คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช่าซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 746 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเลิกสัญญาเมื่อผู้ให้เช่าซื้อไม่แก้ไขข้อบกพร่องของทรัพย์สิน และสิทธิในการขอคืนเงินค่าเช่าซื้อ
แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 จะเป็นบทบัญญัติให้สิทธิผู้เช่าซื้อเลิกสัญญาในกรณีที่ไม่มีการผิดนัดสัญญา แต่เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อผิดสัญญาเพราะไม่จัดการแก้ไขให้ทรัพย์ที่ให้เช่าซื้ออยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ จำเลยก็มีสิทธิเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 ได้ เมื่อจำเลยผู้เช่าซื้อใช้สิทธิเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 แล้ว การชำระหนี้อันเกิดแต่การเลิกสัญญามาตรา 392 บัญญัติให้เป็นไปตามมาตรา 369 และคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจึงต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามมาตรา 391 โจทก์ต้องคืนเงินค่าเช่าซื้อที่ได้รับคืนให้แก่จำเลยแต่เงินค่าเช่าซื้อมิใช่ราคาทรัพย์อย่างเดียว หากแต่เป็นค่าเช่ารวมอยู่ด้วย ซึ่งโจทก์มีสิทธิได้รับค่าเช่าในระหว่างที่จำเลยครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์ที่เช่าซื้ออยู่ จึงต้องหักค่าเช่าออกจากจำนวนค่าเช่าซื้อที่ต้องคืนจำเลยให้โจทก์เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าซื้อและเจตนาในการกระทำผิด: ผู้ให้เช่าซื้อรู้เห็นเป็นใจกับการใช้รถขนไม้ผิดกฎหมาย ทำให้ไม่มีสิทธิขอคืนรถ
จ.เช่าซื้อรถยนต์ของกลางจากผู้ร้อง สัญญาเช่าซื้อข้อหนึ่งกำหนดไว้ว่า ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกริบ ฯ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียวและยอมชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบ ดังนี้ผู้ร้องมีเจตนาเพียงที่จะได้รับชำระเงินค่าเช่าซื้อตามสัญญาเท่านั้น เมื่อ จ. ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้าง รถยนต์ของกลางก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ จ. และทางฝ่าย จ.เป็นผู้แจ้งให้ผู้ร้องทราบว่ารถถูกยึด จึงเห็นได้ว่าการร้องขอคืนของกลางของผู้ร้องเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของ จ. ซึ่งเป็นผู้รู้เห็นยินยอมให้จำเลยใช้รถของกลางไปกระทำความผิด เข้าลักษณะที่ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องเช่าซื้อ: ศาลอนุญาตได้หากไม่เปลี่ยนแปลงประเด็นคดี และการส่งมอบทรัพย์สินที่เป็นไปไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อ โดยบรรยายฟ้องว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน จำเลยยอมส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ ถ้าไม่ส่งมอบจำเลยยอมชำระค่าเสียหายที่โจทก์ต้องขาดประโยชน์ที่ควรจะได้ ซึ่งคำบรรยายฟ้องดังกล่าวตรงตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อ ดังนั้น เมื่อโจทก์ขอแก้ไขฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่เช่าซื้อคืนภายหลังจากสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้วจึงเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อ มิใช่แก้ไขให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดดังที่จำเลยฎีกา การแก้ไขฟ้องของโจทก์จึงเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องให้บริบูรณ์และเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ทั้งมิได้ทำให้ประเด็นแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้องจึงชอบแล้ว
โจทก์เช่าที่ดินของ ท. เพื่อปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วนำไปให้จำเลยเช่าซื้อ ตามสัญญาเช่าซื้อโจทก์จะโอนสิ่งปลูกสร้างและสิทธิการเช่าที่ดินให้จำเลยในวันที่จำเลยชำระค่าเช่าซื้องวดสุดท้าย เมื่อจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อและมีการเลิกสัญญาเช่าซื้อกันเสียก่อน จำเลยยังมิได้รับโอนสิทธิการเช่าไปจากโจทก์ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยยังครอบครองสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินในสิ่งปลูกสร้างนั้นอยู่และหลังจากสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน เจ้าของที่ดินได้ขายที่ดินให้บุคคลอื่นไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยู่ในวิสัยที่จำเลยจะนำสิ่งปลูกสร้างกับทรัพย์สินที่อยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่เช่าซื้อมาส่งมอบให้แก่โจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อเลิกแล้ว ฟ้องขับไล่ได้ทันที ไม่ต้องบอกกล่าว หากผู้เช่าไม่ยอมออกไป
เมื่อจำเลยผู้เช่าซื้อผิดสัญญาค้างชำระค่าเช่าซื้อและโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไป แม้ภายหลังจำเลยไม่ออกจากอาคารที่เช่าซื้อและส่งเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระกับยังคงชำระค่าเช่าซื้อรายเดือนต่อไปอีก ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ยินยอมให้สัญญาเช่าซื้อมีผลผูกพันกันต่อไปตามเดิม โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าซื้อได้ทันทีโดยไม่จำต้องบอกกล่าวแก่จำเลยก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อบอกเลิกแล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ทันที แม้จำเลยยังชำระค่าเช่าซื้อ
