พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดยื่นคำให้การ - โจทก์ต้องดำเนินการตามมาตรา 198 แม้ศาลนัดสืบพยานก่อน
เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป โจทก์ต้องมีคำขอต่อศาลภายในกำหนด 15 วันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การสิ้นสุดลง ถ้าโจทก์ไม่ยื่นคำขอดังกล่าวภายในกำหนดระยะเวลานั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 วรรคสอง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ การที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ไว้ก่อนมีคำสั่งให้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและได้สืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว หามีผลลบล้างให้โจทก์ไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3031/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาต้องได้ตัวจำเลยก่อนนัดสืบพยาน หากจำเลยไม่มาศาลตามนัด โจทก์ก็ต้องไม่ถูกยกฟ้อง
ในคดีอาญา เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งประทับฟ้องแล้วศาลชอบที่จะต้องออกหมายเรียกหรือหมายจับจำเลยมาแล้วแต่ควรอย่างใดเพื่อให้ได้ตัวจำเลยมาอยู่ในอำนาจศาลเสียก่อนแล้วจึงทำการพิจารณาต่อไป การที่ศาลสั่งกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยยังไม่ได้ตัวจำเลยมาศาล จึงเป็นกระบวนพิจารณาข้ามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่มาศาลตามนัด ในวันนั้นก็ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในอำนาจศาลวันเวลาที่นัดไว้จึงถือไม่ได้ว่าเป็นวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามวันเวลาดังกล่าวจะถือเป็นเหตุยกฟ้องโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166 ประกอบด้วยมาตรา 181 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณา – สิทธิในการสืบพยาน – การพิจารณาคดีไม่ชอบ – แก้ไขคำพิพากษา
จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้วแต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี และสิทธิในการนำสืบพยานจำเลย แม้จะขาดนัดไปแล้ว
จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา แล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2607/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งการสืบพยาน และการไม่อนุญาตให้สืบพยานต่างประเทศเมื่อไม่จำเป็น
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งประเด็นไปสืบตัวจำเลยที่ 6 ที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วต่อมาได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเสียและสั่งให้ตัวจำเลยมาเบิกความที่ศาลแทนการส่งประเด็นนั้น เป็นอำนาจของศาลที่จะสั่งได้ว่าสมควรจะให้สืบพยานหลักฐานใดในศาลหรือนอกศาลตามความจำเป็นแห่งสภาพของพยานหลักฐานหรือจะให้ศาลอื่นสืบพยานหลักฐานแทนก็ได้หากศาลเห็นเป็นการจำเป็นดังมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่ายังไม่เป็นการจำเป็นที่จะให้ส่งประเด็นไปสืบจำเลยที่ 6 ที่ 8 ที่ 9 และที่ 10 ยังต่างประเทศ ศาลก็ชอบจะไม่อนุญาตได้แม้ศาลจะสั่งอนุญาตแล้ว ก็เพิกถอนได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้จึงชอบแล้ว
ศาลให้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดี เมื่อจำเลยมิได้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดีดังที่ศาลสั่ง และมิได้ขอเลื่อนคดี การที่ศาลสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนโดยไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบพยานดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบเช่นเดียวกัน และหาใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยไม่
ศาลให้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดี เมื่อจำเลยมิได้นำพยานมาสืบที่ศาลที่พิจารณาคดีดังที่ศาลสั่ง และมิได้ขอเลื่อนคดี การที่ศาลสั่งว่าคดีเสร็จสำนวนโดยไม่อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบพยานดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบเช่นเดียวกัน และหาใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2042/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาเอกสารก่อนสืบพยาน & การใช้ดุลพินิจศาลในการรับฟังพยานหลักฐาน
