พบผลลัพธ์ทั้งหมด 519 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ออกใบแทนโฉนดปลอมประมาทเลินเล่อ กรมที่ดินต้องรับผิดร่วม
มีผู้ปลอมตัวเป็นเจ้าของที่ดินนำซากโฉนดที่ดินซึ่งถูกไฟไหม้บางส่วนไปยื่นคำขอใบแทนโฉนดต่อสำนักงานที่ดิน ซึ่งถ้าหากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินมิได้ละเลยในการตรวจสอบหรือได้ทำการตรวจสอบโดยไม่ได้ประมาทเลินเล่อก็จะพบได้โดยง่ายและโดยไม่ต้องใช้ความรู้หรือความชำนาญพิเศษอย่างใดว่า ซากโฉนดนั้นเป็นซากโฉนดปลอม เพราะมีข้อความผิดกันกับข้อความที่มีอยู่ในโฉนดฉบับสำนักงานที่ดินหลายแห่ง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินก็ได้ออกใบแทนโฉนดให้ไปโดยไม่ได้ตรวจสอบซากโฉนดหรือตรวจสอบโดยไม่ได้ใช้ความพินิจพิเคราะห์เท่าที่ควร อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินที่มีส่วนในการออกใบแทนโฉนดจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์เนื่องจากได้รับจำนองและรับโอนที่ดินตามใบแทนโฉนดที่สำนักงานที่ดินออกให้นั้น
เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินซึ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกรมที่ดินปฏิบัติราชการในหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมที่ดิน ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์กรมที่ดินต้องร่วมรับผิดด้วย
เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินซึ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกรมที่ดินปฏิบัติราชการในหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมที่ดิน ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์กรมที่ดินต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533-1534/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดคลองลัดโดยประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อที่ดินของผู้อื่น จำเลยต้องรับผิดชอบ
จำเลยขุดคลองลัดตรงหัวโค้งมีความกว้างเพียง 15 วาเพื่อใช้ในการลำเลียงแร่ไปสู่เรือกลไฟกลางทะเล โดยปราศจากความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงว่าคลองที่จำเลยขุดจะรับน้ำที่ไหลตามคลองเดิมได้เพียงพอหรือไม่ ถึงฤดูมรสุมในระยะที่เกิดเหตุฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทั้งคลื่นลมในทะเลแรงกว่าปกติคลองที่จำเลยขุดไม่อาจรับน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงได้เพียงพอ เป็นเหตุให้น้ำดันเขื่อนไม้ที่จำเลยทำไว้พังและเซาะที่ดินของโจทก์พังกลายสภาพเป็นทะเล ดังนี้ เป็นผลโดยตรงจากการขุดคลองลัดของจำเลย จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศบาลประมาทเลินเล่อปล่อยสะพานชำรุด ผู้เสียหายประมาทร่วมด้วย ศาลลดค่าเสียหาย
จำเลยซึ่งเป็นเทศบาลมีหน้าที่ดูแลสะพานให้มีความมั่นคงแข็งแรง การที่จำเลยปล่อยปละละเลยให้สะพานผุพัง ราวสะพานเป็นช่องโหว่อยู่ก่อนผู้เสียหายตกลงไปไม่รีบซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยปลอดภัย นับว่าเป็นการประมาทเลินเล่อของจำเลยอันเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้เสียหายเมื่อพิเคราะห์ถึงการที่โจทก์ตกสะพานไป โดยไม่เดินอย่างคนธรรมดามัวแต่จับตาอยู่ดูการชกต่อยระหว่างเด็ก 2 คน เสียและเอาหลังพิงราวสะพานเอามือรูดไปจนถึงช่องโหว่จนตกไป เช่นนี้ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความผิดของโจทก์อยู่ด้วย ถือได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะความผิดของโจทก์มีส่วนประกอบด้วย ค่าสินไหมทดแทนอันโจทก์ควรจะได้รับมากน้อยเพียงใด จึงต้องอาศัยพฤติการณ์แห่งกรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นประมาณตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 223
