คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 532 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน: การกระทำทุจริตตั้งแต่ต้นทำให้ไม่เข้าข่ายความผิดฐานเบียดบังทรัพย์
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ลงโทษเจ้าพนักงานผู้เรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สินโดยมิชอบ เพื่อกระทำการในตำแหน่งของตนแต่จำเลยแกล้งจับผู้เสียหายมาแล้วขู่เอาเงินจึงเป็นความผิดตามมาตรา 148 ไม่ใช่ 149
ความผิดตามมาตรา 147 ผู้กระทำผิดต้องมีหน้าที่จัดการหรือรักษาเงินนั้นโดยชอบแล้วเบียดบังเอาเสีย จำเลยไม่มีหน้าที่จัดการหรือรักษาเงินโดยชอบ ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้
มาตรา 157 เป็นบทที่บัญญัติไว้อย่างกว้างเมื่อการกระทำของจำเลยต้องด้วยบทที่บัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะคือ มาตรา 148 แล้วย่อมไม่ผิดตามมาตรา 157 อีก
ศาลล่างวางบทลงโทษจำเลยเกินมา แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงจากการหลอกลวงโดยทุจริต
จำเลยนำข้อความอันเป็นเท็จไปกล่าวหลอกลวงเขาโดยทุจริตทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง แล้วมอบเงินให้จำเลยไปนั้นเป็นความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้: การเลิกห้างและขยายกิจการไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 นั้น การโอนทรัพย์ต้องประกอบด้วยเจตนาเพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นประการสำคัญด้วย การที่ลูกหนี้เลิกห้างเดิมและขยายกิจการตั้งเป็นบริษัทขึ้นใหม่มีทุนมากขึ้นนั้น ยังถือไม่ได้ว่าลูกหนี้มีเจตนาย้ายหรือโอนทรัพย์เพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริตเรียกรับเงินปล่อยตัวผู้ต้องหา ความผิดตามมาตรา 149 ย่อมไม่ผิดมาตรา 157
เป็นเจ้าพนักงานทำการจับกุมเขาโดยชอบแล้ว แต่กลับทุจริตเรียกและรับเงินแล้วปล่อยไปไม่ส่งตัวเพื่อดำเนินคดี ความผิดย่อมเข้าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2502 มาตรา 5 แต่ไม่ผิดมาตรา 148 เพราะมาตรา 148 เป็นเรื่องเริ่มต้นด้วยการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบแต่มาตรา 149 นั้น เป็นเรื่องเริ่มต้นโดยใช้อำนาจในตำแหน่งโดยชอบแล้วกลับทุจริต
อนึ่ง เมื่อผิดมาตรา 149 อันเป็นบทเฉพาะแล้วย่อมไม่ผิดมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริตเรียกรับเงินแล้วปล่อยตัวผู้ต้องหา ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149
เป็นเจ้าพนักงานทำการจับกุมเขาโดยชอบแล้ว แต่กลับทุจริตเรียกและรับเงินแล้วปล่อยตัวไปไม่ส่งตัวเพื่อดำเนินคดี ความผิดย่อมเข้าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2502 มาตรา 5 แต่ไม่ผิดมาตรา 148 เพราะมาตรา148 เป็นเรื่องเริ่มต้นด้วยการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ แต่มาตรา 149 นั้น เป็นเรื่องเริ่มต้นโดยใช้อำนาจในตำแหน่งโดยชอบแล้วกลับทุจริต
อนึ่ง เมื่อผิดมาตรา 149 อันเป็นบทเฉพาะแล้วย่อมไม่ผิดมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ทุจริตหน้าที่ & แจ้งเท็จเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จดบัญชีสัตว์พาหนะ ทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะเท็จตามคำขอร้องของลูกบ้าน แม้จะไม่ได้รับสินจ้างรางวัล แต่ทำให้ลูกบ้านได้รับประโยชน์นำไปใช้อ้างต่อตำรวจที่ยึดโคนั้น นับว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์สำหรับผู้อื่นแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162
ลูกบ้านต้องการหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านจดข้อความอันเป็นเท็จลงไปในบัญชีสัตว์พาหนะนั้น ย่อมมีความผิดฐานแจ้งเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 แต่ไม่ผิดฐานสนับสนุนในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เพราะการทุจริตต่อหน้าที่เป็นผิดเฉพาะของเจ้าพนักงาน การแจ้งเท็จหาได้เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการทุจริตต่อหน้าที่อีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ใหญ่บ้านจดบัญชีสัตว์เท็จช่วยเหลือลูกบ้าน เจ้าพนักงานทุจริต, ลูกบ้านแจ้งเท็จ
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จดบัญชีสัตว์พาหนะ ทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะเท็จตามคำขอร้องของลูกบ้าน แม้จะไม่ได้รับสินจ้างรางวัล แต่ทำให้ลูกบ้านได้รับประโยชน์นำไปใช้อ้างต่อตำรวจที่ยึดโคนั้น นับว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์สำหรับผู้อื่นแล้วจึงถือได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157,162(1)
ลูกบ้านต้องการหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านจดข้อความอันเป็นเท็จลงไปในบัญชีสัตว์พาหนะนั้น ย่อมมีความผิดฐานแจ้งเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 แต่ไม่ผิดฐานสนับสนุนในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เพราะการทุจริตต่อหน้าที่เป็นผิดเฉพาะของเจ้าพนักงาน การแจ้งเท็จหาได้เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการทุจริตต่อหน้าที่ขึ้นอีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบุรุษไปรษณีย์และกรมไปรษณีย์ต่อการส่งธนาณัติผิดพลาดทำให้เกิดการทุจริต
บุรุษไปรษณีย์อ้างว่าได้ส่งจดหมายธนาณัติให้คนในบ้านของโจทก์ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่คนในบ้านโจทก์ เป็นเหตุให้มีคนปลอมชื่อโจทก์รับเงินไป ต้องถือว่าบุรุษไปรษณีย์ประมาท กรมไปรษณีย์โทรเลขต้องร่วมรับผิดด้วย กรณีเช่นนี้ไม่เข้ามาตรา 55 วรรคต้น แห่งพระราชบัญญัติไปรษณีย์พ.ศ.2477

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริตหน้าที่ลักทรัพย์-เก็บเงินส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของเทศบาลมีหน้าที่เก็บเงินของเทศบาล จำเลยลักใบเสร็จเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่ง แล้วจำเลยนำใบเสร็จไปเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้า แล้วนำเงินนั้นไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องตามบทบัญญัติมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ ลักใบเสร็จเก็บเงินค่าไฟฟ้าแล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของเทศบาลมีหน้าที่เก็บเงินของเทศบาลจำเลยลักใบเสร็จเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่ง แล้วจำเลยนำใบเสร็จไปเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าแล้วนำเงินนั้นไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องตามบทบัญญัติ มาตรา 157ประมวลกฎหมายอาญา
of 54