พบผลลัพธ์ทั้งหมด 76 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3673/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ: ข้อโต้แย้งเรื่องการยึดของกลางต้องยกขึ้นในศาลชั้นต้นก่อน
จำเลยฎีกาว่า การที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ค้นและยึดสิ่งของมิได้ปฏิบัติตาม ป.วิ.อ. มาตรา 101 และมาตรา 103 กล่าวคือ มิได้ห่อสิ่งของหรือบรรจุหีบห่อแล้วตีตราไว้ หรือไม่ทำเครื่องหมายสิ่งของที่ยึดได้หรือไม่ได้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้น เพียงแต่ระบุว่าพบสิ่งของดังกล่าวจากบ้านจำเลย สิ่งของที่เป็นของกลางดังกล่าวจะใช้ยันจำเลยได้หรือไม่ ปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และจำเลยเพียงแต่สงสัยว่าจะใช้ยันจำเลยได้หรือไม่เท่านั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นอ้างอิงให้ชัดแจ้งว่าจะใช้ยันจำเลยไม่ได้เพราะเหตุใด ถือไม่ได้ว่าเป็นฎีกาที่โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเมื่อจำเลยอ้างเหตุผลที่ไม่เคยโต้แย้งในชั้นศาล
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง มิได้โต้เถียงว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหาย ปัญหาเรื่องผู้ใดจะเป็นผู้เสียหายจึงยุติไปแล้ว ที่จำเลยฎีกามาเพียงประการเดียวว่า ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบในเรื่องผู้เสียหายแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในฟ้องนั้นเป็นการยกข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้โต้เถียงไว้ในศาลชั้นต้นมาอ้างอันเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาข้อนี้ของจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของเจ้าของรวม: การฟ้องขอส่งมอบหนังสือรับรองเมื่อยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิ
จำเลยเป็นผู้ครอบครองหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินที่โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของรวม โดยชอบตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะมีสิทธิในที่ดิน เมื่อยังไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับการถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องพิจารณาว่าฝ่ายที่อ้างสิทธิเป็นฝ่ายผิดสัญญาหรือไม่ หากยังมีข้อโต้แย้งสิทธิหักกลบลบหนี้ยังไม่มีผล
แม้หนี้ตามสัญญาซื้อขายฉบับที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดกับหนี้ตามสัญญาซื้อขายฉบับที่จำเลยอ้างว่า โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยจะมีวัตถุแห่งหนี้เป็นการชำระเงินเหมือนกัน แต่โจทก์ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่าโจทก์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้ว ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิที่จะกันเงินไว้เพื่อนำไปหักกับหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายที่โจทก์นำมาฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่มีข้อโต้แย้งไม่สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ แม้มีวัตถุแห่งหนี้เดียวกัน
แม้หนี้ที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดตามสัญญาซื้อขายกับหนี้ค่าปรับที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลยอันเกิดจากการที่โจทก์ผิดสัญญาซื้อขายในคราวก่อนจะมีวัตถุแห่งหนี้เป็นการชำระเงินเหมือนกัน แต่เมื่อโจทก์ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่าโจทก์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและได้ชำระหนี้ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วเช่นนี้ จึงเป็นหนี้ที่ยังมีข้อต่อสู้ไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้กันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3961/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานไม่ใช่คำวินิจฉัย ไม่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งสิทธิหน้าที่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเป็นพนักงานตรวจแรงงานได้ออกคำเตือนให้โจทก์จ่ายเงินค่าชดเชยแก่ลูกจ้างนั้น คำเตือนดังกล่าวเป็นการชี้ แนะของเจ้าหน้าที่เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ไม่ใช่วินิจฉัยชี้ขาดว่าโจทก์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการคุ้มครองแรงงาน โจทก์จะไม่ปฏิบัติตามก็ได้ ไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อสิทธิหน้าที่ของโจทก์อันเป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์แต่อย่างใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีสัญญายืมใช้คงรูป แม้มีการชำระค่าเสียหายแล้ว ยังคงมีข้อโต้แย้งสิทธิ
