คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงประเด็นข้อพิพาทในคดีแรงงาน: ศาลต้องปฏิบัติตามข้อตกลงหากฟังข้อเท็จจริงตามที่ตกลงกัน
ผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างท้ากันในศาลแรงงานกลางว่า หากศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านมีหน้าที่ทำเพชรดิบให้เข้ารูปและมีหน้าที่ซ่อมแซมเพชรที่แผนกอื่นทำบกพร่องและไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้แล้วให้เข้ารูปอีกครั้งแล้วส่งไปยังแผนกอื่นต่อไป ให้ถือว่าผู้คัดค้านกระทำผิดตามคำร้องทุกประการ ผู้คัดค้านยอมแพ้ และให้ศาลพิพากษาให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านได้ตามคำร้อง เป็นการที่คู่ความตกลงกันกำหนดประเด็นเสนอศาลเพื่อให้กระบวนพิจารณาคดีเป็นไปโดย รวดเร็วซึ่งศาลแรงงานกลางมีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138,183 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านมีหน้าที่ตรงตามคำท้าจึงต้องถือตามคำท้าว่าผู้คัดค้านกระทำผิดตามคำร้อง โดย ผู้คัดค้านฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอันเป็นกรณีร้ายแรงและจงใจขัดคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้องตามคำร้อง และต้องถือตามคำท้าต่อไปว่าผู้คัดค้านยอมแพ้ ศาลแรงงานกลางต้องพิพากษาอนุญาตให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้านได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าทายต่อศาล: ศาลต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ตกลงกันไว้ หากฟังตามนั้นแล้วต้องพิพากษาตามนั้น
การที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านท้ากันในศาลแรงงานกลางเพียง ข้อ เดียวว่า "หากศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านมีหน้าที่ทำ เพชรดิบ ให้เข้ารูปและมีหน้าที่ซ่อมแซมเพชรที่แผนกอื่นทำบกพร่อง และไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้แล้ว ให้เข้ารูปอีกครั้งแล้วส่งไปยัง แผนกอื่นต่อไป ให้ถือว่าผู้คัดค้านกระทำผิดตามคำร้องทุกประการ ผู้คัดค้านยอมแพ้และให้ศาลพิพากษาให้ผู้ร้องเลิกจ้างผู้คัดค้าน ได้ตามคำร้อง..." นั้น เป็นการ ที่คู่ความตกลงกันกำหนดประเด็น เสนอศาลเพื่อให้กระบวนพิจารณาคดีเป็นไปโดยรวดเร็ว ซึ่งศาลแรงงานกลาง มีอำนาจกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138,183 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้าน มีหน้าที่ทำเพชรดิบ ให้เข้ารูปและมีหน้าที่ซ่อมแซมเพชรที่แผนกอื่น ทำบกพร่อง และไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ให้เข้ารูปอีกครั้ง แล้วส่งไปยังแผนกอื่นต่อไป ก็ต้องถือตามคำท้าว่าผู้คัดค้านกระทำผิด ตามคำร้อง กล่าวคือ ผู้คัดค้านฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ การทำงานอันเป็นกรณีร้ายแรงและจงใจขัดคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ร้องตามคำร้อง และต้องถือตามคำท้าต่อไปว่าผู้คัดค้านยอมแพ้ ศาลแรงงานกลางต้องพิพากษาให้ผู้ร้อง เลิกจ้างผู้คัดค้านได้ตามคำร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าที่ดินต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดิน แม้มีข้อตกลงระหว่างผู้เช่ากับบุคคลภายนอกก็ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 เช่าที่ดินของ ม. มาปลูกสร้างโรงเรียน แล้วจำเลยที่ 1ทำสัญญาขายฝากอาคารเรียนพร้อมอุปกรณ์แก่โจทก์ และจำเลยที่ 1ที่ 2 ทำสัญญาเช่าอาคารเรียนพร้อมอุปกรณ์จากโจทก์ โดยมีข้อตกลงว่าหากไม่ไถ่คืนยอมให้สิทธิอันพึงมีตามสัญญาเช่าที่ดินระหว่างจำเลยที่ 2 กับ ม. ตกเป็นของโจทก์ ครบกำหนดจำเลยที่ 1 ไม่ไถ่คืนอาคารเรียนพร้อมอุปกรณ์ตกเป็นของโจทก์ แต่ข้อตกลงที่จำเลยที่ 2ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าที่ดินให้โจทก์ไม่ได้รับความยินยอมจาก ม.จึงไม่มีผลให้สิทธิการเช่าระหว่างจำเลยที่ 2 กับ ม. โอนไปยังโจทก์โจทก์จึงไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินแทนจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการส่งคืนโฉนดที่ดินมีผลผูกพัน แม้มีการประนีประนอมในคดีอื่น ศาลสั่งให้บังคับตามข้อตกลงเดิม
บันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย มีข้อความให้จำเลยส่งคืนโฉนดให้แก่โจทก์ตามกำหนดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงอื่นใดอีกหรือได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม หลังจากทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว โจทก์จำเลยมีกรณีพิพาทฟ้องร้องกันและกัน ซึ่งในที่สุดได้ตกลงประนีประนอมกันโดยต่างก็ถอนฟ้องของตนไปโดยไม่กล่าวถึงบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ข้อตกลงนั้นจึงมีผลใช้บังคับอยู่โดยสมบูรณ์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้บังคับจำเลยตามข้อตกลงได้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนโฉนดเลขที่ 13424 แก่โจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 13424 เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหายไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
พนักงานสอบสวนบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถชนรถโจทก์กับรถของผู้อื่นอีก 2 คัน เสียหายจริง และยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าวทั้งทางแพ่งและทางอาญา ทั้งรับปากต่อหน้าโจทก์ว่า จะจัดการเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นโดยผ่านผู้รับประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวไม่เป็นสัญญาระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้นไปทีเดียว ยังมีเงื่อนไขให้ไปตกลงค่าเสียหายผ่านผู้รับประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง เป็นข้อตกลงที่ยังไม่ปราศจากการโต้แย้งกันอีกจึงมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความอันจะทำให้มูลละเมิดระงับไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ผลคดีหนึ่งผูกพันอีกคดีหนึ่ง ต้องรอผลคดีถึงที่สุด
คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาในคดีอื่นที่เกี่ยวพันกันเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ โดยมิได้ระบุว่าผลคำพิพากษาคดีดังกล่าวหมายถึงผลคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น จึงเป็นที่เห็นได้ว่าคู่ความมุ่งประสงค์ที่จะผูกพันกันตามคำพิพากษาที่มีผลบังคับกันได้โดยเด็ดขาด ซึ่งหมายถึงผลคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ตาม มิใช่ผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยสัญญาซื้อขายไม้แป้นรองมิเตอร์: การปฏิบัติตามสัญญาเป็นพ้นวิสัยต้องพิจารณาจากข้อตกลงและข้อเท็จจริง
สัญญาซื้อขายที่จำเลยทำไว้กับโจทก์มิได้มีข้อความระบุถึงเรื่องให้จำเลยต้องนำไม้ที่จะขายให้โจทก์จากในป่าซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 1 ประกาศปิดป่า และในประกาศของกองทัพดังกล่าวก็ระบุไว้แต่เพียงห้ามบุคคลเข้าไปหรืออยู่อาศัยในเขตพื้นที่บางจังหวัดเท่านั้น ทั้งยังประกาศใช้บังคับมาก่อนจำเลยได้เสนอและทำสัญญาขายไม้แป้นรองมิเตอร์ ให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์เลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้จัดให้มีการประมูลใหม่ ผู้ที่ประมูลได้ก็จัดหาไม้แป้นรองมิเตอร์ ตามประเภท ชนิด และขนาดเช่นเดียวกับที่จำเลยทำสัญญาขายให้แก่โจทก์ได้ การที่จำเลยไม่สามารถหาไม้แป้นรองมิเตอร์ มาขายให้โจทก์ได้ตามสัญญา จึงมิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ถือว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์ประกอบกิจการในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่บุคคลทั่วไปการที่โจทก์ต้องเสียเวลาล่าช้าในการนำไม้แป้นรองมิเตอร์ ที่จำเลยไม่ได้ส่งมอบให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาไปใช้ย่อมทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่จะได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6443-6460/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการได้รับชุดทำงาน แม้ทำงานไม่ครบ 1 ปี หากถึงกำหนดเวลาแจกจ่ายตามข้อตกลง