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยแถลงว่าจำเลยยังมิได้รับสำเนาเอกสารจากโจทก์ แต่จำเลยก็ขอให้สืบพยานโจทก์ไปได้ และคัดค้านไปพร้อมกันว่าขอมิให้ศาลรับฟังเอกสารของโจทก์ ซึ่งขัดกันอยู่ในตัว ปรากฏว่าโจทก์ส่งสำเนาเอกสารให้ทนายจำเลยก่อนวันสืบพยานถึง 7 วัน ความล่าช้าจึงมิได้อยู่ที่โจทก์ ทั้งโจทก์แถลงว่าหากให้เลื่อนคดีไป โจทก์ก็พร้อมที่จะทำสำเนาเอกสารให้จำเลย แต่จำเลยก็ยังยืนยันให้สืบพยานโจทก์ไปในวันนั้นเองเพื่อหวังผลว่าศาลจะไม่รับฟังพยานเอกสารของโจทก์ การที่ศาลชั้นต้นรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ในพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการใช้ดุลพินิจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) จึงเป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาเอกสารพยานหลักฐาน และการรับฟังเอกสารที่ไม่ได้ส่งให้คู่ความก่อนสืบพยาน
การที่จะส่งเอกสารไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ เป็นสิทธิของคู่ความไม่ใช่หน้าที่ของศาล แต่การตรวจพิจารณาเปรียบเทียบลายมือชื่อในเอกสารที่คู่ความส่งต่อศาลเป็นการพิจารณาอย่างหนึ่ง ศาลย่อมมีอำนาจทำได้
จำเลยไม่ได้คัดค้านในการที่โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยทราบก่อนวันสืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีอำนาจรับฟังเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
จำเลยไม่ได้คัดค้านในการที่โจทก์ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยทราบก่อนวันสืบพยาน เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีอำนาจรับฟังเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำสารภาพของจำเลยถือเป็นการยอมรับการมีผู้นำจับ แม้โจทก์มิได้สืบพยานก็ฟังได้ว่ามีผู้นำจับ
โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีผู้ประสงค์เงินสินบนนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทองคำแท่งเป็นของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพและมิได้โต้แย้งเรื่องผู้นำจับเท่ากับยอมรับว่ามีผู้นำจับจริง แม้คำให้การจำเลยจะมีข้อความว่า ส่วนข้อหานอกนั้นขอให้การปฏิเสธ ก็เป็นการ ปฏิเสธข้อหาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด มิใช่ปฏิเสธว่าไม่มีผู้นำจับ ดังนั้นแม้โจทก์ไม่สืบพยาน ก็ฟังได้ว่าคดีนี้มีผู้นำจับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้นำจับได้รับสินบน แม้โจทก์มิได้สืบพยาน ยึดตามคำรับสารภาพจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีผู้ประสงค์เงินสินบนนำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยทองคำแท่งเป็นของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพและมิได้โต้แย้งเรื่องผู้นำจับเท่ากับยอมรับว่ามีผู้นำจับจริง แม้คำให้การจำเลยจะมีข้อความว่า ส่วนข้อหานอกนั้นขอให้การปฏิเสธ ก็เป็นการ ปฏิเสธข้อหาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด มิใช่ปฏิเสธว่าไม่มี ผู้นำจับ ดังนั้นแม้โจทก์ไม่สืบพยานก็ฟังได้ว่าคดีนี้มีผู้นำจับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหักล้างเอกสารสัญญากู้เงิน: การพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ต่างจากเอกสาร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินไป 28,750 บาท จำเลยให้การว่ากู้ไปเพียง 4,000 บาท โดยโจทก์ให้จำเลยลงชื่อไว้ในแบบพิมพ์สัญญากู้โดยยังไม่ได้กรอกข้อความ การที่จำเลยนำสืบตัวจำเลยและพยานบุคคลอีกสองคนว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปจำนวน 4,000 บาท โจทก์ได้ให้จำเลยลงชื่อไว้ในแบบพิมพ์สัญญากู้โดยยังไม่ได้กรอกข้อความ เป็นการนำสืบให้เห็นว่า มีการกรอกข้อความที่ผิดความจริงว่าจำเลยกู้เงินไป 28,750 บาท ลงในสัญญากู้ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้อง ซึ่งหากฟังได้สัญญากู้ดังกล่าวย่อมเป็นเอกสารปลอม การนำสืบเช่นนี้เป็นการนำสืบหักล้างเอกสาร จำเลยมีสิทธินำสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง