พบผลลัพธ์ทั้งหมด 477 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถในการฟ้องคดีของผู้เยาว์: การพิจารณาคดีที่ไม่ถูกต้องและผลกระทบต่อคำพิพากษา
ไนคดีที่จำเลยเปนผู้เยาว์และดำเนินไปโดยมิได้ปติบัติไห้ถูกต้องไนเรื่องความสามารถนั้น สาลดีกามีอำนาดกำหนดไห้สาลชั้นต้นพิจารนาไหม่โดยให้แยกคดีที่ผู้เยาว์เปนจำเลยออกจากคดีเดิมและไห้ยกเว้นค่าทำเนียบสาลอุธรน์ดีกาสำหรับฝ่ายที่เคยเสียมาแล้ว
หากจะอุธรน์ดีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เปนผู้เยาว์ด้วย
หากจะอุธรน์ดีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เปนผู้เยาว์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาในการพิจารณาคดีผู้เยาว์และการงดคดีส่วนตัว
ในคดีที่จำเลยเป็นผู้เยาว์และดำเนินคดีไปโดยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องในเรื่องความสามารถนั้น ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่โดยให้แยกคดีที่ผู้เยาว์เป็นจำเลยออกจากคดีเดิมและให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ฎีกาสำหรับฝ่ายที่เคยเสียมาแล้วได้ หากจะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เป็นผู้เยาว์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญา: ศาลต้องสืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยเพื่อความยุติธรรม
สาลชั้นต้นฟังคำพยานโจท+เดียว แล้วพิพากสายกฟ้อง โดยที่รูปคดีของโจทมี+เปนความผิดและยังไม่+อันไดที่จะฟังข้อเท็ดจิง+ยุติเช่น ย่อมเปนการ++ด้วยวิธีพิจารนา สาล+ดำเนินกะบวนพิจารนาไห้เส็ดสิ้นกะแสความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีไม่เสร็จสิ้นก่อนพิพากษา ยกฟ้องโดยมิชอบ
ศาลชั้นต้นฟังคำพยานโจทก์ปากเดียว แล้วพิพากษายกฟ้องโดยที่รูปคดีของโจทก์มีลักษณะเป็นความผิดและยังไม่มีเหตุอันใดที่จะฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติเช่นนี้ ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาศาลควรดำเนินกระบวนพิจารณาให้เสร็จสิ้นกระแสความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาโดยไม่ระบุสถานะพยานของผู้ให้ข้อมูล ถือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ
ไนคดีซึ่งหยุ่ไนชั้นพิจารนาสาลชั้นต้นเรียกปลัดอำเพอและกำนันมาสอบถาม แล้วฟังข้อเท็ดจิงว่าจำเลยมิได้กะทำผิดพิพากสายกฟ้อง โดยไม่ปรากตว่าบุคคลทั้งสองนั้นมาสาลไนถานะ เช่นไร เช่นนี้ ย่อมเปนการไม่ชอบด้วยกะบวนพิจารนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาทำผิดในฟ้องอาญา ความสมบูรณ์ของฟ้อง และการพิจารณาคดี
ฟ้องโจทกล่าวว่าจำเลยกะทำผิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2483 เวลาไม่ปรากดย่อมเปนฟ้องที่ชอบด้วยกดหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แก้ไขโทษจำคุกเป็นปรับ: ผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปีปรับ 3,186 บาท 95 สตางค์.ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้ปรับเพียงสถานเดียว. ยกโทษจำคุกเช่นนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้. ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2485.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการวินิจฉัยตามพยานฝ่ายเดียว
เมื่อสืบพยานโจทหมดแล้วถึงวันนัดสืบพยานจำเลยคู่ความไม่มาสาลทั้งสองฝ่าย สาลจะสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ ต้องถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารนาแล้ววินิจฉัยชี้ขาดไปตามหลักถานพยานโจทฝ่ายเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการไม่อนุญาตให้สืบพยานตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 202
พฤติการณ์ที่คู่ความขาดนัดชั้นพิจารณา จึงไม่อนุญาตให้สืบพยานตามมาตรา 202
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีทนายความ และผลกระทบต่อการดำเนินการต่อไปของคณะกรรมการสอดส่องความประพฤติ
ผู้ถูกกล่าวหาเคยขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าป่วยต่อคณะกรรมการสอดส่องความประพฤติทนายความครั้งหนึ่งแล้ว. คณะกรรมการจึงให้เลื่อนการพิจารณาไปในวันที่ 9 ตุลาคม 2484 เวลา10 น.. ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาและไม่มีผู้ใดมาแจ้งเหตุขัดข้อง. คณะกรรมการสอดส่องความประพฤติทนายความจึงมีคำสั่งว่าผู้ถูกกล่าวหาขาดนัดพิจารณา แล้วดำเนินคดีไปฝ่ายเดียว.ครั้นเวลา 12.40 น. วันเดียวกันได้มีโทรเลขของผู้ถูกกล่าวหาขอเลื่อนคดีไปอีก 25 วัน โดยมิได้ยื่นคำร้องชี้แจงแสดงเหตุที่ขอเลื่อนคดีแต่ประการใด. วันที่25 ตุลาคม 2484 คณะกรรมการฯ จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป. ดังนั้นการที่ผู้ถูกกล่าวหาได้มาฟังการพิจารณาในวันสืบพยานผู้กล่าวหาเพิ่มเติมและแถลงขอเลื่อนสืบพยานกับยื่นเอกสารที่จะส่งตามที่ระบุไว้.คณะกรรมการฯได้มีคำสั่งไม่อนุญาตและถือว่าคดีเสร็จสำนวน.จึงเป็นการปฏิบัติชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 202 แล้ว.