พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าทรัพย์: จำเลยต้องยกข้อต่อสู้ตามกฎหมายพิเศษในคำให้การ มิเช่นนั้น ศาลวินิจฉัยตามกฎหมายสามัญ
โดยปกติการเช่าทรัพย์ไม่ว่าจะใช้ทรัพย์สินนั้นเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อทำการค้า ย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ หากจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างไร ก็ต้องยกขึ้นสู้คดี เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 บัญญัติให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษ ก็ต้องวินิจฉัยคดีตามกฎหมายสามัญ เพราะสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยกข้อต่อสู้ตามกฎหมายพิเศษในคำให้การ ทำให้ศาลวินิจฉัยตามกฎหมายสามัญ
โดยปกติการเช่าทรัพย์ไม่ว่าจะใช้ทรัพย์สินนั้นเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อทำการค้าย่อมอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ หากจำเลยจะอ้างความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษอย่างไร ก็ต้องยกขึ้นสู้คดี เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 บัญญัติให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น เมื่อจำเลยมิได้อ้างสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายพิเศษ ก็ต้องวินิจฉัยคดีตามกฎหมายสามัญ เพราะสิทธิหรือความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 มิใช่มีกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนไปเสียทั้งหมด การที่ผู้เช่ายินยอมเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่าหรือไม่อ้างเอาประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ก็หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษและรอการลงโทษใน พ.ร.บ.การพนัน: กฎหมายพิเศษกับการนำบทบัญญัติลักษณะอาญามาใช้
พ.ร.บ.การพนัน (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 เป็นเรื่องเพิ่มโทษ การเพิ่มโทษตามมาตราดังกล่าวจึงเป็นเรื่องพิเศษของ พ.ร.บ.การพนัน จึงนำเอาบทซึ่งว่าด้วยการเพิ่มโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับมิได้ แต่การรอการลงโทษแก่จำเลยนั้นเป็นคนละเรื่อง เมื่อ พ.ร.บ.การพนันมิได้บัญญัติถึงเรื่องรอการลงโทษผู้กระทำผิดไว้ ศาลก็ย่อมนำบทว่าด้วยการรอการลงโทษในกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษและการรอการลงโทษในกฎหมายพิเศษ: พระราชบัญญัติการพนัน
พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา 3 เป็นเรื่องเพิ่มโทษ การเพิ่มโทษตามมาตราดังกล่าวจึงเป็นเรื่องพิเศษของ พระราชบัญญัติการพนัน จึงนำเอาบทซึ่งว่าด้วยการเพิ่มโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับมิได้แต่การรอการลงโทษแก่จำเลยนั้นเป็นคนละเรื่อง เมื่อพระราชบัญญัติการพนันมิได้บัญญัติถึงเรื่องรอการลงโทษผู้กระทำผิดไว้ ศาลก็ย่อมนำบทว่าด้วยการรอการลงโทษในกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจยกโทษปรับในคดีฝิ่น: ศาลสามารถลงโทษจำคุกสถานเดียวได้แม้ พ.ร.บ.ฝิ่นจะกำหนดทั้งจำและปรับ
พ.ร.บ.ฝิ่นไม่ได้บัญญัติเรื่องการยกโทษปรับดังที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.อาญา ม.23 ให้เป็นกรณีพิเศษ ฉนั้นเมื่อเห็นสมควรศาลย่มยก ม.23 มาใช้แก่กรณีที่มีการลงโทษทั้งจำคุกและปรับตาม พ.ร.บ.ฝิ่นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจยกโทษปรับในคดีฝิ่น: ศาลสามารถยกโทษปรับได้หากเห็นสมควร แม้กฎหมายฝิ่นไม่ได้บัญญัติไว้
พระราชบัญญัติฝิ่นไม่ได้บัญญัติเรื่องการยกโทษปรับดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอาญา มาตรา 23 ให้เป็นกรณีพิเศษฉะนั้นเมื่อเห็นสมควรศาลย่อมยก มาตรา 23 มาใช้แก่กรณีที่มีการลงโทษทั้งจำคุกและปรับตาม พระราชบัญญัติฝิ่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากเรือชน: ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ หรือกฎหมายเดินเรือพิเศษ
การฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเนื่องจากเหตุเรือโดนกันนั้นต้องใช้อายุความ 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ต้องลงโทษตามกฎหมายพิเศษ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพะยานต่อไปได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค 2488 กับ พ.ร.บ.ข้าว 2489 และ 2490
พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 และ พระราชบัญญัติการค้าข้าว 2489 มิได้ลบล้างหรือขัดแย้งกับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ 2488(อ้างฎีกา 197-198/2491,767/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจกฎหมายควบคุมข้าว: กฎหมายพิเศษใช้แทนกฎหมายทั่วไปไม่ได้
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 และ พ.ร.บ.การค้าข้าว2489 หาได้ใช้แทนหรือขัดกับพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขัน 2488 ไม่ (อ้างฎีกา 197,198/2491)