พบผลลัพธ์ทั้งหมด 519 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องละเมิด: เน้นการละเว้นหน้าที่และความเสียหาย ไม่จำเป็นต้องระบุจงใจหรือประมาทเสมอไป
โจทก์บรรยายฟ้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือไม่ แล้วแต่ฟ้องของโจทก์แต่ละกรณีว่าเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาหรือไม่
การบรรยายฟ้องว่าจำเลยละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออาจขัดกัน ไม่ชัดแจ้ง ในกรณีที่ควรต้องบรรยายให้ชัดแจ้งในทางใดทางหนึ่ง แต่ในบางกรณีก็อาจเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ชัดแจ้งโดยไม่ต้องบรรยายยืนยันโดยตรงมาเช่นนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหน้าที่อย่างไร และจำเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่นั้น โดยโจทก์บรรยายว่า นอกจากจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตแล้ว โจทก์เห็นว่า การกระทำของจำเลยในหน้าที่ยังเป็นการละเมิดให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กล่าวคือ จำเลยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและคำสั่ง ฯลฯ จำเลยหาได้ปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนตามข้อบังคับไม่ ฯลฯ ซึ่งถ้าจำเลยมิได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและกฎหมายแล้ว โจทก์จะไม่ได้รับความเสียหายฟ้องของโจทก์ดังนี้ เป็นการแสดงข้ออ้างที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับและคำสั่งด้วยประการต่างๆ ตามที่โจทก์อ้างในฟ้อง ในรูปคดีนี้โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า การละเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและคำสั่งนี้ จำเลยได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็เป็นการชัดแจ้งพอแล้ว เพราะข้อสำคัญอยู่ที่จำเลยได้ละเว้นกระทำตามที่ควรกระทำ โจทก์ยืนยันต่อไปว่า การละเว้นกระทำนี้เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นมูลแห่งสิทธิเรียกร้องฐานละเมิด อันเป็นสภาพแห่งข้อหาของโจทก์โดยชัดแจ้ง แม้โจทก์บรรยายว่าจำเลยจงใจทำละเมิดหรือร่วมกันยักยอกเงินของโจทก์ไปก็เป็นมูลความรับผิดฐานละเมิดอยู่เพียงพอ และโดยสภาพการกระทำดังที่โจทก์บรรยายนี้แม้จะบรรยายทั้งจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็ไม่เคลือบคลุม
การบรรยายฟ้องว่าจำเลยละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออาจขัดกัน ไม่ชัดแจ้ง ในกรณีที่ควรต้องบรรยายให้ชัดแจ้งในทางใดทางหนึ่ง แต่ในบางกรณีก็อาจเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ชัดแจ้งโดยไม่ต้องบรรยายยืนยันโดยตรงมาเช่นนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหน้าที่อย่างไร และจำเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่นั้น โดยโจทก์บรรยายว่า นอกจากจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตแล้ว โจทก์เห็นว่า การกระทำของจำเลยในหน้าที่ยังเป็นการละเมิดให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กล่าวคือ จำเลยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและคำสั่ง ฯลฯ จำเลยหาได้ปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนตามข้อบังคับไม่ ฯลฯ ซึ่งถ้าจำเลยมิได้ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและกฎหมายแล้ว โจทก์จะไม่ได้รับความเสียหายฟ้องของโจทก์ดังนี้ เป็นการแสดงข้ออ้างที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับและคำสั่งด้วยประการต่างๆ ตามที่โจทก์อ้างในฟ้อง ในรูปคดีนี้โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า การละเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและคำสั่งนี้ จำเลยได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็เป็นการชัดแจ้งพอแล้ว เพราะข้อสำคัญอยู่ที่จำเลยได้ละเว้นกระทำตามที่ควรกระทำ โจทก์ยืนยันต่อไปว่า การละเว้นกระทำนี้เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นมูลแห่งสิทธิเรียกร้องฐานละเมิด อันเป็นสภาพแห่งข้อหาของโจทก์โดยชัดแจ้ง แม้โจทก์บรรยายว่าจำเลยจงใจทำละเมิดหรือร่วมกันยักยอกเงินของโจทก์ไปก็เป็นมูลความรับผิดฐานละเมิดอยู่เพียงพอ และโดยสภาพการกระทำดังที่โจทก์บรรยายนี้แม้จะบรรยายทั้งจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้จัดการ-ผู้ช่วยจัดการต่อการขาดหายของสินค้าบริษัทจากการประมาทเลินเล่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการบริษัทโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อจัดการเกี่ยวกับกิจการค้า ทำบัญชีรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินของบริษัทโจทก์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ทำให้สินค้าบุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไป ทั้งนี้ เป็นด้วยการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสอง ละเลยมิได้จัดการควบคุมดูแลรักษาตามหน้าที่ จำเลยทั้งสองให้การว่า สินค้าบุหรี่ของบริษัทโจทก์มิได้ขาดหาย หรืออาจจะขาดหายไปก่อนจำเลยเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ซึ่งจำเลยไม่รับรู้ดังนี้ คำให้การของจำเลยเป็นข้อต่อสู้ในตัวว่าจำเลยทั้งสองมิได้ประมาทเลินเล่อทำให้บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหาย
บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไปเนื่องจากความทุจริตของเจ้าหน้าที่ในบริษัทโจทก์ หากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ ก็ย่อมจะทราบได้ว่าบุหรี่ขาดหายไปจากบัญชี การปล่อยปละละเลยเช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้บริษัทโจทก์เสียหาย ผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ต้องรับผิด
บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไปเนื่องจากความทุจริตของเจ้าหน้าที่ในบริษัทโจทก์ หากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ ก็ย่อมจะทราบได้ว่าบุหรี่ขาดหายไปจากบัญชี การปล่อยปละละเลยเช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้บริษัทโจทก์เสียหาย ผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการต่อความเสียหายจากสินค้าขาดหาย อันเกิดจากความประมาทเลินเล่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการบริษัทโจทก์จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ. มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อจัดการเกี่ยวกับกิจการค้า.ทำบัญชีรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินของบริษัทโจทก์. ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ทำให้สินค้าบุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไป. ทั้งนี้ เป็นด้วยการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสองละเลยมิได้จัดการควบคุมดูแลรักษาตามหน้าที่. จำเลยทั้งสองให้การว่า สินค้าบุหรี่ของบริษัทโจทก์มิได้ขาดหาย.หรืออาจจะขาดหายไปก่อนจำเลยเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ซึ่งจำเลยไม่รับรู้. ดังนี้ คำให้การของจำเลยเป็นข้อต่อสู้ในตัวว่าจำเลยทั้งสองมิได้ประมาทเลินเล่อทำให้บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหาย.
บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไปเนื่องจากความทุจริตของเจ้าหน้าที่ในบริษัทโจทก์. หากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่. ก็ย่อมจะทราบได้ว่าบุหรี่ขาดหายไปจากบัญชี การปล่อยปละละเลยเช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้บริษัทโจทก์เสียหายผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ต้องรับผิด.
บุหรี่ของบริษัทโจทก์ขาดหายไปเนื่องจากความทุจริตของเจ้าหน้าที่ในบริษัทโจทก์. หากผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่. ก็ย่อมจะทราบได้ว่าบุหรี่ขาดหายไปจากบัญชี การปล่อยปละละเลยเช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้บริษัทโจทก์เสียหายผู้จัดการและผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโจทก์ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท - การได้มาโดยทุจริต/ประมาทเลินเล่อของผู้รับโอน ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิด
โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 เป็นการได้เช็คพิพาทไว้โดยไม่สุจริต จำเลยที่1 ผู้สั่งจ่ายย่อมปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 905, 916 ประกอบด้วยมาตรา 989
จำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้
จำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาวะตกใจกลัวจากการถูกข่มขู่ด้วยอาวุธ การกระทำโดยไม่ได้เจตนาหรือไม่ประมาทเลินเล่อ ไม่ถือเป็นละเมิด
จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียวขณะหยุดรถรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกาได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนา ตามพฤติการณ์เช่นนี้ จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้ เพราะบุคคลที่อยู่ในภาวะตกตลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิดจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่รถชนกันนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานที่ดินปฏิเสธโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอ้างเป็นสาธารณสมบัติ ไม่ถือเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ตามคำสั่งศาลเพราะเห็นว่าไม่อาจทำได้ตามกฎหมาย มิใช่เพราะมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน ยังไม่พอจะถือว่าเจ้าพนักงานที่ดินนั้นจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถประมาทเลินเล่อ ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
จำเลยขับรถด้วยความเร็วสูง ขับผิดทางจราจร จนเป็นเหตุให้ชนรถคันอื่นที่เขาอยู่ในเส้นทางแล้ว เช่นนี้ ฟังได้ว่า เหตุทั้งนี้ย่อมเกิดขึ้นด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายกเทศมนตรีต่อการยักยอกเงินของเทศบาล: ต้องมีเจตนาประมาทเลินเล่อเป็นเหตุโดยตรง
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ยักยอกเงินไปโดยมีจำเลยที่ 3 ร่วมด้วยนั้น ได้เกิดจากการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 อันเป็นผลโดยตรงให้เกิดมีการยักยอกเงินรายนี้ จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยอื่น
พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติให้คณะเทศมนตรีควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของเทศบาลตามกฎหมาย โดยมีนายกเทศมนตรีเป็นหัวหน้า เป็นเรื่องกำหนดอำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบโดยทั่วๆ ไปของคณะเทศมนตรีในทางบริหารกิจการของเทศบาลว่ามีอยู่เพียงใดเท่านั้น หาได้หมายความเลยไปถึงว่าหากเกิดการทุจริตในกิจการของเทศบาลขึ้นโดยคณะเทศมนตรีมิได้มีส่วนรู้เห็นทำละเมิดด้วยแล้วคณะเทศมนตรีจะต้องรับผิดด้วยไม่
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการเงินที่ว่า หากมีการทุจริตเกี่ยวกับการรักษาเงินรายได้หรือเงินอื่นใดของเทศบาลทุกหน่วยงานให้นายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาลหรือผู้รักษาการแทนฯลฯ ร่วมกันรับผิดชอบชดใช้เงินคืนให้แก่เทศบาลจนครบนั้น ระเบียบดังกล่าวเป็นเรื่องกำหนดหน้าที่ความรับผิดในการปฏิบัติหน้าที่การงานภายในวงงานอันจำกัดไม่ใช่กฎหมาย ผู้ออกระเบียบจะกำหนดวิธีปฏิบัติให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการของเทศบาลต้องปฏิบัติกิจการนั้นอย่างไรก็ย่อมทำได้ แต่การไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ว่านั้น หากจะมีความรับผิดทางกฎหมายอย่างไร ย่อมเป็นกรณีที่ต้องพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมายอีกส่วนหนึ่ง การที่จะวางระเบียบหรือข้อบังคับไว้เด็ดขาดเลยไปถึงว่า หากเกิดการกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้นแล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการกำหนดก่อให้เกิดหนี้ละเมิด โดยผู้นั้นมิได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยนั้น หาทำได้ไม่
พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 39 ซึ่งบัญญัติให้คณะเทศมนตรีควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของเทศบาลตามกฎหมาย โดยมีนายกเทศมนตรีเป็นหัวหน้า เป็นเรื่องกำหนดอำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบโดยทั่วๆ ไปของคณะเทศมนตรีในทางบริหารกิจการของเทศบาลว่ามีอยู่เพียงใดเท่านั้น หาได้หมายความเลยไปถึงว่าหากเกิดการทุจริตในกิจการของเทศบาลขึ้นโดยคณะเทศมนตรีมิได้มีส่วนรู้เห็นทำละเมิดด้วยแล้วคณะเทศมนตรีจะต้องรับผิดด้วยไม่
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการเงินที่ว่า หากมีการทุจริตเกี่ยวกับการรักษาเงินรายได้หรือเงินอื่นใดของเทศบาลทุกหน่วยงานให้นายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาลหรือผู้รักษาการแทนฯลฯ ร่วมกันรับผิดชอบชดใช้เงินคืนให้แก่เทศบาลจนครบนั้น ระเบียบดังกล่าวเป็นเรื่องกำหนดหน้าที่ความรับผิดในการปฏิบัติหน้าที่การงานภายในวงงานอันจำกัดไม่ใช่กฎหมาย ผู้ออกระเบียบจะกำหนดวิธีปฏิบัติให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการของเทศบาลต้องปฏิบัติกิจการนั้นอย่างไรก็ย่อมทำได้ แต่การไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ว่านั้น หากจะมีความรับผิดทางกฎหมายอย่างไร ย่อมเป็นกรณีที่ต้องพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมายอีกส่วนหนึ่ง การที่จะวางระเบียบหรือข้อบังคับไว้เด็ดขาดเลยไปถึงว่า หากเกิดการกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้นแล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการกำหนดก่อให้เกิดหนี้ละเมิด โดยผู้นั้นมิได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยนั้น หาทำได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารประมาทเลินเล่อ ไม่จัดการคืนเช็คไม่มีเงิน ทำให้ลูกค้าเสียหายและขาดอายุความฟ้องร้อง
จำเลยเป็นธนาคาร โดยปกติย่อมจะต้องระมัดระวังผลประโยชน์ของลูกค้า แต่จำเลยกลับละเลยต่อหน้าที่อันจะพึงต้องปฏิบัติต่อลูกค้าโดยไม่พยายามจัดการส่งคืนเช็คที่ผู้สั่งจ่ายโดยไม่มีเงินให้แก่โจทก์ ซ้ำยังปล่อยให้เช็คนั้นสูญหายไป ทำให้โจทก์ต้องเสียหายเพราะเช็คนั้นขาดอายุความที่จะฟ้องร้องเอากับผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลัง และไม่มีเช็คคืนให้โจทก์เพื่อเรียกร้องเอากับผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังอีกด้วย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปี ว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปี ว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารประมาทเลินเล่อในการจัดการเช็คของลูกค้า ทำให้ลูกค้าเสียหายและขาดอายุความเรียกร้อง
จำเลยเป็นธนาคารโดยปกติย่อมจะต้องระมัดระวังผลประโยชน์ของลูกค้าแต่จำเลยกลับละเลยต่อหน้าที่อันจะพึงต้องปฏิบัติต่อลูกค้าโดยไม่พยายามจัดการส่งคืนเช็คที่ผู้สั่งจ่ายโดยไม่มีเงินให้แก่โจทก์ซ้ำยังปล่อยให้เช็คนั้นสูญหายไปทำให้โจทก์ต้องเสียหายเพราะเช็คนั้นขาดอายุความที่จะฟ้องร้องเอากับผู้สั่งจ่าย หรือผู้สลักหลังและไม่มีเช็คคืนให้โจทก์เพื่อเรียกร้องเอากับผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังอีกด้วยจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปีว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์เพิ่งทราบก่อนฟ้องไม่ถึงปีว่าเช็คที่โจทก์นำเข้าบัญชีไว้หลายปีแล้วนั้นไม่มีเงิน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