พบผลลัพธ์ทั้งหมด 493 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือ ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่า เป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่า เกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉะบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่าเป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่าเกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ถูกหลอกลวงมีอำนาจร้องทุกข์ แม้เงินที่จ่ายไปมิใช่ของตนเอง
ในคดีฉ้อโกงเงินนั้น เมื่อผู้ถูกหลอกลวงเชื่ออุบายจำเลยได้จ่ายเงินให้แก่ฝ่ายจำเลย จะเป็นเงินของผู้ถูกหลอกลวงเองหรือหยิบยืมมาจากใคร จะทำเป็นหนังสืออย่างใด หรือไม่ก็ตาม ก็เรียกได้ว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายโดยตรงมีอำนาจที่จะร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้ถอนฟ้อง และผิดคำรับรอง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือแจ้งความเท็จ
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มฤดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญา.
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้ถอนฟ้องและการผิดคำรับรอง ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือแจ้งความเท็จ
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มรดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม กฎหมายลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้มอบเงินเพื่อจัดการเรื่องอากรแสตมป์แล้วนำไปใช้ส่วนตัว จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์
โจทก์มอบเงินให้จำเลยไปตามที่จำเลยหลอกลวงว่าจะนำใบรับเงินที่ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ไปให้เจ้าพนักงานปิดอากรแสตมป์ให้บริบูรณ์ มิฉะนั้นจะมีโทษ แล้วจำเลยเอาเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ตนเสีย โดยมิได้จัดการประการใดนั้น โจทก์เรียกเงินคืนจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง หากไม่ได้ถูกหลอกลวงโดยตรง
องค์สำคัญแห่งความผิดตาม ก.ม.อาญามาตรา 306 คือ การฉ้อโกงซึ่งตามมาตรา 304 ว่าต้องมีการหลอกลวง ฯลฯ ผู้ที่ถูกหลอกลวงตามมาตรา 306(4) ก็คือ ผู้ซื้อ ผู้รับทรัพย์ ไว้เป็นประกัน ผู้รับจำนำ ผู้รับจำหน่าย เจ้าของกรรมสิทธิในทรัพย์ หาได้ถูกหลอกลวงไม่ ฉะนั้นเจ้าของกรรมสิทธิจึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องผู้ฉ้อโกงเป็นคดีอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่เป็นผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง หากไม่ได้ถูกหลอกลวงโดยตรง
องค์สำคัญแห่งความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306คือการฉ้อโกงซึ่งตามมาตรา 304 ว่าต้องมีการหลอกลวง ฯลฯผู้ที่ถูกหลอกลวงตามมาตรา 306(4) ก็คือ ผู้ซื้อ ผู้รับทรัพย์ไว้เป็นประกันผู้รับจำนำผู้รับจำหน่าย เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ หาได้ถูกหลอกลวงไม่ ฉะนั้นเจ้าของกรรมสิทธิ์จึงไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีสิทธิฟ้องผู้ฉ้อโกงเป็นคดีอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ถูกหลอกลวงก่อนส่งทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายได้ คดีฉ้อโกงไม่ได้จำกัดเฉพาะการส่งมอบทรัพย์
ในคดีฉ้อโกง เพียงแต่ถูกหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ แม้ยังมิทันส่งทรัพย์ให้ ก็ถือว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายแล้ว
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่า จะเอาโคมาคืนให้ เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหาย และมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่า จะเอาโคมาคืนให้ เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหาย และมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกง: ผู้ถูกหลอกลวงแม้ยังไม่ส่งทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้
ในคดีฉ้อโกง เพียงแต่ถูกหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ แม้ยังมิทันส่งทรัพย์ให้ ก็ถือว่าผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายแล้ว
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่าจะเอาโคมาคืนให้เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้ เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย
เจ้าของโคที่หายไป ถูกจำเลยหลอกลวงเอาเงินไปว่าจะเอาโคมาคืนให้เจ้าของโคไม่มีเงิน จึงขอให้บุคคลอื่นออกเงินไถ่เอาโคมา โดยตกลงว่า เมื่อไถ่โคมาแล้ว จะมอบโคให้เป็นสิทธิแก่บุคคลนั้น ดังนี้ เจ้าของโคยังเป็นผู้เสียหายและมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎหมาย