คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เงื่อนไข

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินมีเงื่อนไขยังไม่ถือเป็นการสละสิทธิ การทำนบขวางทางน้ำถือเป็นการละเมิด
การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้ และการจะทำสพานอย่างไรต้องปรึกษากันก่อน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ ก็ยังไม่ได้ทำขึ้นแล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์ยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ เมื่อจำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำและขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการย่อมเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ๆมีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลย ให้ทำลายทำนบถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนาของโจทก์ให้เป็นไปตามสภาพเดิม ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินมีเงื่อนไขยังไม่ถือเป็นการสละสิทธิ การเข้ายึดครองโดยไม่ชอบเป็นละเมิด
การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะ โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสะพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้ และการจะทำสะพานอย่างไรต้องปรึกษากันก่อน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ ก็ยังไม่ได้ทำขึ้น แล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์ยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ เมื่อจำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำและขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการย่อมเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์มีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลยให้ทำลายทำนบถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนาของโจทก์ให้เป็นไปตามสภาพเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ศาลฎีกาพิจารณาเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายอาญาแทน พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
โจทก์ฟ้องขอให้กักกันจำเลยในฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย โดยจำเลยเคยทำผิดต้องโทษจำคุกอันมิใช่ประมาทหรือลหุโทษมา 4 ครั้ง และมาทำผิดฐานชิงทรัพย์อีก โจทก์จึงฟ้องขอให้กักกันจำเลยฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าการลงโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ. กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ. 2479 นั้น มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ศาลฎีกาจึงยกบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายอาญาอันมีมาตรา 43, 41 เป็นต้นมาใช้แทน และชี้ว่าตาม ม.43 โจทก์มีอำนาจแยกฟ้องได้ แต่ตาม ม.41 จะลงโทษกักกันได้ต่อเมื่อจำเลยเคยต้องโทษกักกันมาแล้ว หรือเคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง และมาทำผิด จำเลยนี้เคยต้องโทษเกิน 6 เดือนครั้งเดียว จึงยังฟ้องให้ลงโทษกักกันจำเลย ไม่ได้ ให้ยกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย: เงื่อนไขการลงโทษและอำนาจฟ้องแยก
โจทก์ฟ้องขอให้กักกันจำเลยในฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายโดยจำเลยเคยทำผิดต้องโทษจำคุกอันมิใช่ประมาทหรือลหุโทษมา 4 ครั้ง และมาทำผิดฐานชิงทรัพย์อีกโจทก์จึงฟ้องขอให้กักกันจำเลยฐานเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญาแล้วศาลฎีกาเห็นว่าการลงโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479นั้น มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ศาลฎีกาจึงยกบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญาอันมีมาตรา 43,41 เป็นต้นมาใช้แทนและชี้ว่าตาม มาตรา43 โจทก์มีอำนาจแยกฟ้องได้แต่ตาม มาตรา 41 จะลงโทษกักกันได้ต่อเมื่อจำเลยเคยต้องโทษกักกันมาแล้ว หรือเคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนไม่น้อยกว่า 2 ครั้งและมาทำผิด จำเลยนี้เคยต้องโทษเกิน 6เดือนครั้งเดียว จึงยังฟ้องให้ลงโทษกักกันจำเลยไม่ได้ ให้ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินกับคนต่างด้าว: สัญญาซื้อขายสมบูรณ์หากกฎหมายไม่ได้ห้าม เงื่อนไขทางวาจาไม่มีผลบังคับ อายุความครอบครองเป็นปัจจัยสำคัญ
