พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมโดยมีผู้รับประโยชน์เป็นพยาน และการตีความเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม
การระบุไว้ในเอกสารที่ทำขึ้นว่าเป็นหนังสือพินัยกรรม และมีบุคคลหลายคนเซ็นเป็นพยานลุกนั่งและได้กล่าวถึงกิริยาอาการของผู้ทำเอกสารว่าเป็นปกติ เหล่านี้ เป็นไปตามแบบแห่งการทำพินัยกรรมโดยทั่ว ๆ ไป เมื่อฟังประกอบกันเจตนาของผู้ทำที่ปรากฏในเอกสารทั้งฉบับรวมกัน เห็นได้ว่าเป็นการกำหนดเผื่อตายแล้ว ก็ย่อมเข้าลักษณะเป็นพินัยกรรมตามกฎหมายโดยชอบ
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้วัดโดยเจาอาวาสลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยนั้น หาทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไม่ เพราะวัดเป็นนิติบุคคล จึงย่อมเป็นอีกบุคคลหนึ่งต่างหากจากเจ้าอาวาส แม้เจ้าอาวาสจะเป็นผู้แทนของวัดและความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฎจากผู้แทนทั้งหลายของนิติบุคคลก็ดี ก็ไม่มีผลทางกฎหมายให้เจ้าอาวาสกับวัดรวมมาเป็นบุคคลคนเดียวกันได้ จึงไม่ถือว่าวัดเป็นพยานในพินัยกรรม
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้วัดโดยเจาอาวาสลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยนั้น หาทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไม่ เพราะวัดเป็นนิติบุคคล จึงย่อมเป็นอีกบุคคลหนึ่งต่างหากจากเจ้าอาวาส แม้เจ้าอาวาสจะเป็นผู้แทนของวัดและความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฎจากผู้แทนทั้งหลายของนิติบุคคลก็ดี ก็ไม่มีผลทางกฎหมายให้เจ้าอาวาสกับวัดรวมมาเป็นบุคคลคนเดียวกันได้ จึงไม่ถือว่าวัดเป็นพยานในพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรม การตีความเจตนาผู้ทำพินัยกรรม และสถานะผู้รับผลประโยชน์ในฐานะนิติบุคคล
การระบุไว้ในเอกสารที่ทำขึ้นว่าเป็นหนังสือพินัยกรรมและมีบุคคลหลายคนเซ็นเป็นพยานลุกนั่ง และได้กล่าวถึงกิริยาอาการของผู้ทำเอกสารว่าเป็นปกติ เหล่านี้ เป็นไปตามแบบแห่งการทำพินัยกรรมโดยทั่วๆไป เมื่อฟังประกอบกับเจตนาของผู้ทำที่ปรากฏในเอกสารทั้งฉบับรวมกัน เห็นได้ว่าเป็นการกำหนดการเผื่อตายแล้ว ก็ย่อมเข้าลักษณะเป็นพินัยกรรมตามกฎหมายโดยชอบ
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้วัดโดยเจ้าอาวาสลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยนั้นหาทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไม่ เพราะวัดเป็นนิติบุคคล จึงย่อมเป็นอีกบุคคลหนึ่งต่างหากจากเจ้าอาวาส แม้เจ้าอาวาสจะเป็นผู้แทนของวัด และความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฏจากผู้แทนทั้งหลายของนิติบุคคลก็ดี ก็ไม่มีผลทางกฎหมายให้เจ้าอาวาสกับวัดรวมมาเป็นบุคคลคนเดียวกันได้ จึงไม่ถือว่าวัดเป็นพยานในพินัยกรรม
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้วัดโดยเจ้าอาวาสลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยนั้นหาทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไม่ เพราะวัดเป็นนิติบุคคล จึงย่อมเป็นอีกบุคคลหนึ่งต่างหากจากเจ้าอาวาส แม้เจ้าอาวาสจะเป็นผู้แทนของวัด และความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงปรากฏจากผู้แทนทั้งหลายของนิติบุคคลก็ดี ก็ไม่มีผลทางกฎหมายให้เจ้าอาวาสกับวัดรวมมาเป็นบุคคลคนเดียวกันได้ จึงไม่ถือว่าวัดเป็นพยานในพินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการรับมรดกและการครอบครองปรปักษ์: การตีความคำฟ้อง
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องชัดเจนแล้วว่าเดิมที่พิพาทเป็นของเจ้ามรดกๆ ตายมา 10 ปีกว่า และบุตรของเจ้ามรดกซึ่งเป็นมารดาโจทก์ก็ตายแล้ว ที่พิพาทตกอยู่แก่โจทก์ทางมรดกและโจทก์ครอบครองตลอดมา เช่นนี้ ย่อมเข้าใจได้ดีและไม่ขัดกับคำรับที่ศาลจดไว้ในรายงานฯ ที่ว่า "นางพุ่มตายทีหลังนายชุม จนถึงกับจะนำสืบไม่ได้"
อนึ่ง การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าครอบครองมากว่า 10 ปี ย่อมเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์ได้ครอบครองที่รายนี้มาตั้งแต่นายชุมตายจนบัดนี้เกิน 10 ปี ไม่จำเป็นต้องอ้างหรือบรรยายถ้อยคำตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ก็ใช้ได้
