คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กรรโชกทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดกรรโชกทรัพย์ ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์การใช้รถตลอดการกระทำผิด
ใช้รถยนต์พาผู้เสียหายไปขู่เอาทรัพย์โดยเป็นแผนการคบคิดกันไม่เพียงแต่ใช้เป็นยานพาหนะแต่อย่างเดียว ต้องริบรถตาม มาตรา 33(1)
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงไม่ถูก เพราะยังมีข้อเท็จจริงอื่นอีกหลายประการ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406-2408/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดของเจ้าพนักงานตำรวจที่ข่มขืนใจกรรโชกทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย
เจ้าพนักงานตำรวจได้ข่มขืนใจผู้เสียหายให้มอบเงินแก่ตน 500 บาทโดยกล่าวหาว่าเล่นการพนัน เมื่อผู้เสียหายขอให้เพียง 100 บาทก็ไม่พอใจ ทำร้ายผู้เสียหายและแกล้งจับโดยไม่มีอำนาจนำไปส่งสถานีตำรวจเช่นนี้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 337 วรรค 2, 309 วรรค 2 และ 295 โดยสำหรับความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309 และความผิดฐานกรรโชกตามมาตรา 337 นั้น ผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นแล้ว แม้จะยอมไม่เต็มตามที่ถูกเรียกร้องก็เป็นความผิดสำเร็จ ส่วนความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา 148 เพียงแต่ผู้กระทำผิดมีเจตนาจะให้เขาส่งมอบทรัพย์สินให้ ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว แม้ผู้ถูกข่มขืนใจจะไม่ยอมตามนั้นก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ซื้อเนื้อโคที่ถูกขโมย ไม่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ หากมีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
โคของจำเลยที่ 3 ถูกคนร้ายลักไปฆ่าเอาเนื้อขายให้ผู้เสียหายและพวกการที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันเรียกร้องเอาเงินค่าโคจากผู้เสียหาย ถ้าไม่ให้จะเอาตำรวจจับตัวมาดำเนินคดีฐานรับของโจร ผู้เสียหายกลัวจะถูกดำเนินคดีจึงยอมรับใช้และให้เงินแก่จำเลยที่ 3 เจ้าของโค ดังนี้ จะถือว่าเป็นการข่มขืนใจโดยขู่เข็ญผู้เสียหายหาได้ไม่ จำเลยยังไม่มีความผิดฐานกรรโชก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกเงินโดยข่มขู่โดยไม่มีสิทธิทางกฎหมาย และการกระทำเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์
กระบือของจำเลยหายไปโดยที่ผู้เสียหายมิได้ลักไป จำเลยไปเรียกเงินจากผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง โดยกล่าวหาว่าผู้เสียหายลักกระบือของจำเลยไปและพูดจาขู่เข็ญผู้เสียหายว่า ถ้าไม่ให้เงินจะพาตำรวจมาจับและผู้เสียหายจะต้องติดคุก ทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่ทราบว่า ผู้เสียหายลักกระบือจำเลยไปจริงหรือไม่ ผู้เสียหายกลัวจะเสียเวลาทำมาหากิน จึงให้เงินจำเลยไปโดยไม่สมัครใจ เช่นนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต จึงมีความผิดฐานกรรโชก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรโชกทรัพย์: แม้ผู้ถูกข่มขืนใจจะเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิด ก็ยังถือเป็นบุคคลที่สาม
การที่จำเลยร่วมเขียนจดหมายไปขู่เข็ญเพื่อหลอกลวงเอาเงินจากบิดาบุคคลผู้มีชื่อ แม้จะฟังว่าผู้มีชื่อนั้นวานหรือร่วมกับจำเลยในการเขียนหรือให้ไปรับเงินก็ตาม ก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดฐานกรรโชกไปได้ไม่ เพราะในแง่ของบิดาผู้มีชื่อซึ่งถูกข่มขืนใจ ก็ยังคงต้องถือว่าผู้มีชื่อดังกล่าวเป็นบุคคลที่สามตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337 วรรคต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงานขู่กรรโชกทรัพย์ราษฎร เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลย 5 คนเป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ให้เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาทจำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 970/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรโชกทรัพย์: การข่มขู่ว่าจะแจ้งความเพื่อเรียกเงิน
