีที่ผิดหลง โจทก์มีสิทธิร้องขอเพิกถอนได้ แม้จำเลยอ้างเหตุภายหลัง
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากไม่อาจจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ได้เพราะสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องโดยเหตุสุดวิสัย ก็ให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์ จำเลยขอปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยวิธีคืนเงินให้โจทก์ อ้างเหตุผลในคำร้องว่าจำเลยจำต้องใช้บ้านที่อยู่อาศัย จำเลยไม่มีบ้านอื่นอีก ไม่สามารถหาที่อยู่ใหม่ได้และจำเลยเอาโฉนดไปประกันหนี้เงินกู้ไว้เหตุดังกล่าวไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่จำเลยไม่อาจจดทะเบียนโอนที่ดินและบ้านได้ เพราะขณะที่จำเลยยื่นคำร้องจำเลยยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านอยู่ในวิสัยที่จะโอนให้ได้การที่ศาลชั้นต้นไม่สอบถามโจทก์ก่อนและสั่งอนุญาตตามคำร้องของจำเลยจึงเป็นการสั่งโดยผิดหลงและเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งในชั้นบังคับคดีไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าให้เป็นที่สุด เมื่อโจทก์ร้องขอให้เพิกถอน ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจเพิกถอนได้ ที่จำเลยอ้างว่าได้โอนขายที่และบ้านให้บุคคลภายนอกไปแล้วไม่สามารถจดทะเบียนโอนให้โจทก์นั้น ก็เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำขึ้นในภายหลังที่จำเลยทราบคำบังคับของศาลแล้ว ไม่เป็นเหตุที่จะไม่ให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ผิดหลงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องมีคำสั่งขาดนัด: จำเลยต้องได้รับการแจ้งให้ทราบถึงการขาดนัดเสียก่อน จึงจะสามารถขอพิจารณาคดีใหม่ได้
คู่ความที่จะมีคำขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ได้นั้นจะต้องปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งให้เป็นฝ่ายขาดนัดพิจารณาเสียก่อน ถ้าไม่มีคำสั่งของศาลดังกล่าว สิทธิที่จะขอพิจารณาคดีใหม่ของคู่ความก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4276/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับความสำคัญการชำระหนี้หลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์: เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องเสนอคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์และธนาคารส่งเงินของจำเลยมาให้ตามหมายอายัดของศาลแล้ว ต่อมาจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายซึ่งผู้คัดค้านเป็นโจทก์ ดังนี้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในอีกคดีหนึ่ง จะขอรับเงินดังกล่าวส่วนที่เหลือจากชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีนี้หาได้ไม่ผู้ร้องได้แต่ขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามวิธีการและกำหนดเวลาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 27 และ 28 เท่านั้น และผู้คัดค้านจะขอให้ศาลส่งเงินที่เหลือจากชำระหนี้ให้โจทก์ในคดีนี้ไปรวมไว้ในกองทรัพย์สินของจำเลยในคดีล้มละลายก็ไม่ได้ เพราะเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยแล้ว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22(2)เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจเก็บรวบรวม และรับเงินหรือทรัพย์สินที่จะตกได้แก่จำเลยหรือซึ่งจำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3914/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบฉันทะเพื่อฟังคำสั่งศาลและการเพิกเฉยต่อการดำเนินคดีทำให้ศาลจำหน่ายคดีได้
ศาลนัดพร้อมเพื่อพิจารณาคำร้องของโจทก์ในเรื่องค่าธรรมเนียมถอนการยึดพร้อมกับนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์มอบฉันทะให้ ช. มายื่นคำร้องขอถอนฟ้องและฟังคำสั่งศาล แม้ใบมอบฉันทะจะไม่ระบุชัดว่าให้ฟังคำสั่งศาลในเรื่องอะไร แต่โจทก์ก็ทราบว่าศาลนัดพิจารณาคำร้องกับสืบพยานโจทก์พร้อมกัน และศาลต้องมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของโจทก์ด้วย จึงถือได้ว่าโจทก์มอบฉันทะเพื่อฟังคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของโจทก์ด้วย เมื่อศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง และเลื่อนการพิจารณาคำร้องไป โดยให้โจทก์วางเงินค่านำส่งหมายนัดแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ แต่โจทก์ไม่ปฏิบัติและไม่ไปศาลตามกำหนดนัด ก็ต้องถือว่าโจทก์ทิ้งคำร้อง และศาลชอบที่จะจำหน่ายคดีของโจทก์เสียได้
of 79