โจทก์ติดต่อซื้อรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อใช้ในราชการโดยโจทก์ได้รับรถยนต์จากผู้ขายมาใช้ก่อนในวันเกิดเหตุจำเลยยืมรถยนต์คันดังกล่าวจากโจทก์ไปใช้และเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายโจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมใช้คงรูปเมื่อรถยนต์คันที่จำเลยยืมไปใช้เกิดความเสียหายแม้โจทก์จะได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่ผู้ซ่อมหรือเจ้าของรถยนต์นั้นแล้วหรือไม่ก็ตามถือได้แล้วว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิตามสัญญายืมใช้คงรูปเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง. คำฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยยืมรถยนต์คันเกิดเหตุไปจากโจทก์ต่อมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์บรรทุกสิบล้อของบุคคลอื่นรถยนต์คันดังกล่าวเกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างที่โจทก์ดูแลและทดลองใช้อยู่โจทก์ชำระเงินค่าซ่อมให้เจ้าของรถแล้วจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้เงินคืนแก่โจทก์ตามคำฟ้องดังกล่าวไม่ปรากฏเหตุใดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา643ที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเลยจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3786/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและการใช้สิทธิทางศาล: กรณีไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิ/หน้าที่และไม่อยู่ในขอบเขตที่กฎหมายให้อำนาจ
โจทก์และจำเลยเพียงแต่มีความเห็นขัดแย้งกันในทางความเห็นอันเกี่ยวแก่วิธีการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการที่โจทก์งดเว้นไม่ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งต่อจำเลยเป็นเรื่องโจทก์สมัครใจไม่ใช้สิทธิตามความเห็นของตนเอง สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ไม่พอให้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลย และกรณีของโจทก์ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิแก่โจทก์ในอันที่จะต้องใช้สิทธิในทางศาล โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2297/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีภาษีอากรเกิดเมื่อมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับอัตราภาษีและประเภทสินค้าที่ต้องเสียภาษี
โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโจทก์ยื่น รายการเสียภาษีการค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า สำหรับสินค้ารายพิพาทในอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ โดยขอวางหลักประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7.0 ของรายรับและ ทำหนังสือขอให้นำเรื่องเสนอต่อ คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าพิจารณาเกี่ยวกับอัตราภาษีการค้า ถ้าโจทก์ไม่วางหลักประกันจำเลยที่ 1 ก็ไม่ยอมปล่อยให้โจทก์นำเข้าซึ่งสินค้ารายพิพาทเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ได้เขียนสั่งการไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า ของโจทก์ให้โจทก์วางหลักประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7.0 แล้วส่งเรื่องให้คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าพิจารณาดังนี้ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับภาษีการค้าสำหรับสินค้า รายพิพาทเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์มีอำนาจฟ้อง
กระดาษลายน้ำมีตรานกวายุภักษ์ในวงกลมและพิมพ์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า THAI LOTTERY เป็นกระดาษลายน้ำมิใช่เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ต้องเสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 7.0 ของรายรับตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1 แห่ง ประมวลรัษฎากรหาใช่เสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 6 ไม่
กระดาษลายน้ำมีตรานกวายุภักษ์ในวงกลมและพิมพ์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า THAI LOTTERY เป็นกระดาษลายน้ำมิใช่เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ต้องเสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 7.0 ของรายรับตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1 แห่ง ประมวลรัษฎากรหาใช่เสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 6 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสิทธิการเช่าของโจทก์ในคำให้การแล้วยกข้อโต้แย้งใหม่ในชั้นอุทธรณ์เป็นอุทธรณ์ต้องห้าม
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและได้ให้จำเลยเช่าจำเลยให้การว่าเดิมสิทธิดังกล่าวเป็นของจำเลยซึ่งได้โอนให้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้คำให้การเช่นนี้เท่ากับยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าอาคารพิพาทและจำเลยอยู่ในอาคารนั้นโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ ที่จำเลยกล่าวอ้างว่าสิทธิการเช่าอาคารพิพาทยังเป็นของจำเลยการโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นการแสดงเจตนาลวงเพราะไม่ได้โอนกันจริงนั้นจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงไม่เป็นประเด็นและไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์