คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถแซงบนสะพานแคบ ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ความตาย
จำเลยขับรถยนต์โดยสารซึ่งกว้างถึง 2 เมตรเศษ โดยไม่ใช้ความระมัดระวัง แซงขึ้นหน้ารถกะบะลากเข็นและรถจักรยานสองล้อบนสะพานซึ่งกว้างประมาณ 6 เมตรพอที่รถยนต์สองคันจะหลีกกันได้เท่านั้น เมื่อมีรถยนต์อื่นวิ่งสวนขึ้นสะพานมา จำเลยจึงเบนรถกลับเข้าไปโดนรถจักรยานสองล้อซึ่งผู้ตายขับขี่อยู่ล้มลง ผู้ตายบาดเจ็บและต่อมาถึงแก่ความตาย เช่นนี้ นับว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขับรถแซงที่ปลอดภัย: ผู้ตายเดินข้ามถนนผิดกฎหมาย จำเลยไม่ได้ประมาท
จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวก และก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้ง ๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขับรถแซงและการใช้ความระมัดระวัง การกระทำไม่เข้าข่ายประมาท
จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวกและก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเซเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้งๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลี้ยวรถตัดหน้าจักรยานยนต์ใกล้เกินไป ถือเป็นประมาทตามกฎหมายจราจรหรือไม่
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 9 วรรค 3 บัญญัติว่า "ในทางที่ไม่ใช่ทางแยก ห้ามไม่ให้เลี้ยวตัดหน้ารถยนต์หรือรถรางที่กำลังแล่นภายในระยะน้อยกว่าสิบห้าเมตร"
การที่จำเลยเลี้ยวรถจะเข้าทางแพ่งหนึ่งตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่มาข้างหลังภายในระยะ 7-8 เมตร จะถือว่าจำเลยฝ่าฝืนบทกฎหมายมาตรานี้ ทำให้โจทก์บาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกำหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลี้ยวรถตัดหน้าโดยไม่รักษาระยะตามกฎหมายจราจร ถือเป็นความประมาทหรือไม่
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 9 วรรคสามบัญญัติว่า "ในทางที่ไม่ใช่ทางแยก ห้ามไม่ให้เลี้ยวตัดหน้ารถยนต์หรือรถรางที่กำลังแล่นภายในระยะน้อยกว่าสิบห้าเมตร"
การที่จำเลยเลี้ยวรถจะเข้าทางแห่งหนึ่งตัดหน้ารถจักรยานยนต์ที่โจทก์ขับขี่มาข้างหลังภายในระยะ 7-8 เมตร จะถือว่าจำเลยฝ่าฝืนบทกฎหมายมาตรานี้ ทำให้โจทก์บาดเจ็บสาหัสโดยประมาทตามอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญามาตรา 220 ต้องพิสูจน์เจตนาหรือประมาทเลินเล่อ หากพิสูจน์ได้แต่ประมาท แต่ไม่ได้ฟ้องฐานประมาท จึงลงโทษไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยาง ในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โดยมิได้บรรยายเรื่องประมาทมาด้วย เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการเผาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่น หากแต่เป็นการประมาทปราศจากการระมัดระวังเพลิงจึงลุกลามเข้าไปในสวนของผู้อื่น เช่นนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผาขยะลุกลาม: ฟ้องผิดฐานประมาทต้องอาศัยการบรรยายในฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยาง ในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โดยมิได้บรรยายเรื่องประมาทมาด้วยเมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการเผาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่นหากแต่เป็นการประมาทปราศจากการระมัดระวังเพลิงจึงลุกลามเข้าไปในสวนของผู้อื่น เช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 546/2498) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขับรถ/เจ้าของรถ กรณีมอบหมายให้ผู้ไม่มีใบขับขี่ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์ประจำทางได้ใช้หรือมอบให้ผู้อื่นขับรถแทนตนและปล่อยให้ขับในอัตราความเร็วสูงจนเป็นเหตุให้รถคว่ำ มีผู้โดยสารถึงแก่ความตาย การกระทำของผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์เช่นนี้ เป็นการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบุรุษไปรษณีย์และกรมไปรษณีย์ต่อการส่งธนาณัติผิดพลาดทำให้เกิดการทุจริต
บุรุษไปรษณีย์อ้างว่าได้ส่งจดหมายธนาณัติให้คนในบ้านของโจทก์ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่คนในบ้านโจทก์ เป็นเหตุให้มีคนปลอมชื่อโจทก์รับเงินไป ต้องถือว่าบุรุษไปรษณีย์ประมาท กรมไปรษณีย์โทรเลขต้องร่วมรับผิดด้วย กรณีเช่นนี้ไม่เข้ามาตรา 55 วรรคต้น แห่งพระราชบัญญัติไปรษณีย์พ.ศ.2477

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดประมาทต้องระบุรายละเอียด หากฟ้องแต่เจตนา ศาลลงโทษฐานประมาทไม่ได้
ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนากับความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึง สาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกัน อันถือว่าเป็นสาระสำคัญกล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาท โจทก์จะต้องบรรยาย ฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใดจึงเรียกจำเลยการกระทำโดยประมาท จำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย มิฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าโดยเจตนา จะจึงลงโทษฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสไม่ได้ หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ก็ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึง การกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้องอันเห็นได้ว่า หากจำเลยไม่เจตนา จำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีความวิสัยและพฤติการณ์ เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัส โดยประมาทได้เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2502)
of 56