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการปล่อยกระแสไฟฟ้าที่รั้วชำรุด ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ต้องรับผิดทางละเมิด แม้กระทำในเขตบ้าน
จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ที่ลวดหนามซึ่งขึงอยู่ด้านในของเสารั้วภายในเขตบ้านจำเลย โดยมีรั้วไม้ไผ่ที่ด้านนอกของเสา แต่รั้วไม้ไผ่ชำรุดโจทก์อยู่บ้านติดต่อกับจำเลย เอื้อมมือไปเก็บผ้าซึ่งปลิวไปติดรั้วบ้านจำเลยมือไปถูกลวดหนาม ถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานละเมิด
กระทำละเมิดต่อผู้อื่นโดยประมาทเลินเล่อ แม้จะทำภายในบริเวณบ้านของตนผู้กระทำก็ต้องรับผิด
กระทำละเมิดต่อผู้อื่นโดยประมาทเลินเล่อ แม้จะทำภายในบริเวณบ้านของตนผู้กระทำก็ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของบ้านต้องรับผิดเมื่อประมาทเลินเล่อทำให้เพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บ แม้เหตุเกิดในบ้านตน
จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ที่ลวดหนามซึ่งขึงอยู่ด้านในของเสารั้วภายในเขตบ้านจำเลย โดยมีรั้วไม้ไผ่ที่ด้านนอกของเสา แต่รั้วไม้ไผ่ชำรุดโจทก์อยู่บ้านติดต่อกับจำเลยเอื้อมมือไปเก็บผ้าซึ่งปลิวไปติดรั้วบ้านจำเลยมือไปถูกลวดหนาม ถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานละเมิด
กระทำละเมิดต่อผู้อื่นโดยประมาทเลินเล่อ แม้จะทำภายในบริเวณบ้านของตนผู้กระทำก็ต้องรับผิด
กระทำละเมิดต่อผู้อื่นโดยประมาทเลินเล่อ แม้จะทำภายในบริเวณบ้านของตนผู้กระทำก็ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายจากบุคคลที่สาม หากไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการดูแลทรัพย์สิน
โจทก์ปลูกอาคารไม้ 2 ชั้น และมีโรงเรือนของ น.กับ ร.ปลูกติดกับรั้วของโจทก์ น. กับ ร. ยอมยกอาคารให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยคนร้ายลอบเข้าไปในบริเวณบ้านเรือนของ น. กับ ร. และวางเพลิงเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย ดังนี้ความเสียหายของโจทก์เกิดจากการกระทำของบุคคลที่สามหาใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยไม่ การที่จำเลยไม่จัดหาคนเฝ้าบ้านของ น. กับร. หรือไม่รื้อถอนอาคารดังกล่าวไม่มีกฎหมายบทใดบัญญัติให้จำเลยมีหน้าที่ต้องทำจะถือว่าจำเลยประมาทเลินเล่อไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารประมาทเลินเล่อเรียกเก็บเช็คเข้าบัญชีบุคคลอื่น แม้สุจริตแต่เจ้าของเช็คมีสิทธิเรียกร้อง
ชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY เป็นชื่อที่ตัวโจทก์ขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์เพื่อใช้ในการประกอบพาณิชยกิจและนายทะเบียนได้จดทะเบียนให้แล้วโจทก์จึงเป็นเจ้าของชื่อนั้นโดยชอบเมื่อเช็คที่พิพาทระบุชื่อโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบ ก. เป็นแต่ผู้ทำการแทนร้านและเซ็นสัญญาในนามของร้านไม่ใช่ผู้มีชื่อที่ระบุในเช็คก. จึงไม่ใช่ผู้ทรงเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารจำเลย จึงมีอำนาจฟ้อง
เช็คพิพาทระบุชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY ซึ่งเป็นชื่อโจทก์จดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์แล้วเป็นผู้ถือและขีดคร่อมพร้อมทั้งเขียนคำสั่งว่า ACCOUNTPAYEEONLY คือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือ ปรากฏว่าโจทก์ถอน ก. จากการเป็นตัวแทนเสียแล้ว ก.ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทเข้าบัญชีของตนได้ถึงแม้ว่าธนาคารจำเลยเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตไม่ทราบเรื่องการบอกเลิกการเป็นตัวแทนแต่การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คเข้าบัญชีของ ก.เท่ากับเป็นการนำเช็คของโจทก์ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของ ก. โดยเชื่อว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นทางให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้เป็นทางปฏิบัติที่ธนาคารทั้งหลายไม่พึงกระทำถือว่าธนาคารจำเลยประมาทเลินเล่อแม้ธนาคารจำเลยจะสุจริตจริงแต่เมื่อ ก. ไม่มีสิทธิในเช็คธนาคารจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น กรณีไม่เข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1000
