คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยายามฆ่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การใช้มีดฟันผู้เสียหายแม้ไม่ถูกต้องมีเจตนาและเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดโต้ยาว 50 เซนติเมตร เฉพาะคมยาว 30 เซนติเมตร เงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าผู้เสียหายแต่ไม่ถูก คมมีดฝังลงในเนื้อไม้ลูกกรงครึ่งเซนติเมตรยาว 3 เซนติเมตร แสดงว่าได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การเงื้อมีดฟันผู้เสียหายแม้ไม่ถูก แต่มีเจตนาและเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้มีดโต้ยาว 50 เซนติเมตร เฉพาะคมยาว 30 เซนติเมตรเงื้อขึ้นฟันมายังบริเวณคอหรือบ่าผู้เสียหายแต่ไม่ถูก คมมีดฝังลงในเนื้อไม้ลูกกรงครึ่งเซนติเมตรยาว 3 เซนติเมตรแสดงว่าได้ฟันไปอย่างแรง หากคมมีดถูกบริเวณอวัยวะดังกล่าวย่อมทำให้ถึงแก่ความตายได้ซึ่งจำเลยย่อมเล็งเห็นผลดังกล่าวแล้วจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2780/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: เล็งเห็นผลถึงความตายได้
จำเลยจ้องปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวกแล้วก็มี เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากทางด้านจำเลย ซึ่งจำเลยจะ ต้องเป็นผู้ยิงเพราะพวกของจำเลยไม่มีปืน แม้กระสุนปืนที่จำเลยยิงจะไม่ถูกใคร แต่การที่จำเลยยิงปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวก จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้ว่าอาจเป็นเหตุให้จ่าสิบตำรวจ น.กับพวกคนใดคนหนึ่งหรือ หลายคนถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2780/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานจากการยิงปืน แม้ไม่ถูกตัว แต่เล็งเห็นผลอันตราย
จำเลยจ้องปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวกแล้วก็มี เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากทางด้านจำเลย ซึ่งจำเลยจะ ต้องเป็นผู้ยิงเพราะพวกของจำเลยไม่มีปืน แม้กระสุนปืนที่จำเลยยิงจะไม่ถูกใคร แต่การที่จำเลยยิงปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวก จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้ว่าอาจเป็นเหตุให้จ่าสิบตำรวจ น. กับพวกคนใดคนหนึ่งหรือ หลายคนถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีดอันตราย การพยายามฆ่าผู้อื่น แม้ไม่สำเร็จ
แม้จำเลยจะแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แต่อาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นมีดปลายแหลมซึ่งมีความยาวมาก เฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบเศษ ด้ามมีดยาวประมาณ 1 คืบ แทงผู้เสียหายถูกที่บ่าด้านหลังข้างซ้ายลึกประมาณ 1 คืบถึงกระดูกสะบัก บาดแผลยาวประมาณ 4 นิ้ว แสดงว่าจำเลยแทงผู้เสียหายอย่างแรงจนตัวมีดเกือบมิดถึงด้ามมีด ถูกที่สำคัญซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อแทงแล้วจำเลยก็ยังไม่ยอมปล่อยมีดที่ปักคาอยู่ ธ. กับ บ. ต้องเข้ามาช่วยดึงมือจำเลยมีดที่ปักอยู่จึงหลุดตามมือ ของจำเลยออกมา ผู้เสียหายเสียเลือดมาก หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยย่อมมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีดอันตรายถึงชีวิต แม้ไม่สำเร็จผล
แม้จำเลยจะแทงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพียง 1 ครั้งแต่อาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นมีดปลายแหลมซึ่งมีความยาวมากเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบเศษ ด้ามมีดยาวประมาณ 1 คืบแทงผู้เสียหายถูกที่บ่าด้านหลังข้างซ้ายลึกประมาณ 1คืบถึงกระดูกสะบัก บาดแผลยาวประมาณ 4 นิ้วแสดงว่าจำเลยแทงผู้เสียหายอย่างแรงจนตัวมีดเกือบมิดถึงด้ามมีดถูกที่สำคัญซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อแทงแล้วจำเลยก็ยังไม่ยอมปล่อยมีดที่ปักคา อยู่ ธ. กับ บ. ต้องเข้ามาช่วยดึงมือจำเลยมีดที่ปักอยู่จึงหลุดตามมือ ของจำเลยออกมา ผู้เสียหายเสียเลือดมาก หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยย่อมมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งอาวุธและการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความพิการ ศาลแก้ข้อกล่าวหาเป็นพยายามฆ่าและชิงทรัพย์
