พบผลลัพธ์ทั้งหมด 588 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดชิงทรัพย์: หลักฐานการกระทำความผิดต้องชัดเจนถึงส่วนร่วม
ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อเป็นความสะดวกในการที่จะลักทรัพย์ ครั้นแล้วจำเลยลักเอาธนบัตรของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์ เมื่อทางพิจารณาข้อที่ว่าจำเลยลักเงินพยานหลักฐานไม่มี เป็นแต่ได้ความว่าจำเลยรัดคอผู้เสียหายล้มลงแล้วมีชายอื่นอีกคนหนึ่งเอามีดกรีดกระเป๋าผู้เสียหายขาด แล้วชายนั้นล้วงเอาเงินในกระเป๋าได้ และวิ่งหนีไปส่วนจำเลยพอลุกขึ้นได้ก็วิ่งตามหลังคนล้วงเงินลับตาไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยโทษฐานชิงทรัพย์ ไม่ได้ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายหลังลักทรัพย์ถือเป็นชิงทรัพย์ กรรมต่อเนื่อง
จำเลยลักไก่เขาไปเจ้าทรัพย์ติดตามพบในเวลากระชั้นชิด แล้วแย่งไก่คืนจากจำเลย ๆ จึงทำร้ายเจ้าทรัพย์ เพราะเจ้าทรัพย์แย่งไก่ที่จำเลยลักไปคืนจากจำเลยย่อมเป็นการใช้กำลังทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยลักทรัพย์ตามความใน ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 298(3) จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์ กรรมที่จำเลยกระทำการลักและทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์นั้นเป็นกรรมที่ต่อเนื่องเรื่องเดียวกัน หาใช่ต่างกรรมต่างวาระกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชิงทรัพย์: การใช้กำลังแย่งทรัพย์ที่ลักมาคืนถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยลักไก่เขาไป เจ้าทรัพย์ติดตามพบในเวลากระชั้นชิด แล้วแย่งไก่คืนจากจำเลย จำเลยจึงทำร้ายเจ้าทรัพย์เพราะเจ้าทรัพย์แย่งไก่ที่จำเลยลักไปคืนจากจำเลย ย่อมเป็นการใช้กำลังทำร้ายเพื่อประสงค์จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยลักทรัพย์ตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298(3) จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานชิงทรัพย์ กรรมที่จำเลยกระทำการลักและทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์นั้นเป็นกรรมที่ต่อเนื่องเรื่องเดียวกัน หาใช่ต่างกรรมต่างวาระกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชิงทรัพย์: การกระทำความผิดเมื่อเจ้าของไม่ยินยอมขาย แม้จะตั้งใจซื้อเชื่อ
จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาท แล้วยังไม่ใช้จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้วจำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์: จำเลยขโมยของหลังเจ้าของร้านไม่ยอมขายเนื่องจากค้างหนี้
จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาทแล้วยังไม่ใช้ จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้ว จำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ต่อเนื่อง: ลักทรัพย์แล้วลักทรัพย์ซ้ำจากผู้รับฝาก ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์/ชิงทรัพย์
คนร้ายลักโคไปแล้วต่อมาตำรวจพบโคนั้นเข้าจึงนำไปฝากราษฎรไว้คนร้ายกลับมาลักโคนั้นไปจากราษฎรที่ตำรวจฝากอีกย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 290 และถ้าในการลักนี้ได้ใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญจะทำร้ายก็ย่อมมีความผิดเข้าลักษณะชิงทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันชิงทรัพย์: การกระทำเพื่อช่วยเหลือการหลบหนีและความรุนแรงเป็นองค์ประกอบสำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นคนเดินแซกเข้าไปลักปากกาจากกระเป๋าเสื้อเจ้าทรัพย์พาหนีไป จำเลยที่ 2 เดินเข้ามาชนกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์เซไป แล้วเดินตามไปด้วยกันและถูกจับพร้อมกันในขณะที่เดินไปด้วยกันดังนี้ เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า การที่จำเลยที่ 2 ใช้กำลังกายกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์ให้เซไปก็เพื่อหน่วงเหนี่ยวการติดตามของเจ้าทรัพย์ให้ช้ลงโดยประสงค์ให้เป็นความสดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะพาทรัพย์ที่ลักไปจากเจ้าทรัพย์หนีไปให้พ้นและเพื่อให้จำเลยที่ 1 รอดพ้นอาญาสำหรับความผิดที่ได้กระทำลง และการใช้กำลังกายกระแทกไหล่ เป็นการใช้กำลังทำร้ายอย่างหนึ่ง จำเลยทั้งสองที่สมคบกันในการนี้ จึงต้องมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบชิงทรัพย์: การกระทำร่วมกันเพื่อช่วยเหลือการลักทรัพย์ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยที่ 1 เป็นคนเดินแทรกเข้าไปลักปากกาจากกระเป๋าเสื้อเจ้าทรัพย์พาหนีไป จำเลยที่ 2 เดินเข้ามาชนกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์เซไป แล้วเดินตามไปด้วยกันและถูกจับพร้อมกันในขณะที่เดินไปด้วยกัน ดังนี้ เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า การที่จำเลยที่ 2 ใช้กำลังกายกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์ให้เซไปก็เพื่อหน่วงเหนี่ยวการติดตามของเจ้าทรัพย์ให้ช้าลงโดยประสงค์ให้เป็นความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะพาทรัพย์ที่ลักไปจากเจ้าทรัพย์หนีไปให้พ้น และเพื่อให้จำเลยที่ 1 รอดพ้นอาญาสำหรับความผิดที่ได้กระทำลง และการใช้กำลังกายกระแทกไหล่ เป็นการใช้กำลังทำร้ายอย่างหนึ่ง จำเลยทั้งสองที่สมคบกันในการนี้ จึงต้องมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามหลังลักทรัพย์เข้าข่ายความผิดชิงทรัพย์
ลักบุหรี่ที่เขาวางขายไว้ที่ร้ายแผงลอยไป 1 ซองแล้วเดินเรื่อย ๆ ไป เจ้าทรัพย์กับพวกติดตามในขณะนั้นชั่วระยะทางเพียงเล็กน้อยก็ทัน จำเลยจึงใช้มือชกต่อยพวกเจ้าทรัพย์ ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าทำร้ายเพื่อระงับการติดตามของคนเหล่านั้นโดยหวังผลที่จะพาบุหรี่ที่ลักมานั้นไป และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นผิดอาญาสำหรับความผิดฐานลักทรัพย์ ที่ได้กระทำลง ย่อมเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามหลังลักทรัพย์เข้าข่ายชิงทรัพย์
ลักบุหรี่ที่เขาวางขายไว้ที่ร้านแผงลอยไป 1 ซองแล้วเดินเรื่อยๆ ไป เจ้าทรัพย์กับพวกติดตามในขณะนั้นชั่วระยะทางเพียงเล็กน้อยก็ทัน จำเลยจึงใช้มือชกต่อยพวกเจ้าทรัพย์ ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าทำร้ายเพื่อระงับการติดตามของคนเหล่านั้นโดยหวังผลที่จะพาบุหรี่ที่ลักมานั้นไป และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นผิดอาญาสำหรับความผิดฐานลักทรัพย์ ที่ได้กระทำลง ย่อมเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์