พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือของพยานผู้เสียหายที่เบิกความขัดแย้งกับคำพิพากษาคดีอื่น ย่อมทำให้การรับฟังคำเบิกความในคดีปัจจุบันไม่น่าเชื่อถือ
ผู้เสียหายถูกคนร้ายชิงทรัพย์ ผู้เสียหายเบิกความในคดีนี้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ตีศรีษะ และใช้มีดจี้ปลดทรัพย์ของผู้เสียหายระหว่างพิจารณาคดีนี้ในศาลอุทธรณ์ เจ้าพนักงานตำรวจจับกุม ส.กล่าวหาว่าเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ผู้เสียหายในวันเวลาเดียวกันกับคดีนี้ ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้อง ส. เป็นจำเลยในข้อหาเดียวกันกับคดีนี้ ส. ให้การรับสารภาพ ผู้เสียหายเบิกความในคดีดังกล่าวว่าส. เป็นคนร้ายกระทำการเช่นเดียวกับที่เบิกความว่าจำเลยคดีนี้กระทำในขณะเดียวกัน เมื่อศาลคดีดังกล่าวฟังว่า ส. เป็นคนร้ายและพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุดแล้ว ที่ผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยเป็นคนร้ายคดีนี้จึงฟังไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2861/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดก: คำสั่งศาลที่ยังไม่ถึงที่สุด ไม่กระทบสิทธิฟ้องในคดีอื่น
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องขับไล่จำเลยออกไปจากอาคารพิพาทศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ระหว่างพิจารณาคดีนี้ในศาลชั้นต้นศาลได้มีคำสั่งในคดีตั้งผู้จัดการมรดกให้เพิกถอนโจทก์ทั้งสองจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เพราะโจทก์อุทธรณ์คำสั่งในคดีดังกล่าวอยู่ แม้จำเลยจะเป็นผู้ร้องขอให้ถอน โจทก์ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกในคดีนั้นก็ตาม แต่ก็เป็นคู่ความคนละคดีกัน จำเลยจึงไม่อาจยกขึ้นอ้างอิงในคดีนี้ได้ เพราะคำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานะหรือความสามารถของบุคคล จะยกขึ้นใช้อ้างอิงหรือใช้ยันแก่บุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่ง มาตรา145(1) ก็ต่อเมื่อเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ถึงที่สุดแล้วเท่านั้นเมื่อคดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องอุทธรณ์คดีนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่นเป็นดุลพินิจของศาล แม้โทษจำคุกรวมเกิน 50 ปี และประเด็นการฎีกาต้องเป็นไปตามเหตุผลที่อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง แต่จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่นเป็นการมิชอบ ดังนั้นประเด็นเรื่องจำเลยได้กระทำตามฟ้องหรือไม่จึงยุติไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำเลยจะกลับมาฎีกาอีกไม่ได้ การนับโทษจำคุกจำเลยต่อกับโทษในคดีอื่นเป็นดุลพินิจ ของศาลแม้ว่าศาลจะพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 50 ปีแล้วก็ตามหากศาลเห็นสมควรก็จะสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอื่นอีกได้ไม่ขัดต่อ ป.อ. มาตรา 91.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4138-4139/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การ/คำเบิกความในคดีอื่น ไม่ผูกพันปิดปากโจทก์ในคดีปัจจุบัน ศาลต้องใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน
ในประเด็นว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพิพาทหรือไม่นั้นลำพังเพียงแต่โจทก์ยื่นคำให้การไว้ในคดีแพ่งคดีหนึ่งว่า โจทก์มิได้เป็นเจ้าของห้องแถวพิพาท กับโจทก์ได้เบิกความไว้ในคดีแพ่งอีกคดีหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินโจทก์ปลูกห้องพิพาทเองนั้น ไม่ถึงกับปิดปากโจทก์มิให้เถียงเป็นอย่างอื่นได้ คำให้การและคำเบิกความรับของโจทก์ในคดีเรื่องอื่นถือว่าเป็นเพียงพยานหลักฐานที่จำเลยจะนำสืบอ้างอิงมายันโจทก์เท่านั้นส่วนการที่ศาลจะรับฟังว่าห้องพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หรือไม่ เป็นเรื่องที่ศาลจะใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ่ายต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วด่วนวินิจฉัยว่าห้องพิพาทมิใช่กรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ข้อเท็จจริงจากคดีอื่นเพื่อวินิจฉัยคดีปัจจุบัน: ความเกี่ยวพันของสถานะผู้ถือหุ้นในการประชุม
