คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงบทลงโทษอาญาและขอบเขตการฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายอาญา มาตรา293,294,295,74 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา 294 วรรคสุดท้าย โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 295 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 295 ตามที่โจทก์ขอจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามเพราะศาลอุทธรณ์แก้บทลงโทษและแก้โทษจำเลย เป็นการแก้มาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำคุกทวีคูณสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำในคดีอาญาภายใน 5 ปี
การที่จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ ที่ 1 ฐานลักทรัพย์ตาม ม.295 จำคุก 3 ปี ครั้งที่ 2 ฐานชิงทรัพย์ ตาม ม.299 จำคุก 1 ปี 6 เดือน แล้วกลับมากระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ในคดีนี้อีก (เป็นครั้งที่ 3) ภายใน 5ปี ดังนี้ จำต้องเพิ่มโทษจำเลยเป็นทวีคูณตาม ม.74.
(อ้างฎีกาที่ 1266/2481)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ส่งผลต่อการลงโทษทางอาญา
ฟ้องว่าจำเลยยิง ก.ตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเจตนายิง ข.แต่พลาดไปถูกก.ตายเช่นนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลลงโทษจำเลยตาม กฎหมายอาญา มาตรา 44 ก็ต้องบรรยายลงไว้ในฟ้องให้ชัดเจน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษอาญา: หลักการพิจารณาโทษอาญาซ้ำจากประวัติโทษเดิมต้องชัดเจนและมีหลักฐานสนับสนุน
เกี่ยวกับฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยนั้นอัยการโจทก์บรรยายว่า " ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษทำร้ายร่างกาย ถูกศาลจังหวัดชุมพรพิพากษาจำคุก 10 วัน ปรับ 25 บาท คดีหมายเลขแดงที่ 347/2495 จำเลยพ้นโทษยังไม่ครบ 5 ปี กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก หาเข็ดหลาบไม่ขอให้ศาลเพิ่มโทษตาม ม.72 อีกโสดหนึ่งด้วย
ศาลสอบจำเลย ๆ รับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องโจทก์เป็นความจริง
และจำเลยเบิกความตามคำซักค้านของโจทก์ว่า "ข้าพเจ้าจำเลยเคยต้องโทษของศาลฐานทำร้ายร่างกายนายเปรื่องมีบาดเจ็บ"
ดังนี้ข้อเพิ่มโทษ ตามที่บรรยายในฟ้องของโจทก์ ๆ ระบุเพียงว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่ง ก.ม.อาญา ระบุไว้ในส่วนที่ 7 หมวดที่ 2 ซึ่งกินความถึงความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ โดยเจตนา บาดเจ็บสาหัสโดยเจตนา บาดเจ็บโดยเจตนาและประมาทก็มี ระบุเป็นหัวข้อเรื่องละหุโทษตาม ม.338 ก็มีจึงไม่แน่ว่าตามที่โจทก์บรรยายมานั้นอยู่ในความผิดส่วนไหน เพราะอัตราโทษครั้งก่อนที่จำเลยรับโทษจำคุก 17 วันปรับ 25 บาท นั้นก็เบามีลักษณะเป็นได้ทั้งเจตนา ประมาท และลหุโทษ
จึงอาศัยแต่เพียงคำรับของจำเลยดังกล่าวมาเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้ ข้อเพิ่มโทษจึงต้องยกเสีย
อ้างฎีกาที่ 366/2499

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษทางอาญา: หลักฐานความผิดเดิมต้องชัดเจนและสอดคล้องกับคำรับของจำเลย
เกี่ยวกับฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยนั้น อัยการโจทก์บรรยายว่า " ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษทำร้ายร่างกาย ถูกศาลจังหวัดชุมพรพิพากษาจำคุก 10 วันปรับ 25 บาทตามคดีหมายเลขแดงที่ 347/2495 จำเลยพ้นโทษยังไม่ครบ 5 ปี กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก หาเข็ดหลาบไม่ ขอให้ศาลเพิ่มโทษตาม มาตรา 72 อีกโสดหนึ่งด้วย"
ศาลสอบจำเลยจำเลยรับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องโจทก์เป็นความจริง
และจำเลยเบิกความตามคำซักค้านของโจทก์ว่า " ข้าพเจ้าจำเลยเคยต้องโทษของศาลฐานทำร้ายร่างกายนายเปรื่องมีบาดเจ็บ "
ดังนี้ข้อเพิ่มโทษตามที่บรรยายในฟ้องของโจทก์โจทก์ระบุเพียงว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่ง กฎหมายอาญาระบุไว้ในส่วนที่ 7 หมวดที่ 2 ซึ่งกินความถึงความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บโดยเจตนา บาดเจ็บสาหัสโดยเจตนาบาดเจ็บโดยเจตนาและประมาทก็มี ระบุเป็นหัวข้อเรื่องลหุโทษตาม มาตรา338 ก็มีจึงไม่แน่ว่าตามที่โจทก์บรรยายมานั้นอยู่ในความผิดส่วนไหน เพราะอัตราโทษครั้งก่อนที่จำเลยรับโทษจำคุก 10 วันปรับ 25 บาทนั้นก็เบามีลักษณะเป็นได้ทั้งเจตนา ประมาทและลหุโทษ