อนึ่ง การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าครอบครองมากว่า 10 ปี ย่อมเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์ได้ครอบครองที่รายนี้มาตั้งแต่นายชุมตายจนบัดนี้เกิน 10 ปี ไม่จำเป็นต้องอ้างหรือบรรยายถ้อยคำตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีอาญา: การตีความจากพฤติการณ์และการบรรยายฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยได้บังอาจสมคบร่วมกันฆ่า"ก็ย่อมหมายความว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาจะฆ่าให้ตายอยู่ในตัว ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุในฟ้องว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายไม่
ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่าจำเลยใช้พร้าฟันผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา
ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่าจำเลยใช้พร้าฟันผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'ฝิ่น' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.2472 แม้มีสิ่งเจือปนก็ถือเป็นฝิ่นได้
ตาม พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 คำว่า 'ฝิ่น' หมายความว่า(1) ฝิ่นดิบซึ่งจะเป็นฝิ่นบริสุทธิก็ดี หรือมีสิ่งอื่นผสมอยู่ด้วยเป็นรูปหรือของปรุงใดๆ ก็ดี (2) ฝิ่นสุกแม้จะไม่มีคำวิเคราะห์ศัพท์ไว้ก็เมื่อฝิ่นดิบมีสิ่งอื่นๆ เจือปนถือเสมือนว่าสิ่งที่เจือปนเป็นฝิ่นแล้วเมื่อทำให้ฝิ่นสุก สิ่งเจือปนก็ย่อมถือเสมือนว่าเป็นฝิ่นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'ยานพาหนะ' ใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง: การใช้เรือถ่อโดยไม่มีการขนส่ง
มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 บัญญัติว่า " ยานพาหนะ " หมายถึงสิ่งใด ๆ ที่ใช้สำหรับขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีผู้นำเรือถ่อโดยมิได้ใช้ขนส่งอะไรออกนอกประเทศและเข้าในประเทศโดยมิได้แจ้งกำหนดเรืออกจากท่าก็ดี เรือเข้ามาถึงท่าแล้ว ไม่ไปรายงานต่อเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2480
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายกทรัพย์โดยพินัยกรรม: การตีความพินัยกรรมสั่งให้ยกทรัพย์เมื่อเสียชีวิต มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉบับนี้ มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดี มีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรมทุกประการ เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้โดยเสน่หาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องลักตัดทรัพย์สิน: การตีความคำว่า 'บังอาจ' ในฟ้องอาญา
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า จำเลยบังอาจใช้กรรไกรลักตัดสร้อยคอของ พ.ไปดังนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าจำเลยลักตัดสร้อยคอของพ. ไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตการขนส่งน้ำสุรา: การตีความเปลี่ยนแปลงเขตตำบลตามกฎหมายภาษี
พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน พ.ศ. 2457 มิได้บัญญัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงเขตต์ตำบลสำหรับขนย้ายน้ำสุรา ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 มาตรา 11 จากเขตต์นายอากรแขวง มาเป็นเขตต์ตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่
(อ้างฎีกา 667/2490)
(อ้างฎีกา 667/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณผ้า: การตีความสถานะ 'พ่อค้า' และข้อยกเว้นการแจ้งสำหรับปริมาณน้อย
ฟ้องว่าจำเลยเป็นพ่อค้ามีผ้าไว้โดยไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งประกาศให้ผู้มีผ้าเพื่อการค้าตั้งแต่ 1 เมตร และผู้มีไว้ใช้เองตั้งแต่ 80 เมตร ให้แจ้งปริมาณ แต่ฟ้องมิได้กล่าวว่าจำเลยมีไว้เพื่อการค้า และจำเลยมีไม่ถึง 80 เมตรดั่งนี้ ต้องยกฟ้อง