เช็คพิพาทระบุชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY ซึ่งเป็นชื่อโจทก์จดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์แล้วเป็นผู้ถือและขีดคร่อมพร้อมทั้งเขียนคำสั่งว่า ACCOUNTPAYEEONLY คือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือ ปรากฏว่าโจทก์ถอน ก. จากการเป็นตัวแทนเสียแล้ว ก.ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทเข้าบัญชีของตนได้ถึงแม้ว่าธนาคารจำเลยเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตไม่ทราบเรื่องการบอกเลิกการเป็นตัวแทนแต่การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คเข้าบัญชีของ ก.เท่ากับเป็นการนำเช็คของโจทก์ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของ ก. โดยเชื่อว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นทางให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้เป็นทางปฏิบัติที่ธนาคารทั้งหลายไม่พึงกระทำถือว่าธนาคารจำเลยประมาทเลินเล่อแม้ธนาคารจำเลยจะสุจริตจริงแต่เมื่อ ก. ไม่มีสิทธิในเช็คธนาคารจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น กรณีไม่เข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1000
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารประมาทเลินเล่อเรียกเก็บเช็คเข้าบัญชีผู้อื่น แม้มีหนังสือมอบอำนาจ แต่ตัวแทนสิ้นสภาพแล้ว เจ้าของเช็กร้องเรียนได้
ชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY เป็นชื่อที่ตัวโจทก์ขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์. เพื่อใช้ในการประกอบพาณิชยกิจ. และนายทะเบียนได้จดทะเบียนให้แล้ว. โจทก์จึงเป็นเจ้าของชื่อนั้นโดยชอบ. เมื่อเช็คที่พิพาทระบุชื่อโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบ. ก.เป็นแต่ผู้ทำการแทนร้านและเซ็นสัญญาในนามของร้าน. ไม่ใช่ผู้มีชื่อที่ระบุในเช็ค. ก.จึงไม่ใช่ผู้ทรง. เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารจำเลย จึงมีอำนาจฟ้อง.
เช็คพิพาทระบุชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY ซึ่งเป็นชื่อโจทก์.จดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์แล้วเป็นผู้ถือและขีดคร่อม. พร้อมทั้งเขียนคำสั่งว่า ACCOUNTPAYEEONLY คือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือ. ปรากฏว่าโจทก์ถอน ก.จากการเป็นตัวแทนเสียแล้ว. ก.ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทเข้าบัญชีของตนได้. ถึงแม้ว่าธนาคารจำเลยเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตไม่ทราบเรื่องการบอกเลิกการเป็นตัวแทน. แต่การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คเข้าบัญชีของก.. เท่ากับเป็นการนำเช็คของโจทก์ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของ ก. โดยเชื่อว่าเป็นตัวแทนของโจทก์. ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นทางให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้. เป็นทางปฏิบัติที่ธนาคารทั้งหลายไม่พึงกระทำ. ถือว่าธนาคารจำเลยประมาทเลินเล่อ. แม้ธนาคารจำเลยจะสุจริตจริง. แต่เมื่อ ก. ไม่มีสิทธิในเช็ค.ธนาคารจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น. กรณีไม่เข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1000.
เช็คพิพาทระบุชื่อ SALWEENINDENTINGAGENCY ซึ่งเป็นชื่อโจทก์.จดทะเบียนต่อนายทะเบียนพาณิชย์แล้วเป็นผู้ถือและขีดคร่อม. พร้อมทั้งเขียนคำสั่งว่า ACCOUNTPAYEEONLY คือเป็นทำนองห้ามเปลี่ยนมือ. ปรากฏว่าโจทก์ถอน ก.จากการเป็นตัวแทนเสียแล้ว. ก.ไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทเข้าบัญชีของตนได้. ถึงแม้ว่าธนาคารจำเลยเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตไม่ทราบเรื่องการบอกเลิกการเป็นตัวแทน. แต่การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คเข้าบัญชีของก.. เท่ากับเป็นการนำเช็คของโจทก์ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของ ก. โดยเชื่อว่าเป็นตัวแทนของโจทก์. ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นทางให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้. เป็นทางปฏิบัติที่ธนาคารทั้งหลายไม่พึงกระทำ. ถือว่าธนาคารจำเลยประมาทเลินเล่อ. แม้ธนาคารจำเลยจะสุจริตจริง. แต่เมื่อ ก. ไม่มีสิทธิในเช็ค.ธนาคารจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น. กรณีไม่เข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1000.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของกรมที่ดินจากเจ้าหน้าที่ประมาทเลินเล่อในการรับมอบอำนาจปลอม และการวินิจฉัยนอกประเด็นฟ้อง
ในคดีละเมิด โจทก์บรรยายฟ้องเพื่อแสดงว่าจำเลยที่ 2(กรมที่ดิน) ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายร่วมกับจำเลยที่ 1ต่อโจทก์ คงมีตามฟ้องข้อ 3 ข้อเดียวว่า ศ.มอบโฉนดที่ดินไว้กับจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดิน ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการจำเลยที่ 2 ที่ 3 ยอมรับหนังสือมอบอำนาจปลอมที่ว่า ศ.มอบอำนาจให้ ม.มีอำนาจขายกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ โดยมิได้สอบถาม ศ.เจ้าของที่ดินให้ทราบเหตุผลว่า เหตุใดจึงกลายเป็นมอบอำนาจให้ ม. มีอำนาจขายกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ ทั้งๆ ที่ ศ.มามอบโฉนดให้แก่จำเลยที่ 3 ด้วยตนเอง ดังนี้คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดต่อโจทก์เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 3 หรือไม่เท่านั้น ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยชี้ขาดมาแล้วว่า จำเลยที่ 3 มิได้ประมาทเลินเล่อ ทั้งคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 3 ก็ได้ยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อเป็นดังนี้จำเลยที่ 2 จึงไม่ควรรับผิดต่อโจทก์ เพราะการกระทำของจำเลยที่ 3 แต่อย่างใด ฉะนั้นการที่ศาลอุทธรณ์ได้ยกเอาเหตุแห่งการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กระทำไปโดยความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หมวดคำขอ ซึ่งเป็นผู้รับโฉนดไว้จาก ศ.เพื่อทำการแบ่งแยก แต่แล้วกลับมอบให้ธ.ไป จนเป็นเหตุให้ท.กับพวกสมคบกันนำใบมอบอำนาจไปจดทะเบียนการซื้อขายและขายฝากต่อๆ ไปจนสำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ผู้นั้นควรจะได้มอบโฉนดให้แก่ ศ.รับไปด้วยตนเองหรือเรียกเอาใบรับโฉนดที่ออกให้แก่ ศ.กลับคืนมาไว้เป็นหลักฐานก็ดี และการที่ศาลอุทธรณ์ยกเอาเหตุแห่งการปฏิบัติหน้าที่ราชการของ ป.และ ว.เจ้าหน้าที่หมวดรักษาทะเบียน โดยความบกพร่องในการตรวจสอบลายเซ็นชื่อของ ศ.ในใบมอบอำนาจปลอมขึ้นอ้าง เพื่อให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ก็ดีจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่โจทก์บรรยายฟ้องมาทั้งสิ้น เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยเจตนาทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ไม่ใช่ประมาทเลินเล่อ
การที่จำเลยใช้เส้นลวดที่ไม่มีวัตถุใดๆ ห่อหุ้มขึงทางด้านบนของรั้วไม้โรงภาพยนต์ของจำเลย แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า220 โวลท์ไปตามเส้นลวดนั้น. เพื่อป้องกันมิให้คนข้ามรั้วเข้าไปลอบดูภาพยนต์ทางรูฝาโรงภาพยนต์. เป็นการกระทำที่จำเลยมิได้เจตนาฆ่าแต่เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา290. หาใช่ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291 ไม่.
ฟ้องว่าทำให้คนตายโดยประมาท ข้อเท็จจริงได้ความว่าทำให้คนตายโดยไม่เจตนา. ต้องยกฟ้อง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2511).
ฟ้องว่าทำให้คนตายโดยประมาท ข้อเท็จจริงได้ความว่าทำให้คนตายโดยไม่เจตนา. ต้องยกฟ้อง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2511).