การขายที่ดินให้คนต่างด้าวนั้น พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มิได้ห้ามเด็ดขาดการซื้อขายจึงสมบูรณ์
ข้อตกลงด้วยวาจาว่าถ้าผู้ซื้อแปลงชาติเป็นไทยไม่ได้ผู้ซื้อต้องขายที่ดินคืนให้ผู้ขายนั้น ไม่มีผลบังคับได้
คำร้องขอขายที่ดินมีว่า ถ้าผู้ซื้อเป็นคนต่างด้าวผู้ขายขอถอนคำร้องนั้น ถ้าผู้ขายรู้ความจริงอยู่แล้วขืนทำสัญญาขายไปย่อมเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ไม่มีการเพิกถอน
ที่ดินมือเปล่าซึ่งคนต่างด้าวซื้อมา. และครอบครองเกิน 1 ปีคนต่างด้าวย่อมได้สิทธิครอบครองและจำหน่ายที่ดินนั้นได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 มาตรา94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยหลบหนีและฎีกาไม่เป็นไปตามเงื่อนไข พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาความอาญา
ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เพราะจำเลยหลบหนี เป็นกรณีไม่เข้าข่าย มาตรา 201 ตามที่ได้แก้ไขโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 เพราะมิใช่กรณีส่งสำเนาฎีกาแก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ศาลฎีกาจึงต้องจำหน่ายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยสิ้นสุดเมื่อชำระเบี้ยเกินกำหนด แม้มีโอกาสต่อสัญญา แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข
สัญญาประกันชีวิต ถือการชำระเบี้ยประกันภัยตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้เป็นสาระสำคัญแห่งสัญญา และเป็นเรื่องต่างตอบแทนกัน โดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้เอาประกันภัย
การที่ผู้เอาประกันภัยส่งเบี้ยประกันภัยเกินกำหนดเวลาและล่วงพ้นวันผ่อนผันตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแล้ว ถือว่าสัญญานั้นเป็นอันสิ้นสุดอายุ มีผลให้กรมธรรม์ประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดบังคับไม่ได้ตามกฎหมายทันที หากจะให้มีผลบังคับต่อไปอีก ผู้เอาประกันภัยจะต้องปฏิบัติตามที่บริษัทผ่อนผันไว้ เช่น ทำใบรับรองสุขภาพในการขอต่อสัญญาที่ขาดอายุไปตามที่กำหนดในสัญญานั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เทศบาลสร้างตลาดโดยไม่มีเงื่อนไขผูกพันการคืนที่ดินภายหลัง
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้เทศบาลเพื่อเทศบาลจะได้จัดสร้างตลาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขว่าเทศบาลจะต้องทำเป็นตลาดนานเท่าใด และหากเมื่อใดเทศบาลไม่ใช้เป็นตลาดแล้ว จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ เช่นนี้แล้ว ต่อมาเทศบาลก็ได้สร้างตลาดตรงที่พิพาทสิ้นเงินไปถึง 40,000 บาท นับว่าเทศบาลได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขที่โจทก์ประสงค์แล้ว แม้ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนายกเทศมนตรีใหม่ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลาดนี้เป็นโรงมหรสพไป โจทก์ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างเพื่อขอคืนที่ดินนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เทศบาลเพื่อสร้างตลาด โดยไม่มีเงื่อนไขการคืนที่ดิน ทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนได้
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้เทศบาลเพื่อเทศบาลจะได้จัดสร้างตลาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขว่าเทศบาลจะต้องทำเป็นตลาดนานเท่าใด และหากเมื่อใดเทศบาลไม่ใช้เป็นตลาดแล้ว จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ เช่นนี้แล้ว ต่อมาเทศบาลก็ได้สร้างตลาดตรงที่พิพาทสิ้นเงินไปถึง 40,000 บาท นับว่าเทศบาลได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขที่โจทก์ประสงค์แล้ว แม้ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนายกเทศมนตรีใหม่ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลาดนี้เป็นโรงมหรสพไป โจทก์ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างเพื่อขอคืนที่ดินนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขในสัญญาย่อมมีผลบังคับใช้เฉพาะที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันเท่านั้น หากไม่ได้ตกลงร่วมกัน เงื่อนไขนั้นย่อมไม่ผูกพัน
เงื่อนไขบางประการแม้จะปรากฏอยู่ในนิติกรรม หากฟังไม่ได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่คู่สัญญาเจตนาให้มีไว้ ก็ถือว่าเงื่อนไขนั้นไม่มีอยู่ในสัญญา กล่าวคือศาลไม่ถือเอาเงื่อนไขนั้นมาบังคับ
of 48