จำเลยกับพวกอีก 4 คน ไม่มีอาวุธ กลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหาย มีแต่เพียงเจตนาทำร้าย การแย่งอาวุธปืนของผู้เสียหายแล้วยิงผู้เสียหายจนตาบอดทั้ง 2 ข้าง เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในตอนหลังของจำเลยเพียงผู้เดียวโดยเจตนาจะแย่งอาวุธปืนเพื่อใช้ยิงผู้เสียหายโดยมี เจตนาฆ่า เป็นการกระทำโดยเจตนาลักเอาอาวุธปืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7),80 และ ฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสตาม มาตรา 340 วรรคสาม แต่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตาม มาตรา 288,80 และฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่น ได้รับอันตรายสาหัสตาม มาตรา 339 วรรคสี่ ปัญหานี้เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ฎีกาขึ้นมาโดยตรง ศาลฎีกา ก็แก้ไขให้ ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันพยายามฆ่า: การกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้พวกทำร้ายผู้อื่น และการใช้กำลังจนอาจถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับ ส.มีมีดปลายแหลมยาวประมาณหนึ่งคืบคนละเล่มเข้าไปที่นางป.และนายจ.สามีภรรยานอนอยู่ จำเลยใช้มีด จี้ที่หน้าอกนายจ.พูดว่าอย่าร้องถ้าร้องแทงตาย จ.ขัดขืนแย่งมีดกับจำเลยและถีบจำเลยจำเลยจึงแทงนายจ.มีบาดแผลที่ฝ่ามือ ทรวงอก นิ้วชี้ โคนขาขวา ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน ส.พวกของจำเลยได้ใช้มีดแทงนางป.ถูกที่หน้าอกทะลุเข้าช่องอก แขนขวา แขนซ้าย และศีรษะด้านซ้ายบาดเจ็บสาหัส แม้จำเลยจะแทงผู้เสียหายบาดเจ็บเล็กน้อย แต่การที่จำเลยใช้มีดขู่นายจ.ไม่ให้ร้องก็เพื่อความสะดวกในการที่พวกของจำเลยทำร้ายนางป.อันมีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำ อาวุธที่ใช้และอวัยวะส่วนที่ถูกทำร้ายอาจทำให้ผู้เสียหายทั้งสองถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต่างคนต่างทำ: ศาลยกความผิดพยายามฆ่ากระทงสอง, ล้างมลทินลดโทษ
จำเลยและ ป. โกรธแค้น ม. ที่ฆ่า ส. เพื่อนของจำเลย ตาย จึงถือปืนไปถามหา ม. ต่อ พ.และย. โดยมิได้ มีเจตนาจะฆ่า พ.และย.มาก่อนเลยครั้นไม่พบม.จำเลยก็ยิงและไล่ตามยิงพ. ส่วน ป. ยิงและไล่ ตามยิง ย.ต่อมาอีกเล็กน้อยเมื่อป.ยิงย. ขณะที่จำเลยอยู่ด้วย จำเลยก็มิได้ยิง ย. ตามพฤติการณ์ดังกล่าวส่อเจตนาของจำเลยและ ป. ว่าต่างคนต่างยิง พ.และ ย. เป็นเจตนาที่ต่างเพิ่งเกิดขึ้นใหม่. จำเลยมิได้มีเจตนาร่วมกับ ป. ฆ่า ย.จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าย. อีกกระทงหนึ่ง ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 ประกาศใช้ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2526 ซึ่งตามมาตรา 4 บัญญัติให้ล้างมลทินแก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 6 เมษายน 2525 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติ นี้ใช้บังคับ ฯลฯ โดยถือว่าผู้นั้นมิได้ เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ จำเลยต้องโทษในกรณีความผิด ซึ่งได้กระทำก่อนวันที่ 6 เมษายน 2525 และพ้นโทษคดีก่อนก่อนที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: ศาลพิจารณาจากลักษณะการกระทำและอาวุธที่ใช้เพื่อวินิจฉัยความผิดฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทมาตราที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนเมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้มีดปอกผลไม้ทั้งด้ามและตัวมีดยาวเพียง 1 คืบ แทงผู้เสียหายไป 1 ที ขณะชกต่อยกัน แล้วมิได้แทงซ้ำอีก แสดงว่าไม่มีเจตนาฆ่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ไม่ผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
of 87