พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และเหตุผลของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ของ ฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ.จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดใดคดีก่อนแล้วว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากคดีก่อน และความน่าเชื่อถือของเหตุผลในการเบิกความ
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่าโจทก์ยักยอกทรัพย์ของฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ. จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนแล้วว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ความผิดฟ้องแจ้งความเท็จ/พยานเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนครบถ้วน ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้น ศาลรับฟังไม่ได้.
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตามเมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้./
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตามเมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ: ฟ้องขาดองค์ความผิด ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้นศาลรับฟังไม่ได้
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตาม เมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตาม เมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จเรื่องมรดก: จำเลยต้องรู้ว่าโจทก์เป็นบุตรผู้ตาย จึงถือว่าจงใจแจ้งเท็จได้
ในคดีที่โจทก์อ้างว่าเป็นบุตรผู้ตาย หาว่าจำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการขอรับมฤดกที่ดินโดยกล่าวว่าผู้ตายไม่มีบุตร ไม่มีเมียนั้น เมื่อคดีไม่มีเหตุพอจะฟังว่าจำเลยได้รู้ว่าโจทก์เป็นบุตรผู้ตาย ก็ถือไม่ได้ว่า จำเลยจงใจแจ้งเท็จ จำเลยย่อมไม่มีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: ข้อความไม่ตรงกับฟ้องและรายงานโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายความผิด
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า "นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง" อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า "ฯลฯ (นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยว ก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ" ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ – รายงานความจริงโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายความผิด
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า "นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง" อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า"ฯลฯ(นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยวก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ" ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับโรคติดต่อร้ายแรง อาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย เป็นความผิดตามกฎหมายอาญา
ฟ้องว่าจำเลยเอาความเท็จไปแจ้งแก่สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ขอย้ายบุตรของจำเลยซึ่งป่วยเป็นโรคลงท้อง โดยท้องเสียอาการไม่ร้ายแรงจากบ้าน ตำบลท่าตะเภาไปรักษาตัวที่บ้านตำบลท่ายาง สาธารณสุขจังหวัดชุมพรหลงเชื่อ จึงอนุญาตให้จำเลยพาบุตรย้ายไปได้ แต่ความจริงบุตรของจำเลยป่วยเป็นโรคอหิวาต์ ดังนี้ อาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้ เพราะโรคอหิวาต์เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องฐานแจ้งความเท็จ สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับโรคติดต่อร้ายแรง อาจทำให้ผู้อื่นเสียหายได้
ฟ้องว่าจำเลยเอาความเท็จไปแจ้งแก่สาธารณสุขจังหวัดชุมพรขอย้ายบุตรของจำเลยซึ่งป่วยเป็นโรคลงท้องโดยท้องเสียอาการไม่ร้ายแรงจากบ้านตำบลท่าตะเภาไปรักษาตัวที่บ้านตำบลท่ายาง สาธารณสุขจังหวัดชุมพรหลงเชื่อจึงอนุญาตให้จำเลยพาบุตรย้ายไปได้ ซึ่งความจริงบุตรของจำเลยป่วยเป็นโรคอหิวา ดังนี้ อาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้เพราะโรคอหิวาเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องฐานแจ้งความเท็จที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความเท็จและผลกระทบต่อผู้อื่นหรือสาธารณชน
บรรยายฟ้องความผิดฐานแจ้งความเท็จ ต้องได้ความว่า ความข้อไหนเป็นเท็จอย่างไร ทำไมอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณชนเสียหายได้ จึงจะเป็นฟ้องที่สมบูรณ์