ข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 7663/2524 ของศาลชั้นต้นที่ว่า ด. โจทก์ได้ขายหุ้นจำนวน 3398 หุ้น ให้แก่ กว.จำเลยที่ 3 ในคดีดังกล่าวไปแล้วใช่หรือไม่ มีความเกี่ยวพันกับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้โดยตรง แม้ว่าโจทก์ทั้งสองคดีจะเป็นคนละคนกันและมิใช่คู่ความในคดีเดียวกันก็ตาม เพราะก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีนี้ว่าการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2522 ของบริษัทจำเลยมีผู้ถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมดหรือไม่นั้น จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า ด. ยังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยขณะที่บริษัทจำเลยจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2522 หรือไม่ ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีแพ่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวที่ฟังว่า ด. ได้ขายหุ้นจำนวน 3,398 หุ้นให้แก่ ม.และ ม. ได้โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวให้แก่ ว. มาวินิจฉัยตัดสินในคดีนี้ จึงเป็นการวินิจฉัยที่ตรงกับประเด็นที่ได้กำหนดหน้าที่นำสืบและภาระการพิสูจน์ไว้ในคดีนี้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำข้อเท็จจริงจากคดีอื่นมาใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีปัจจุบัน แม้คู่ความต่างกัน แต่เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ของบริษัทว. อ้างว่าผู้เข้าประชุมถือหุ้นไม่ถึงร้อยละเจ็ดสิบของหุ้นทั้งหมดในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าด.ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งได้ขายหุ้นจำนวน3,398หุ้นให้แก่ม. และม.ได้โอนหุ้นให้แก่ค. หรือไม่ซึ่งประเด็นดังกล่าวศาลได้วินิจฉัยไว้ในคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่งที่ด. ฟ้องบริษัทว.,ม.,ค.กับพวกอีก2คนเป็นจำเลยว่าด. ได้ขายหุ้นดังกล่าวให้แก่ม.และม. ได้โอนหุ้นให้แก่ค. แล้วประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยแล้วนี้เกี่ยวกับประเด็นในคดีนี้โดยตรงแม้โจทก์จะเป็นคนละคนก็นำมารับฟังในคดีนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2166/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อคดีอื่น: ศาลพิพากษาให้นับโทษต่อเนื่องได้ หากปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดเจนแล้วว่าคดีก่อนหน้านั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยและขอให้นับโทษต่อจากคดีดำคดีอื่น.ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้และในคดีดำคดีอื่นในวันเดียวกัน. ถือได้ว่าความปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดแจ้งแล้วว่าคดีดำคดีอื่นนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงต่อศาลซ้ำอีก. ศาลย่อมพิพากษาให้นับโทษต่อกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง การอ้างเหตุผลจากคดีอื่นมาลบล้างมิได้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีหลังซึ่งยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้อื่น ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือโจทก์หมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังซึ่งเป็นทรัพย์คนละส่วนกับคดีนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาในคดีหลังไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีนี้ที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เพื่อมิให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: การพิจารณาคำขอรับชำระหนี้โดยไม่ต้องรอคดีอื่นถึงที่สุดเพื่อคุ้มครองประโยชน์เจ้าหนี้
พระราชบัญญัติล้มละลายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ได้รับชำระหนี้โดยเป็นธรรม ตามส่วนเฉลี่ยแห่งหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ป้องกันมิให้ลูกหนี้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ของตน.มิให้ถูกบังคับชำระหนี้และให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้โดยรวดเร็ว ที่ลูกหนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับบริษัท อ. ในคดีล้มละลายเมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ศาลก็ได้จำหน่ายคดีเฉพาะลูกหนี้แล้วลูกหนี้และบริษัท อ. มิได้มีเจ้าหนี้แต่เฉพาะเจ้าหนี้ในคดีนี้ แต่อาจมีเจ้าหนี้หลายรายแตกต่างกันไป ถ้าศาลจะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้จนกว่าคดีล้มละลายถึงที่สุด ก็ย่อมจะเสียหายแก่เจ้าหนี้รายอื่น จึงไม่มีเหตุที่จะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท. ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
การสอบสวน เรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้นเมื่อ จ.พ.ท. เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาล หรือพยานที่เจ้าหนี้ หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้าหรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็น จ.พ.ท. ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุเลื่อนการพิจารณาคดี: ทนายโจทก์ติดว่าความคดีอื่น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเหตุผลสมควร
สืบพยานในนัดแรก โจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาคดี อ้างว่าทนายโจทก์ติดว่าความในคดีแพ่งและคดีอาญาที่ศาลอื่นโดยนัดไว้ก่อน ปรากฏตามสำเนารายงานกระบวนพิจารณาของศาลดังกล่าวที่ได้รับรองแล้ว เป็นการขอเลื่อนการพิจารณาคดีโดยมีเหตุผลสมควร