คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีพนัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 38 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลยพินิจริบของกลางในคดีพนัน: ฎีกาที่ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริง
เมื่อศาลล่างทั้งสองเห็นต้องกันว่า เครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันอย่างใดไม่ควรริบ โจทก์ฎีกาว่าเป็นของควรริบตาม ก.ม. อาญา ม. 27(1) นั้นเป็นการคัดค้านดุลยพินิจของศาลเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการริบของกลางคดีพนัน: ศาลมีอำนาจแต่ไม่บังคับต้องริบ
เครื่องที่ใช้ในการเล่นการพนันตาม พระราชบัญญัติการพนันมาตรา 10 วรรคสองนั้น ให้อำนาจศาลจะริบหรือไม่ริบก็ได้ ตะเกียงเจ้าพายุที่ใช้ในการเล่นการพนันศาลไม่ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีพนัน: ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ย่อมยกฟ้อง แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันจับยี่กีทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยเล่นจับยี่กี ศาลต้องยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทุกคนตามฟ้อง จำเลยบางคนฎีกาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าเป็นการเล่นจับยี่กี ดังฟ้อง ต้องยกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยเพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังฟ้องของกลางที่จับได้ มิใช่เป็นสิ่งที่มีไว้ผิดกฎหมายต้องคืนให้เจ้าของไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้มาตรา 40 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาเพื่อยกโทษจำคุกในคดีพนัน แม้มีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมายพิเศษ
จำเลยเคยถูกลงโทษฐานลักเล่นการพนันไพ่พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปีมากระทำผิดฐานเล่นการพนันไพ่นกกระจอกโดยมิได้รับอนุญาตอีกศาลตัดสินลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา 3 จำคุก 10 วัน ปรับ 40 บาท แต่โทษจำให้ยกเสียตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 ได้ ไม่เป็นการขัดแย้งกับพระราชบัญญัติการพนัน (ฎีกาที่ 277/2482)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผลกระทบต่อการริบเงินในคดีพนัน
ใบบันทึกการจับกุมที่กล่าวว่าจำเลยรับสารภาพแล้วมีลายเซ็นชื่อจำเลยไว้ด้วยนั้น เมื่อเจ้าพนักงานสอบสวนมิได้ให้คำตักเตือนจำเลยก่อนทำใบบันทึกดังที่ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.134 บังคับไว้แล้ว ข้อความในใบบันทึกนั้นใช้ยันจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 1 เดือน 15 วัน และริบเงินโดยฟังว่าจำเลยเอาเล่นการพะนัน จำเลยอุทธรณ์ฉะเพาะการริบเงิน ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยไม่ได้นำออกเล่น ไม่ริบ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องริบเงินนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31-32/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยานหลักฐานในคดีพนันและสินบนเจ้าพนักงาน ศาลอุทธรณ์และฎีกาพิพากษาตามพยานที่ไม่น่าเชื่อถือ
ลักเล่นเบี้ยโบกพนันคำรับสารภาพให้สินบนเจ้าพนักงาน วิธีพิจารณาอาญา อย่างไรจึงเรียกว่าลักษณะคดี ลักษณพะยานคำพะยานโจทก์ไม่น่าเชื่อ แต่จำเลยบางคนไม่ได้ฎีกาอุทธรณ์ขึ้นมา ศาลไม่วินิจฉัยถึงพวกจำเลยนั้นเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยานบุคคลในคดีพนัน: คำซัดของพยานร่วมกับจำเลย
เล่นจับยี่กีของกลางที่ค้นได้ในตัวจำเลยให้คืนไป ลักษณพะยานอย่างไรเรียกว่าคำซัดของจำเลยด้วยกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4319/2552 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีพนัน แม้เวลาในฟ้องไม่ตรงกับเวลาที่เกิดเหตุ และการพิจารณาโทษจำเลย
ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และถือเอาเลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว ของรางวัลที่ 1 กับเลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว ของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เป็นเลขถูกรางวัล เหตุเกิดที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นั้น ถือว่าเป็นฟ้องที่ได้ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ชอบด้วยบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯ มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดฯ มาตรา 3 แล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ที่ข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏตามคำร้องขอผัดฟ้องครั้งที่ 1 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 ว่า เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2550 อันแสดงว่าจำเลยน่าจะกระทำความผิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2550 ไม่ใช่วันที่ 1 สิงหาคม 2550 ตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ก็เป็นเพียงการพลั้งเผลอในการเรียงและพิมพ์ฟ้องผิดพลาดไปเท่านั้น กรณีหาใช่เป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ก่อนที่จำเลยจะกระทำความผิด อันจะทำให้เป็นฟ้องที่ขัดกับสภาพความเป็นจริงไม่ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพมาโดยตลอด ในชั้นอุทธรณ์จำเลยก็อุทธรณ์เพียงขอให้รอการลงโทษ แสดงว่าจำเลยทราบดีถึงการกระทำความผิดของตน การที่โจทก์บรรยายฟ้องระบุรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาที่จำเลยกระทำความผิดผิดพลาดไปดังกล่าวจึงมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้
of 4