เมื่อจำเลยผู้เช่าซื้อผิดสัญญาค้างชำระค่าเช่าซื้อและโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไป แม้ภายหลังจำเลยไม่ออกจากอาคารที่เช่าซื้อและส่งเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระกับยังคงชำระค่าเช่าซื้อรายเดือนต่อไปอีก ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ยินยอมให้สัญญาเช่าซื้อมีผลผูกพันกันต่อไปตามเดิม โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าซื้อได้ทันทีโดยไม่จำต้องบอกกล่าวแก่จำเลยก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสื่อมราถยนต์เช่าซื้อเป็นค่าเสียหายที่ศาลกำหนดได้ตามสัญญา หากสูงเกินควร ศาลมีอำนาจปรับลดได้
ค่าเสื่อมราคารถยนต์ที่เช่าซื้อที่โจทก์เรียกมาในฟ้องคือราคารถยนต์ที่ยึดคืนมาขายได้น้อยกว่าราคาเช่าซื้อซึ่งจำเลยต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อ ข้อสัญญาที่กำหนดให้จำเลยต้องรับผิดดังกล่าวเป็นวิธีกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งอันมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ ฉะนั้น ถ้าศาลเห็นว่าสูงเกินควรจึงอาจกำหนดขึ้นใหม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าซื้อและทายาทในการครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้อ และการแจ้งความร้องทุกข์ภายในอายุความ
แม้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อยังอยู่กับผู้ให้เช่าซื้อ แต่ผู้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์จากรถยนต์ที่เช่าซื้อนั้นและมีหน้าที่ต้องส่งคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยแก่ผู้ให้เช่าซื้อหากมีกรณีต้องคืน เมื่อบุตรโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ดังกล่าวย่อมตก ทอดมายังโจทก์ในฐานะทายาทคนหนึ่ง เมื่อจำเลยได้ยักยอกทรัพย์นั้นไปจากโจทก์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย จึงเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์มอบรถยนต์คันพิพาทให้จำเลยซ่อมเป็นเวลานานถึง 8 เดือนเศษ จำเลยไม่ได้แจ้งราคาค่าซ่อมให้โจทก์ทราบโจทก์น่าจะทราบได้ในขณะนั้นหรือช่วงเวลานั้นแล้วว่าจำเลยเบียดบังเอารถยนต์คันพิพาทเป็นของตนเอง โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินระยะเวลา 3 เดือนพ้นกำหนดอายุความ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5996/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อ: การปรับเบี้ยปรับที่พอสมควรแม้รถยนต์มีสภาพทรุดโทรม
จำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อรถก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 111,000 บาท ข้อสัญญาเช่าซื้อที่ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายเท่าจำนวนเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระก่อนเลิกสัญญาแก่เจ้าของ เป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้าแต่เมื่อโจทก์ไปยึดรถคืนมา รถมีสภาพทรุดโทรมมากและโจทก์นำไปขายได้เพียง 50,000 บาท ต่ำกว่าราคาที่เช่าซื้อมาก ดังนี้โจทก์เรียกค่าเสียหายเท่ากับราคาเช่าซื้อที่ค้างชำระ จึงเป็นค่าเสียหายที่พอสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5996/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อ: การคำนวณค่าเสียหายที่พอสมควรแม้รถยนต์สภาพทรุดโทรม
จำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อรถก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 111,000 บาท ข้อสัญญาเช่าซื้อที่ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายเท่าจำนวนเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระก่อนเลิกสัญญาแก่เจ้าของ เป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้าแต่เมื่อโจทก์ไปยึดรถคืนมา รถมีสภาพทรุดโทรมมากและโจทก์นำ ไปขายได้เพียง 50,000 บาท ต่ำกว่าราคาที่เช่าซื้อมาก ดังนี้ ที่โจทก์เรียกค่าเสียหายเท่ากับราคาเช่าซื้อที่ค้างชำระ จึงเป็นค่าเสียหายที่พอสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5996/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อ: ศาลยืนตามข้อตกลงเบี้ยปรับ แม้รถสภาพทรุดโทรม
จำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อรถก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 111,000 บาท ข้อสัญญาเช่าซื้อที่ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายเท่าจำนวนเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระก่อนเลิกสัญญาแก่เจ้าของ เป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้าแต่เมื่อโจทก์ไปยึดรถคืนมา รถมีสภาพทรุดโทรมมากและโจทก์นำ ไปขายได้เพียง 50,000 บาท ต่ำกว่าราคาที่เช่าซื้อมาก ดังนี้ ที่โจทก์เรียกค่าเสียหายเท่ากับราคาเช่าซื้อที่ค้างชำระ จึงเป็นค่าเสียหายที่พอสมควร
of 75