พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3003/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันสืบพยานคือวันเริ่มต้นสืบพยาน การไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยไม่ใช่ขาดนัดพิจารณา
วันสืบพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(10)หมายความถึงวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว นัดสืบพยานจำเลย การที่จำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย จึงไม่ใช่เป็นการขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสองศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบให้งดสืบพยานจำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ จำเลยจะต้องอุทธรณ์ต่อไป จะยื่นคำร้องว่าไม่จงใจขาดนัด ขอให้พิจารณาคดีใหม่หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2667/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดพยานแล้วนำสืบใหม่ การไม่เสียเปรียบจำเลย และการลดโทษจำคุก
ศาลตัดพยานโจทก์ปากผู้เสียหายเพราะไม่สามารถนำพยานมาศาล แต่เมื่อการพิจารณายังไม่เสร็จ โจทก์เอาตัวผู้เสียหายมาศาลได้ก่อนสืบพยานจำเลย กรณีไม่ใช่โจทก์ไม่ติดใจสืบพยานปากนี้แล้ว โจทก์ไม่หมดสิทธิที่จะสืบพยานปากนี้ โจทก์พยายามนำพยานปากนี้มาสืบ เมื่อผู้เสียหายไม่มาก็แถลงว่าผู้เสียหายหลีกเลี่ยง ศาลออกหมายจับผู้เสียหาย และโจทก์แถลงว่าผู้เสียหายเป็นพยานคู่กับ ร.ต.ท. ภ. แสดงว่าโจทก์มิได้เอาเปรียบจำเลยในการดำเนินคดีแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุ แม้สืบพยานไปบ้างแล้ว
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้น ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาล คือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลเพื่อสืบพยานต่อ แม้ศาลจะยังไม่ดำเนินกระบวนการฝ่ายจำเลย
การที่โจทก์ไม่มาศาลหลังจากสืบพยานโจทก์บ้างแล้วนั้นศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา166 ได้ เพราะโจทก์ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติต่อศาลคือนำพยานเข้าสืบอีก หากไม่ติดใจสืบก็ต้องแถลงให้ศาลทราบ และเรื่องการไม่มาศาลตามกำหนดนัดนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดมาอนุโลมบังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีแพ่ง: รายละเอียดที่ไม่จำเป็นในฟ้อง ไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม หากมีรายละเอียดที่ต้องสืบภายหลัง
การบรรยายฟ้องในคดีแพ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าฟ้องจะต้องแสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น หาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง แม้โจทก์ไม่แนบบัญชีกระแสรายวันมาท้ายฟ้อง และมิได้บรรยายโดยละเอียดตั้งแต่จำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือบัญชีเดินสะพัดว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชีกระแสรายวัน และทำใบนำเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันในแต่ละเดือนเท่าใดอย่างใด ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะต้องสืบเมื่อมีประเด็นโต้เถียงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องคำให้การสั่งงดชี้สองสถาน แล้วพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษา ใหม่ จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังนี้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 200 บาท ตามตาราง1(2)(ข) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 1440/2520)
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง แม้โจทก์ไม่แนบบัญชีกระแสรายวันมาท้ายฟ้อง และมิได้บรรยายโดยละเอียดตั้งแต่จำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือบัญชีเดินสะพัดว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชีกระแสรายวัน และทำใบนำเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันในแต่ละเดือนเท่าใดอย่างใด ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะต้องสืบเมื่อมีประเด็นโต้เถียงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องคำให้การสั่งงดชี้สองสถาน แล้วพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษา ใหม่ จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังนี้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 200 บาท ตามตาราง1(2)(ข) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 1440/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำเบิกความจากคดีอื่นโดยไม่ได้รับการร้องขอเป็นอำนาจศาลตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การที่ศาลชั้นต้นรับฟังคำเบิกความของพยาน ซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่นมาประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ถือได้ว่าเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานเพิ่มเติมโดยพลการโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดร้องขอเป็นอำนาจของศาลที่จะกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 ประกอบด้วยมาตรา171
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดระยะเวลาการยื่นบัญชีระบุพยานต้องชัดเจน หากศาลเลื่อนนัดสืบพยาน จำเลยมีสิทธิยื่นภายหลังได้
แม้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ จะให้อำนาจศาลแรงงานที่จะกำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานภายในระยะเวลาเท่าใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรแต่ระยะเวลาที่กำหนดจำต้องให้ชัดแจ้งและแน่นอนดังนั้น เมื่อศาลแรงงานกำหนดนัดสืบพยานโจทก์แล้วได้สั่งให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดโดยมิได้กำหนดให้ยื่นก่อนวันนัดแรกจึงเป็นที่เข้าใจว่า ศาลแรงงานสั่งให้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานซึ่งจะมีการสืบพยานกันจริง ๆ เมื่อในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกศาลแรงงานมิได้สืบพยานแต่ได้อนุญาตให้เลื่อนไปสืบนัดต่อไป จำเลยย่อมมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์นัดต่อไป โดยไม่จำต้องยื่นคำร้องขออนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาคนอนาถาไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อมีทรัพย์สินเพียงพอชำระค่าฤชาธรรมเนียม และศาลไม่ผิดที่ไม่อนุญาตเลื่อนสืบพยาน
จำเลยฎีกาอย่างคนอนาถา เมื่อแพ้คดีชั้นฎีกาศาลฎีกาให้จำเลยซึ่งมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและทำสัญญาจำนองไว้แก่โจทก์ เสียค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาในส่วนที่ได้รับยกเว้นทั้งหมด ถ้าไม่ชำระก็ให้เอาชำระจากทรัพย์สินที่จำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขาดนัดพิจารณาคดีแรงงาน ศาลพิจารณาและชี้ขาดได้โดยไม่ต้องสืบพยานจำเลย
เมื่อจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ถือได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 197 วรรคสอง ศาลชอบที่จะพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522มาตรา 31 โดยไม่จำต้องเลื่อนไปสืบพยานจำเลยอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานในคดีค่าธรรมเนียมท่าเรือ: ประเด็นข้อพิพาทเรื่องประเภทสินค้า (น้ำมันเชื้อเพลิง) ต้องสืบพยาน
ข้อเท็จจริงบางประเด็นตามฟ้องและคำให้การจำเลยยังโต้เถียงกันอยู่ รับฟังเป็นยุติไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยการพิจารณา ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่