คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กิจการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินกิจการยาสูบโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้ได้รับอนุญาตแล้ว เพราะไม่ใช่การผูกขาด
โจทก์ฟ้องจำเลยอ้างมูลละเมิด เนื่องมาจากโจทก์ได้รับอนุญาตจาก กรมสรรพสามิตให้ตั้งสถานีบ่มใบยา สร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยา เพาะปลูกต้นยาสูบซื้อและขายใบยา ในท้องที่ต่าง ๆ จำเลยได้ดำเนินกิจการอย่างเดียวกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตทับลงบนบางท้องที่ซึ่งโจทก์ได้รับอนุญาต แม้การ กระทำของจำเลยดังกล่าวคือการตั้งสถานีบ่มใบยา สร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยาเพาะปลูกต้นยาสูบจะต้องได้รับ อนุญาตก่อนดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 แต่กิจการดังกล่าวนี้มิได้มีลักษณะเป็นการผูกขาด ซึ่งผู้ได้รับอนุญาตแล้วจะทำได้แต่เพียงผู้เดียวกิจการผูกขาด ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มีชนิดเดียวเท่านั้น คือการประกอบอุตสาหกรรมบุหรี่ซิกาแรต ซึ่งเป็นการผูกขาดของรัฐการกระทำของจำเลย ตามที่โจทก์ฟ้องแม้จะไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิต ก็ไม่เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์จำเลยคงมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาสูบ ถือไม่ได้ว่ามี กฎหมายรับรองคุ้มครองสิทธิของโจทก์อันจะก่อให้เกิด มูลละเมิดตามกฎหมายโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
หมายเหตุ ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินกิจการยาสูบโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้ได้รับอนุญาตก่อนหน้า
โจทก์ฟ้องจำเลยอ้างมูลละเมิด เนื่องมาจากโจทก์ได้รับอนุญาตจาก กรมสรรพสามิตให้ตั้งสถานีบ่มใบยา สร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยา เพาะปลูกต้นยาสูบซื้อและขายใบยาในท้องที่ ต่างๆจำเลยได้ดำเนินกิจการ อย่างเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาตทับลงบนบางท้องที่ซึ่งโจทก์ได้รับอนุญาต แม้การ กระทำของจำเลยดังกล่าวคือการตั้งสถานีบ่มใบยาสร้างโรงบ่มใบยา ทำการบ่มใบยาเพาะปลูกต้นยาสูบจะต้องได้รับ อนุญาตก่อนดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติยาสูบพ.ศ. 2509แต่ กิจการดังกล่าวนี้มิได้มีลักษณะเป็น การผูกขาดซึ่งผู้ได้ รับอนุญาตแล้วจะทำได้แต่เพียงผู้เดียวกิจการผูกขาด ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มีชนิดเดียวเท่านั้น คือการ ประกอบ อุตสาหกรรมบุหรี่ซิกาแรตซึ่งเป็นการผูกขาดของรัฐการกระทำของจำเลย ตามที่โจทก์ฟ้องแม้จะไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมสรรพสามิต ก็ไม่เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์จำเลยคงมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาสูบ ถือไม่ได้ว่ามี กฎหมายรับรองคุ้มครองสิทธิของโจทก์อันจะก่อให้เกิด มูลละเมิดตามกฎหมายโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ หมายเหตุ ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลาเพื่อร่วมประชุมของกรรมการสหภาพแรงงานต้องเกี่ยวข้องกับกิจการสหภาพฯ ไม่ครอบคลุมการสัมมนาทั่วไป
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 102 อยู่ในหมวด 7 ว่าด้วย'สหภาพแรงงาน'มีความตอนต้นให้สิทธิลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานลาเพื่อไปดำเนินกิจการสหภาพแรงงาน ฉะนั้น ข้อความในตอนต่อมาที่ว่า มีสิทธิไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดได้จึงต้องหมายถึงการไปร่วมประชุมใน เรื่องที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานที่ทางราชการกำหนดขึ้นเท่านั้นย่อมไม่หมายถึงการประชุมในเรื่องใด ๆ โดยไม่มีขอบเขต จำกัด มิฉะนั้นลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานก็จะอ้างสิทธิไปร่วมประชุมในเรื่องที่ทางราชการกำหนดได้ทุกเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2371/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในหนี้ที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อกิจการของผู้อื่น และการแบ่งปันผลกำไรที่ตกลงกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เข้าหุ้นส่วนทำการค้าข้าวเปลือก ข้าวสารกับผู้ตายเพื่อแบ่งปันกำไรกัน ผู้ตายลงทุนด้วยโรงสี โจทก์ลงทุนด้วยเงินสด โดยโจทก์ได้เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไว้แก่ธนาคารแล้ว ขอ กู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้จำนวนหนึ่ง เมื่อโจทก์ได้รับสมุดเช็คจากธนาคารแล้ว โจทก์ลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายในเช็คทั้งหมดมอบให้ผู้ตายไปกรอกจำนวนเงินและวันที่สั่งจ่ายเองเพื่อใช้ซื้อข้าวเปลือกมาสี เมื่อขายข้าวที่สีได้แล้วผู้ตายนำเงินฝากเข้าบัญชีของโจทก์ ต่อมาผู้ตายถึง แก่ความตายก่อนที่จะแบ่งปันผลกำไรกัน โจทก์เป็นหนี้ ธนาคารอยู่ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและโจทก์ถูกธนาคารฟ้องให้ชำระหนี้ดังกล่าว โจทก์จึงฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเป็นคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยแบ่งปันผลกำไรและใช้ทุนเท่าจำนวนที่โจทก์ถูกธนาคารฟ้องเรียกคืนให้แก่โจทก์ ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าเป็นหุ้นส่วนทำการค้าข้าวเปลือกข้าวสารกับผู้ตายตามฟ้อง แต่ ฟังได้ว่าผู้ตายได้ขอให้โจทก์ช่วยหาเงินมาให้ผู้ตายเป็น เงินทุนหมุนเวียนในกิจการโรงสีของผู้ตายด้วยการ กู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร ผู้ตายใช้เช็คของโจทก์เพื่อประโยชน์ในกิจการโรงสีของผู้ตาย ทำให้โจทก์เป็นหนี้ธนาคารตามจำนวนในฟ้อง ซึ่งเข้าใจได้โดยปริยายว่าผู้ตายต้อง ชำระหนี้นั้นแก่ธนาคารแทนโจทก์ มิฉะนั้นโจทก์ก็ต้อง รับผิดชำระแก่ธนาคาร เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาเป็นข้อที่โจทก์ได้บรรยายมาในคำฟ้องแล้ว ทั้งได้มีคำขอ ให้จำเลยชำระเงินเท่าจำนวนที่โจทก์ถูกธนาคารฟ้องด้วย ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการประกอบกิจการก่อความเดือดร้อน: การทุบทองคำเปลวสร้างความเสียหายเกินสมควร