จึงอาศัยแต่เพียงคำรับของจำเลยดังกล่าวมาเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้ ข้อเพิ่มโทษจึงต้องยกเสีย
อ้างฎีกาที่ 366/2499

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดหลายบทกับหลายกะทงในคดีอาญา: บุกรุกและพยายามฆ่า
การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกะทงหรือเป็นความผิดกะทงเดียวแต่ต้องด้วย ก.ม.หลายบท มีหลักวินิจฉัยดังนี้คือ ถ้าการกระทำใดเป็นความผิดต้องด้วย ก.ม.หลายบทแล้วจะแยกการกระทำนั้นออกจากกันไม่ได้ ก็เป็นความผิดที่ต้องด้วย ก.ม.หลายบท แต่ถ้า ก.ม.บัญญัติการกระทำเป็นความผิดไว้คนละอย่างต่างกัน เช่น ลักทรัพย์กับทำร้ายร่างกายหรือทำร้ายร่างกายกับบุกรุกดังนี้ ผู้ที่กระทำผิดทั้งสองอย่างก็ต้องเป็นความผิด 2 กะทงไม่ใช่ต้องด้วย ก.ม.หลายบทเพราะต่างกรรมต่างวาระกัน
การที่จำเลยที่ 1 ทำผิดทั้งบุกรุกและพยายามฆ่าคนเป็นความผิด 2 ฐาน ไม่ใช่เป็นการกระทำเพียงอย่างเดียวจำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดเป็นสองกะทงคือฐานบุกรุกกะทงหนึ่งและฐานพยายามฆ่าคนอีกกะทงหนึ่ง แต่ถ้าความผิดอาญานั้นเกี่ยวเนื่องกันศาลอาจใช้ดุลยพินิจรวมกะทงลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลคำฟ้องและการระบุประเด็นความรับผิดชอบทางอาญา หากโจทก์มิได้ระบุเจตนาหรือความรับผิดชอบโดยตรง ศาลยึดตามที่ระบุ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ขวดสุราตีศีร์ษะนายคำไม่มีบาดเจ็บ ขวดแตกเศษขวดกระเด็นไปถูกคอนางทิงเป็นแผลถึงบาดเจ็บ. เช่นนี้ย่อมต้องแปลว่าโจทก์มิได้ประสงค์จะฟ้องไปถึงว่าจำเลยทำร้ายนางทิงด้วยแต่พรรณาพฤติการณ์เข้ามาลอย ๆ. การที่นางทิงได้รับบาดเจ็บโดยจำเลยตั้งใจประสงค์ต่อผลหรืออาจแลเห็นผลเช่นนี้หรือไม่โจทก์ไม่ได้ระบุยืนยันเพื่อเป็นขอให้ศาลวินิจฉัย จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำฟ้องอาญา: การระบุเจตนาและผลของการกระทำ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ขวดสุราตีศีรษะนายดำไม่มีบาดเจ็บ ขวดแตกเศษขวดกระเด็นไปถูกคอนางทิงเป็นแผลถึงบาดเจ็บเช่นนี้ย่อมต้องแปลว่า โจทก์มิได้ประสงค์จะฟ้องไปถึงว่าจำเลยทำร้ายนางทิงด้วยเป็นแต่พรรณาพฤติการณ์เข้ามาลอยๆ การที่นางทิงได้รับบาดเจ็บโดยจำเลยตั้งใจประสงค์ต่อผลหรืออาจแลเห็นผลเช่นนี้หรือไม่ โจทก์ไม่ได้ระบุยืนยันเพื่อเป็นข้อให้ศาลวินิจฉัย จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายละเอียดฟ้องต่างจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ไม่ถึงขั้นต้องยกฟ้องอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสโดยจำเลยใช้มือชกถูกแก้มและเตะถูกขากรรไกรซ้ายหัก ดังนี้แม้จะได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยเตะผู้เสียหายขากรรไกรขวาหักต่างกับฟ้องจริงก็ดี ข้อเท็จจริงเป็นแต่เพียงรายละเอียดของฟ้องไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งฟ้อง ไม่ถึงกับต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษอาญา ม.73 ต้องพิสูจน์ระยะเวลาพ้นโทษครั้งแรก หากไม่ชัดเจนศาลไม่สามารถเพิ่มโทษได้
โจทก์บรรยายฟ้องในข้อขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกจำคุก 4 ปี ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามคดีแดงที่ 541/2491 ครั้งที่ 2 จำคุก 6 เดือน ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานพ้นโทษไปเมื่อ พ.ศ. 2495 มากระทำผิดในคดีนี้ภายใน 3 ปี ไม่เข็ดหลาบขอให้เพิ่มโทษตาม ก.ม.อาญา ม.73 ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องตลอดจนข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษ ดังนี้โทษเก่าครั้งหลังเพียง 6 เดือน ย่อมเพิ่มโทษตามม.73 ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยพ้นโทษครั้งแรกเมื่อใดโจทก์กล่าวเพียงว่าจำเลยเคยต้องโทษตามคดีแดงที่ 541/2491 จึงพอหมายความได้เพียงจำเลยเคยต้องโทษจำคุก 4 ปีจริง แต่ทราบไม่ได้ว่าพ้นโทษครั้งแรกเมื่อใด ข้อเท็จจริงที่ปรากฎยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษครั้งแรกเมื่อใดแน่ จำเลยอาจพ้นโทษครั้งแรกเกิน 3 ปี ก็เป็นได้ ฉนั้น จะเพิ่มโทษจำเลยตาม ม.73 ไม่ได้
of 71