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระบุว่า "บริษัทจะจัดหาชุดทำงานให้ปีละ 2 ชุดโดยจะเริ่มแจกในเดือนมกราคม 2534" เห็นว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้กำหนดว่า จะต้องทำงานครบ 1 ปี จึงจะมีสิทธิได้รับชุดทำงานเมื่อลูกจ้างทำงานติดต่อตลอดมาจนถึงเดือนมกราคม 2534 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่นายจ้างจะต้องแจกชุดทำงานตามข้อตกลง แม้ว่าลูกจ้างจะทำงานมายังไม่ถึง 1 ปี ก็มีสิทธิได้รับชุดทำงานตามข้อตกลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5972/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขบังคับก่อนในนิติกรรม: สิทธิเรียกร้องเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีข้อตกลง ไม่รอการขายทอดตลาด
เมื่อโจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินได้ตามมูลหนี้เดิมอยู่แล้วแม้ในบันทึกเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 จะมีข้อความว่า ส่วนทรัพย์สินของ อ. ที่โจทก์ยึดและอายัดไว้โจทก์จะดำเนินการบังคับคดีขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ให้ครบต่อไปก็ตาม ก็เป็นเพียงข้อสงวนสิทธิของโจทก์ที่จะบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของ อ. ที่โจทก์ยึดและอายัดไว้เท่านั้น ไม่ใช่ข้อความที่บังคับไว้ให้โจทก์เกิดสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ขายทอดตลาดทรัพย์สินของ อ. หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของ อ. แล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้เสียก่อนไม่จึงไม่ใช่นิติกรรมที่มีเงื่อนไขบังคับก่อนอันจะทำให้นิติกรรมเป็นผลต่อเมื่อเงื่อนไขนั้นสำเร็จตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 145 บัญญัติไว้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5477/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงฝากเงินเพื่อประกันหนี้ ไม่ใช่การจำนำ แม้มีการสลักหลังจำนำสมุดคู่ฝาก
ธนาคารผู้ร้องค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 ซึ่งซื้อเชื่อสินค้าจากโจทก์ในวงเงิน 50,000 บาท โดยมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบสมุดคู่ฝากประจำจำนวนเงิน 50,000 บาท ที่ฝากไว้กับธนาคารผู้ร้องและสลักหลังจำนำเงินฝากตามสมุดคู่ฝากดังกล่าวต่อผู้ร้องด้วย แม้ผู้ร้องได้ยินยอมให้นำเงินฝากดังกล่าวเป็นประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ร้องค้ำประกันจำเลยที่ 1 แต่เงินฝากดังกล่าวย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องมาตั้งแต่มีการฝากเงิน จำเลยที่ 1 ผู้ฝากคงมีสิทธิที่จะถอนเงินที่ฝากไปได้ผู้ร้องมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบจำนวนที่ขอถอนเท่านั้น จึงไม่ใช่การส่งมอบสังหาริมทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ให้แก่ผู้ร้องตามลักษณะจำนำแต่อย่างใด การที่จำเลยที่ 1 ตกลงนำเงินฝากในสมุดคู่ฝากประจำมาค้ำประกันต่อผู้ร้องเป็นเพียงแต่ตกลงว่าจะไม่ถอนเงินไปจากบัญชี และหากจำเลยที่ 1 มีหนี้ค้างชำระอยู่เท่าไร จำเลยที่ 1 ยอมให้ธนาคารผู้ร้องหักเงินฝากมาชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้เสร็จสิ้นไปทันที ข้อตกลงระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 คงเป็นการฝากเงินเพื่อประกันหนี้เท่านั้น ไม่ใช่การจำนำ ทั้งข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 ตามสัญญาค้ำประกันไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิบังคับชำระหนี้เอาจากเงินฝากที่ผู้ร้องได้นำส่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่โจทก์ได้ขออายัดไว้.
of 118