อาคารของโจทก์จำเลยเป็นตึกแถวอยู่ติดกัน ไม่ได้ความว่ามีเสียงและความสั่นสะเทือนจากการประกอบกิจการอื่นอีกการที่จำเลยประกอบกิจการทุบทองคำเปลวทำให้เกิดเสียงและความสั่นสะเทือนถึงขนาดที่ทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่า จะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยระงับความเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2169/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงบัญชีรายการจ่ายของห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องเกี่ยวข้องกับกิจการหรือธุรกิจของห้างเท่านั้น
เรื่องที่จะให้บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัดเป็นความผิดในข้อหาความผิดฐานไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการหรือธุรกิจของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทโดยตรง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำไปเป็นของจำเลย เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าเช็คของห้างที่จำเลยสั่งจ่ายไป โดยไม่ได้ลงบัญชีเงินสดของห้างนั้น จำเลยได้สั่งจ่ายไปในกิจการหรือธุรกิจของห้างการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนฯ มาตรา 42(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2485/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืม - การลงทุนร่วมทำกิจการ - ใบรับเงิน
ใบรับเงินที่ลูกหนี้ออกให้เจ้าหนี้เป็นการร่วมกันลงทุนทำกิจการหากำไรแบ่งกันนั้นไม่มีข้อความว่าจะใช้เงินคืนไม่เป็นหลักฐานการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1849/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหน่วยงานรัฐต่อหนี้สินของกิจการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ แต่เป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก
กรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นกรมในรัฐบาลและเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลข วิทยุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมิได้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการค้า ส่วนร้านค้าขององค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข หรือ อ.ส.ค. ตั้งขึ้นโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการขึ้นเป็นผู้ดำเนินงานพร้อมด้วยคณะกรรมการ และจัดตั้งร้านค้า อ.ส.ค. ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือข้าราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข และประธานกรรมการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนในตำแหน่งผู้จัดการ แต่มิได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน และเป็นกิจการต่างหากมิได้อยู่ในวัตถุประสงค์และหน้าที่ของกรมไปรษณีย์โทรเลข เมื่อร้านค้า อ.ส.ค. มิใช่ราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลข กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้สินของร้านค้า อ.ส.ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าเป็นหุ้นส่วนสืบแทนและการเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งตายผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นตกลงยินยอมให้จำเลยบุตรของหุ้นส่วนที่ตายนั้นเข้าเป็นหุ้นส่วนแทน ต่อมาหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งตาย ไม่มีใครเข้าเป็นหุ้นส่วนแทน คงดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนต่อมาระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนอื่น จนมีเหตุที่จำเลยถือตนเป็นเจ้าของโรงสีของห้างหุ้นส่วนเสียคนเดียว ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นย่อมฟ้องจำเลยขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนได้
เมื่อจำเลยเข้าเป็นตัวหุ้นส่วนสืบแทนบิดาแล้ว แม้บิดาจำเลยจะตายมาเกิน 1 ปี ก่อนที่จะมีการฟ้องร้องเลิกห้างหุ้นส่วนและขอแบ่งทรัพย์สิน จำเลยก็ยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ซึ่งเป็นเรื่องเจ้ามรดกเป็นลูกหนี้ขึ้นต่อสู้ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องยืมเงินไม่เคลือบคลุม อายุความ 10 ปีใช้ได้ หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าเงินถูกใช้ในกิจการ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้ทำหลักฐานยืมเอาเงินของโจทก์ไปหลายครั้งแล้วไม่ใช้ โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินตามฟ้อง ซึ่งฟ้องโจทก์ได้กล่าวแสดงรายละเอียดถึงวันเดือนปีและจำนวนเงินที่จำเลยยืมไป และมีสำเนาใบยืมท้ายฟ้อง ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
จำเลยมิได้ใช้เงินที่จำเลยยืมไปจากโจทก์ในกิจการของโจทก์ กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 ต้องใช้อายุความตามมาตรา 164
of 7