จำเลยได้ไปพูดหาว่า ผ.เป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ของจำเลยถ้าผ. ไม่ให้เงินแก่จำเลย 200 บาท จำเลยจะไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจมาจับผ. กลัว จึงยอมตกลงไปหาเงินมาให้จำเลยและได้ความว่าจำเลยมิได้สงสัย ผ. ในการปล้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานกรรโชก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรรโชกทรัพย์: การข่มขู่เรียกเงินและการขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลย 3 คนไปพูดขู่เจ้าทุกข์ว่ากระทำผิดอาญาจะจับกุม ถ้าไม่อยากถูกจับก็ให้เอาเงินมาให้จำเลยเจ้าทุกข์ยินยอมให้เงินแก่จำเลยดังนี้ จำเลยไม่มีผิดฐานกรรโชก
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 39, 121, 158 ในคดีความผิดตามกฎหมายอาญา ม. 268 วรรคต้นเป็นความผิดต่อส่วนตัวนั้นถึงแม้อัยยการโจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าได้สอบสวนคดีมีมูลไว้ขั้นหนึ่งแล้วก็ตาม เมื่อไม่ปรากฎว่าเจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตามระเบียบ และเป็นคดีที่รวมการกระทำผิดหลายอย่างทั้งส่วนตัวและไม่ส่วนตัวแล้วอัยยการไม่มีอำนาจฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15518/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์, กรรโชกทรัพย์, และความผิดต่อเสรีภาพ: การกระทำผิดฐานชิงทรัพย์และกรรโชกทรัพย์โดยมีองค์ประกอบของการข่มขู่และหน่วงเหนี่ยว
จำเลยกับพวกร่วมกันกระชากตัวโจทก์ร่วมลงจากรถแท็กซี่และรุมทำร้ายโจทก์ร่วม แล้วนำตัวโจทก์ร่วมขึ้นรถกระบะแล่นออกไปยังบ่อปลาแห่งหนึ่งโดยระหว่างที่อยู่ในรถกระบะจำเลยกับพวกทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมตลอดทางโดยใช้ขวดเบียร์และท่อนเหล็กเป็นอาวุธ และจำเลยได้ล้วงเงิน 10,000 บาท ของโจทก์ร่วมไป เมื่อจำเลยกระทำความผิดโดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและใช้ยานพาหนะ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 335 (1) (7), 340 ตรี
การที่จำเลยและ น. เรียกร้องเงินจำนวน 23,000 บาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวโจทก์ร่วม โดยจำเลยเชื่อว่าโจทก์ร่วมโกงเงิน น. ย่อมเป็นเพียงความเชื่อของจำเลย หาเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมเป็นหนี้ น. ไม่ ดังนั้น เงินจำนวน 23,000 บาท ที่จำเลยเรียกร้องเพื่อแลกกับการปล่อยตัวโจทก์ร่วมจึงเป็นค่าไถ่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 313 วรรคแรก
อนึ่ง เนื่องจากจำเลยจัดให้โจทก์ร่วมได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาโดยโจทก์ร่วมมิได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต จึงลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 316

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22746/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขู่เรียกเงินจากผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และการกระทำผิดฐานกรรโชกทรัพย์ โดยข้อเท็จจริงการจ่ายเงินหลังแจ้งความไม่มีผลต่อการลงโทษ
จำเลยขับรถจักรยานยนต์มาที่วินรถจักรยานยนต์พูดว่า หากใครไม่จ่ายไม่ให้จอด ระวังจะจำเบอร์ไม่ได้ จำซอยไม่ได้ ขับเงียบ ๆ ใกล้จะหมดเวลาของพวกมึงแล้ว มีลักษณะเป็นการข่มขู่ผู้เสียหายทั้งสามว่าอาจถูกทำร้าย หลังจากมีการแจ้งความร้องทุกข์แล้วแต่ไม่มีการควบคุมตัวจำเลยในระหว่างดำเนินคดี ผู้เสียหายทั้งสามเกรงจะได้รับอันตรายและถูกห้ามขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยเกิดเหตุจึงต้องจำยอมจ่ายเงินให้แก่จำเลยวันละ 15 บาท ตามที่จำเลยเรียกร้อง แต่ข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายทั้งสามจำยอมจ่ายเงินให้แก่จำเลยวันละ 15 บาท ภายหลังมีการแจ้งความร้องทุกข์แล้วนั้น ปรากฏแต่ในทางพิจารณาโดยโจทก์ไม่ได้กล่าวไว้ในฟ้อง ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ จึงต้องห้ามมิให้ศาลลงโทษจำเลยโดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้นตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสี่ ประกอบมาตรา 225 ศาลฎีกาจึงลงโทษจำเลยได้แต่ในความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 337 วรรคแรก ประกอบมาตรา 80 เท่านั้น
of 5