พบผลลัพธ์ทั้งหมด 405 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน vs. สัญญาเช่าซื้อ: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า "ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ" เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ vs. สัญญาจะซื้อขาย: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า 'ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ' เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การผิดนัดและการบังคับสัญญา แม้มีเบี้ยปรับ
การที่คู่สัญญาตกลงกันกำหนดวันใดวันหนึ่งให้ไปทำการโอนขายที่ดิน ก็เป็นข้อตกลงที่ใช้ได้ เมื่อฝ่ายใดบิดพลิ้วได้ชื่อว่าผิดนัด ไม่จำต้องรอไปจนสิ้นกำหนดตามข้อสัญญาเดิม
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่นไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 380 ได้ให้สิทธิเจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
ในสัญญาจะขายที่ดิน การที่โจทก์สืบว่าจำเลยจะเอาที่ไปขายให้ผู้อื่นไม่เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น เป็นการสืบถึงเหตุประกอบข้อเจตนาบิดพลิ้วของจำเลย
ในข้อสัญญากำหนดเบี้ยปรับไว้เมื่ออีกฝ่ายผิดสัญญา ยังไม่เพียงพอให้สันนิษฐานว่า ผู้ซื้อจะเรียกได้แต่เพียงเบี้ยปรับในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 380 ได้ให้สิทธิเจ้าหนี้เลือกเรียกเบี้ยปรับ หรือเลือกเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกเวนคืน แม้มีกำหนดโอนในช่วงห้ามโอน แต่ยังสามารถบังคับให้ทำสัญญาได้ หากไม่ใช่สาระสำคัญของสัญญา
ที่ดินซึ่งอยู่ในเขตต์เวนคืนนั้นทำสัญญาจะซื้อขายต่อกันได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและกำหนดไปโอนในเวลาซึ่งอยู่ในระหว่างกฎหมายห้ามโอนภายหลังแบ่งแยกโฉนดแล้ว ผู้ซื้อก็ขอบังคับให้โอนได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและกำหนดไปโอนในเวลาซึ่งอยู่ในระหว่างกฎหมายห้ามโอนภายหลังแบ่งแยกโฉนดแล้ว ผู้ซื้อก็ขอบังคับให้โอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยสัญญาจะซื้อขายและผลของการไม่ไถ่ถอนหนี้ต่อสิทธิในที่ดิน
ไห้ที่ดินผู้อื่นไปไห้เจ้าหนี้ทำกินต่างอกเบี้ยเงินกู้ผู้กู้ไปสัญญาด้วยว่าถ้าไม่ไถ่ไน 5 ปียอมไห้หลุดเปนสิทธิเมื่อครบ 10 ปีนับแต่วันสัญญาไถ่ถอนแล้วไม่ไถ่ฝ่ายเจ้าของได้ขอที่ดินคืนพายไน 10 ปี ดังนี้ เมื่อเจ้าของที่กับเจ้าหนี้โต้แย้งกัมสิทธิกัน ก็ต้องฟังข้อเท็ดจิงต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขาย และการพิสูจน์การวางเงินมัดจำ
โจทได้ทำสัญญาขายที่รายพิพาทไห้ผู้อื่นพายหลัง เมื่อจำเลยบอกเลิกสัญญาจะขายที่รายพิพาทนี้จะถือว่าโจทต้องเสียหายเพราะจำเลยผิดสัญญาไม่ได้. โจทฟ้องเรียกเงินมัดจำ 200 บาทตามสัญญาคืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทไม่ได้วางเงินมัดจำเช่นนี้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบหักล้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่เป็นลายลักษณ์อักษร การเลื่อนกำหนดชำระหนี้
ตั้งตัวแทนไปทำสัญญาจะซื้อที่ดินไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ถึงกำหนดชำระเงินกันที่อำเภอโจทก์ขัดข้องจะต้องเลื่อนกำหนดไปฝ่ายจำเลยไม่ขัดข้องในการเลื่อนและได้ลงนามในบันทึกไว้เช่นนี้ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้
ถึงกำหนดชำระเงินกันที่อำเภอโจทก์ขัดข้องจะต้องเลื่อนกำหนดไปฝ่ายจำเลยไม่ขัดข้องในการเลื่อนและได้ลงนามในบันทึกไว้เช่นนี้ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ไม่ถือเป็นผู้มีสิทธิจดทะเบียนก่อนผู้รับซื้อที่ดินโดยชอบ
ผู้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินไว้แล้วผิดสัญญาด้วยนั้น ไม่เรียกว่าเป็นผู้อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิ์ของตนได้ก่อนผู้ที่ได้รับโอนที่ดินนั้นโดยถูกต้อง ++
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การไม่โอนทะเบียนตามกำหนด ไม่ถือเป็นการยอมสละสิทธิในเงื่อนเวลา
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันโดยกำหนดจะโอนทะเบียนภายในเดือนมีนาคมครั้นถึงกำหนดแทนที่ผู้ซื้อจะขอให้ผู้ขายโอนทะเบียนที่ดินให้ตนตามสัญญากลับไปขอให้ผู้ขายจัดการแบ่งแยกที่ดินจนพ้นตามสัญญาก็ไม่ไปจัดการโอนทะเบียนดังนี้ ไม่เรียกว่าผู้ขายประพฤติผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิเลิกสัญญาได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กันโดยกำหนดจะโอนทะเบียนภายในเดือนมีนาคม ในระหว่างนั้นผู้ซื้อขอให้ผู้ขายแบ่งแยกที่ดินเพื่อขายให้แก่คนภายนอก ผู้ขายก็จัดทำให้ดังนี้ ไม่เรียกว่าผู้ขายยอมสละสิทธิในประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญาจะซื้อขายนั้น
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กันโดยกำหนดจะโอนทะเบียนภายในเดือนมีนาคม ในระหว่างนั้นผู้ซื้อขอให้ผู้ขายแบ่งแยกที่ดินเพื่อขายให้แก่คนภายนอก ผู้ขายก็จัดทำให้ดังนี้ ไม่เรียกว่าผู้ขายยอมสละสิทธิในประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญาจะซื้อขายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินที่เชื่อมโยงกับสัญญาจะซื้อขาย: การส่งมอบทรัพย์ที่ยืมและการมีผลใช้บังคับ
จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่นาผู้ซื้อเรียกเงินมัดจำเพิ่มเติมจำเลยไม่มีเงินให้จึงทำเป็นหนังสือกู้เงินให้ไว้แลผู้ขายก็ทำใบรับเงินให้จำเลย พฤตติการณ์ดังนี้ถือว่า ได้มีการส่งมอบทรัพย์ที่ให้ยืมกันแล้ว สัญญากู้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย