พบผลลัพธ์ทั้งหมด 598 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเลิกสัญญาจะซื้อขายเรือโดยปริยาย ทำให้ไม่มีหนี้ผูกพันตามเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขายโดยโจทก์ส่งมอบเรือที่จะซื้อขายให้จำเลยไปก่อนและจำเลยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้โจทก์ไว้เป็นการชำระราคาเรือ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโจทก์ไปยึดเรือกลับคืนมาโดยพลการไม่ใช้สิทธิตามสัญญา จำเลยก็มิได้เรียกร้องเอาเรือคืน เท่ากับสองฝ่ายเจตนาเลิกสัญญาจะซื้อขายเรือกันโดยปริยายไม่มีหนี้ผูกพันตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเป็นราคาเรือตามสัญญาจะซื้อขายกันต่อไปอีกข้อที่โจทก์อ้างว่าต้องเสียหายมากจากการที่จำเลยครอบครองใช้เรืออยู่เป็นเวลานานโดยไม่ชำระราคาเรือเป็นเรื่องนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่, สัญญาไม่สมบูรณ์, เลิกสัญญา, และสิทธิเรียกร้องที่บังคับใช้ไม่ได้
การที่จำเลยที่ 1 ตกลงให้จำเลยที่ 2 ชำระเงินแก่ผู้เช่าและรับโอนสิทธิการเช่าแทน โดยจำเลยที่ 1 จะชำระเงินและโอนสิทธิการเช่าคืนจากจำเลยที่ 2 นั้น จำเลยที่ 1 เป็นทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 ตกลงกับโจทก์ให้โจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 โอนสิทธิการเช่าแก่โจทก์จึงเป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนทั้งตัวเจ้าหนี้และลูกหนี้ และเมื่อสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 เป็นการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ จึงต้องบังคับตามบทบัญญัติเรื่องโอนสิทธิเรียกร้องดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 กับโจทก์ตกลงกันด้วยวาจาโดยมิได้ทำเป็นหนังสือจึงไม่สมบูรณ์ไม่มีผลใช้บังคับ
เมื่อสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 มิได้กำหนดวันชำระเงินและจำเลยที่ 2 บอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระภายใน 3 วัน นับแต่วันรับหนังสือ หากพ้นกำหนดจะถือเป็นการขอถอนคำมั่นนั้น เป็นการกำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้และขอเลิกสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดสัญญาจึงเป็นอันเลิกกัน
สัญญาซึ่งลงลายมือชื่อจำเลยที่ 1กับโจทก์ทั้งสองฝ่ายมีข้อความบ่งชัดว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่เพียงคำมั่น แต่การที่จำเลยที่ 1 บอกกล่าวกำหนดเวลาให้โจทก์ชำระเงิน โจทก์ไม่ชำระตามเวลากำหนด โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้โดยรับชำระเงินจากโจทก์แล้วโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์
เมื่อสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 มิได้กำหนดวันชำระเงินและจำเลยที่ 2 บอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระภายใน 3 วัน นับแต่วันรับหนังสือ หากพ้นกำหนดจะถือเป็นการขอถอนคำมั่นนั้น เป็นการกำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้และขอเลิกสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดสัญญาจึงเป็นอันเลิกกัน
สัญญาซึ่งลงลายมือชื่อจำเลยที่ 1กับโจทก์ทั้งสองฝ่ายมีข้อความบ่งชัดว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่เพียงคำมั่น แต่การที่จำเลยที่ 1 บอกกล่าวกำหนดเวลาให้โจทก์ชำระเงิน โจทก์ไม่ชำระตามเวลากำหนด โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้โดยรับชำระเงินจากโจทก์แล้วโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1860/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองประกันการทำงานเลิกสัญญาได้ ผู้จำนองชำระหนี้ได้ สัญญาจำนองระงับ
สัญญาจำนองคดีนี้เป็นการจำนองที่ดินเพื่อประกันการทำงานและหนี้สินของ อ. ในอนาคต ไม่มีกำหนดเวลา มีลักษณะเป็นการประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็นคุณแก่เจ้าหนี้ ผู้ค้ำประกันอาจเลิกสัญญาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 699 และสัญญาจำนองรายการนี้ก็มิได้มีข้อตกลงว่า ผู้จำนองจะต้องผูกพันประกันหนี้ตามสัญญาตลอดไป ดังนั้น ถ้าผู้จำนองได้บอกกล่าวเลิกสัญญานั้นแก่เจ้าหนี้แล้ว ผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้ซึ่งมีอยู่เพื่อให้สัญญาจำนองระงับสิ้นไปได้ เมื่อโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้จำนองขอชำระหนี้โดยแจ้งความประสงค์เลิกประกันหนี้รายนี้ต่อไป และได้มีการชำระหนี้ซึ่งมีอยู่ในขณะนั้นแล้ว สัญญาจำนองย่อมระงับสิ้นไป จำเลยต้องจดทะเบียนถอนจำนองให้โจทก์ ไม่มีเหตุที่โจทก์จะต้องนำเงินสดมาวางแทนการจำนอง และเมื่อสัญญาจำนองมิได้มีข้อตกลงว่าผู้จำนองจะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน จึงไม่ผูกพันโจทก์ที่จะต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินชดเชยดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาฝากเงินกระแสรายวันและการปฏิเสธการจ่ายเช็คหลังปิดบัญชี ธนาคารไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฝากเงินกระแสรายวัน มีข้อสัญญาว่าถ้าออกเช็คไม่มีเงินเกิน 3 ครั้ง ธนาคารจะต้องปิดบัญชีตามระเบียบเป็นการแสดงเจตนาให้โจทก์ทราบล่วงหน้าแล้ว เมื่อธนาคารสั่งปิดบัญชีสัญญาเป็นอันเลิกกัน โจทก์นำเงินเข้าฝากภายหลังไม่ทำให้เกิดสัญญาขึ้นใหม่ธนาคารไม่ต้องจ่ายเงินตามเช็คที่โจทก์ออกภายหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาษีการค้าจากเงินค่าจ้างล่วงหน้า: ประเมินชอบธรรมเมื่อยังไม่เลิกสัญญา แต่ไม่มีผลบังคับหลังคืนเงินแล้ว
โจทก์ได้รับเงินค่าจ้างล่วงหน้าจากกรมทางหลวงในการรับเหมาก่อสร้างทางและโจทก์มีรายได้อย่างอื่นอีก แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีการค้าเจ้าพนักงานประเมินจึงแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล เงินเพิ่มและเบี้ยปรับ โจทก์อุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คงวินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับลงบางส่วนปรากฏว่าหลังจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์แล้ว โจทก์ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวงไป ดังนี้ ขณะที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้านั้น โจทก์กับกรมทางหลวงยังไม่ได้เลิกสัญญากัน และโจทก์ยังไม่ได้ตกลงคืนค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวง เงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าวยังเป็นรายรับของโจทก์ การที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้โจทก์เสียภาษีการค้าจึงเป็นการประเมินและวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวไม่ได้ แต่ต่อมาเมื่อโจทก์และกรมทางหลวงตกลงเลิกสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างทางกัน และโจทก์ตกลงคืนเงินค่าจ้างล่วงหน้าให้กรมทางหลวงแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องเสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้าดังกล่าว การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้าจึงไม่มีผลบังคับให้โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าต่อไปอีก ศาลย่อมพิพากษาว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในเงินค่าจ้างล่วงหน้ารวมทั้งภาษีบำรุงเทศบาล เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับ ไม่มีผลบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงในสัญญาเช่าที่กำหนดเงื่อนไขการเลิกสัญญาโดยไม่ต้องบอกกล่าว ย่อมใช้บังคับได้และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
สัญญาเช่าห้องมีว่า ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า 1 เดือน ถือว่า สัญญาสิ้นสุดโดยไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญาดังนี้ เป็นการยกเว้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2039/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน: การเลิกสัญญาและดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
สัญญาระบุว่าเป็นสัญญาซื้อขายที่ดินเงินผ่อนชื่อที่เรียกคู่สัญญาในสัญญาทุกข้อก็ระบุว่าผู้ซื้อและผู้ขายแม้มีสัญญาข้อหนึ่งว่าผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองใช้สิทธิ ปลูกสร้างในที่ดินได้ก็มีเงื่อนไขว่านับตั้งแต่วันที่ผู้ขายกรุยดินยกถนนผ่านที่ดินเรียบร้อยแล้วอันมีความหมายชัดว่าผู้ขายไม่ได้มอบที่ดินให้ผู้ซื้อทันทีโจทก์ผู้ซื้อจึงไม่ได้ใช้และรับประโยชน์จากที่ดินพิพาทในวันทำสัญญาแต่ประการใด แสดงให้เห็นเจตนาของคู่สัญญาที่จะทำสัญญาจะซื้อขายกัน ซึ่งต่างกับสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยจะต้องนำที่ดินมาให้โจทก์เช่า หรือส่งมอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ หรือได้รับประโยชน์จากที่ดินนั้นโดยมีคำมั่นว่าจะขาย แม้คำบรรยายฟ้องมีว่า โจทก์ได้ตกลงเช่าซื้อที่พิพาท แต่ก็อ้างหนังสือสัญญาท้ายคำฟ้องซึ่งตรงกับหนังสือสัญญาดังกล่าวที่ส่งศาลและโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยสัญญาดังกล่าวเป็นหลัก. ศาลจึงมีอำนาจวินิจฉัยว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาท
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์
ศาลล่างเขียนหรือพิมพ์คำพิพากษาผิดพลาดไป ว่าให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2514(ที่ถูกคือ 2515) ศาลฎีกาแก้ไขได้เองให้ถูกต้อง โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 โดยพิพากษายืนแต่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2515
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดจึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์
ศาลล่างเขียนหรือพิมพ์คำพิพากษาผิดพลาดไป ว่าให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2514(ที่ถูกคือ 2515) ศาลฎีกาแก้ไขได้เองให้ถูกต้อง โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 โดยพิพากษายืนแต่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2515
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวการผิดสัญญาและการเลิกสัญญาซื้อขายแร่: กำหนดเวลาชำระหนี้
จำเลยไม่เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิดให้โจทก์ส่งแร่ตามกำหนดในสัญญา แต่คู่กรณีไม่ถือกำหนดเวลาเคร่งครัดตามสัญญา เมื่อจำเลยไม่เปิดเครดิตสำหรับงวดต่อไปอีก โจทก์ต้องบอกกล่าวกำหนดเวลาให้ชำระหนี้ตาม มาตรา 387 ก่อน จึงจะเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญางานถมดิน ความรับผิดชอบค่าวัสดุและดอกเบี้ย
โจทก์ถมทรายให้จำเลยไม่เสร็จเต็มเนื้อที่ตามสัญญาและไม่ให้คำตอบตามที่บันทึกร่วมกันไว้ ถือว่าเลิกสัญญาตามบันทึกโจทก์ทำงานไม่เสร็จ จำเลยบอกเลิกสัญญาได้ตาม มาตรา605 แต่ต้องใช้ค่าเสียหายและคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยต้องใช้ราคาทรายที่ถมแล้วแก่โจทก์รวมทั้งดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดตั้งแต่ครบวันที่โจทก์กำหนดให้จำเลยจ่ายเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในคุณสมบัติทรัพย์ สัญญาจะซื้อขายโมฆียะ เลิกสัญญาคืนเงิน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ มีข้อความในสัญญาว่าที่ดินไม่มีภาระติดพันใดๆ เลย ซึ่งจำเลยรู้ดีว่าที่ดินนี้ติดจำนองไว้แก่ผู้อื่นและปกปิดความจริงข้อนี้ และมีพฤติการณ์ที่แสดงว่าหากโจทก์รู้ความจริงข้อนี้ก็คงจะไม่ทำสัญญากับจำเลยเป็นแน่ ย่อมถือว่าโจทก์สำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งสัญญาจะซื้อขายซึ่งตามปกติย่อมนับว่าเป็นสาระสำคัญสัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆียะ
เมื่อโจทก์ทราบความจริงแล้วได้ไปร้องทุกข์ เจ้าพนักงานตำรวจไกล่เกลี่ยจนตกลงกันว่าจำเลยยินยอมจะคืนเงิน 800,000 บาท ให้แก่โจทก์ ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงเลิกสัญญากันแล้ว โจทก์และจำเลยย่อมต้องคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยจึงต้องคืนเงิน 800,000 บาท นั้นให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่ได้รับเงินไว้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันบอกล้างโมฆียะกรรม โจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อนี้ จึงเป็นอันยุติไปตามนั้น
เมื่อโจทก์ทราบความจริงแล้วได้ไปร้องทุกข์ เจ้าพนักงานตำรวจไกล่เกลี่ยจนตกลงกันว่าจำเลยยินยอมจะคืนเงิน 800,000 บาท ให้แก่โจทก์ ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงเลิกสัญญากันแล้ว โจทก์และจำเลยย่อมต้องคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยจึงต้องคืนเงิน 800,000 บาท นั้นให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่ได้รับเงินไว้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันบอกล้างโมฆียะกรรม โจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อนี้ จึงเป็นอันยุติไปตามนั้น