คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีไม่มีทุนทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้อนุบาลผู้ไร้ความสามารถ: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีไม่มีทุนทรัพย์
คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นผู้ไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาลนั้น เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท และเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์: การต่อสู้คดีกรรมสิทธิ์โดยอ้างสิทธิของผู้อื่น มิใช่การกล่าวแก้กรรมสิทธิ์ของตนเอง
โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลย จำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดา เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากการฉ้อฉล และการพิจารณาค่าธรรมเนียมศาลในคดีไม่มีทุนทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินซึ่งจำเลยที่ 1 ลูกหนี้โจทก์ได้โอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ฟ้องเช่นนี้เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกอันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เพราะคำขอของโจทก์ไม่ได้เรียกร้องเอกที่พิพาทมาเป็นของโจทก์ หรือขอให้โจทก์ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะผลของการที่โจทกืขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลมีแต่เพียงให้ทรัพย์สินกลับคืนมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเท่านั้น.
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์: ประเด็นค่าเสียหายจากสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ถึงแม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเช่าและค่าเสียหายมาด้วยก็จะชี้ขาดว่าเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ไม่ได้ คดีเช่นว่านี้ แม้ประเด็นเรื่องขับไล่ได้ยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว คงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกา เฉพาะประเด็นเรื่องค่าเสียหายเท่านั้นก็ตาม จำเลยก็ยังฎีกาในข้อเท็จจริงในฐานที่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์: คดีขับไล่ที่ประเด็นหลักเป็นภาระผูกพันที่ไม่สามารถประเมินราคาได้ แม้มีเรียกค่าเสียหาย
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ถือว่า เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ถึงแม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเช่าและค่าเสียหายมาด้วยก็จะชี้ขาดว่าเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ไม่ได้ คดีเช่นว่านี้ แม้ประเด็นเรื่องขับไล่ได้ยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วคงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะประเด็นเรื่องค่าเสียหายเท่านั้นก็ตามจำเลยก็ยังฎีกาในข้อเท็จจริงในฐานที่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนสามัญเฉพาะกิจเลิกเมื่อทำไม้เสร็จ การฟ้องคดีไม่ถูกต้องหากเสนอเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนทำไม้เพื่อค้าขายเอากำไรแบ่งปันกัน โดยตกลงกันว่า ทำไม้เสร็จเมื่อใด ก็มีการคิดบัญชีต้นทุนกำไรกัน ลักษณะของหุ้นส่วนเช่นว่านี้ย่อมเป็นหุ้นส่วนสามัญชนิดที่สัญญาทำไว้เฉพาะเพื่อกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่อย่างเดียว เมื่อเสร็จการนั้นแล้ว หุ้นส่วนรายนั้นก็ย่อมเลิกกันไปในตัว ดังความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1055 (3) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ อีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อทำไม้รายใดเสร็จไปแล้ว หุ้นส่วนในการทำไม้รายนั้นก็ย่อมเลิกกันและมีการคิดบัญชีต้นทุนกำไรกันตามที่ตกลงกันไว้เป็นเฉพาะราย ๆ ไป
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องเงินหุ้นส่วนในชั้นคิดบัญชี แต่โจทก์เสนอข้อพิพาทต่อศาลอย่างคดีไม่มีหุ้นทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลมา 50 บาท โดยขอให้ศาลสั่งให้เลิกหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยและชำระบัญชีทั้ง ๆ ที่หุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยได้เลิกกันและได้มีการคิดบัญชีกันตามที่ตกลงกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องสั่งให้เลิกหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย และให้มีการชำระบัญชีกันอีกตามที่โจทก์ขอมา และไม่ชอบที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทที่โต้เถียงกันในชั้นคิดบัญชีนั้นให้ได้ด้วย เพราะโจทก์มิได้เสนอข้อพิพาทอย่างคดีมีทุนทรัพย์ประกอบกับคำขอท้ายฟ้องก็มิได้ขอบังคับในเรื่องเงินหุ้นส่วนที่พิพาทนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนสามัญทำไม้เลิกกันเมื่อคิดบัญชีเสร็จสิ้น การฟ้องคดีไม่ถูกต้องหากเสนอเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนทำไม้เพื่อค้าขายเอากำไรแบ่งปันกันโดยตกลงกันว่าทำไม้เสร็จเมื่อใดก็มีการคิดบัญชีต้นทุนกำไรกัน ลักษณะของหุ้นส่วนเช่นว่านี้ย่อมเป็นหุ้นส่วนสามัญชนิดที่สัญญาทำไว้เฉพาะเพื่อกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่อย่างเดียว เมื่อเสร็จการนั้นแล้ว หุ้นส่วนรายนั้นก็ย่อมเลิกกันไปในตัว ดังความที่บัญญัติไว้ในมาตรา1055(3) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อทำไม้รายใดเสร็จไปแล้ว หุ้นส่วนในการทำไม้รายนั้นก็ย่อมเลิกกันและมีการคิดบัญชีต้นทุนกำไรกันตามที่ตกลงกันไว้เป็นเฉพาะรายๆ ไป
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องเงินหุ้นส่วนในชั้นคิดบัญชี แต่โจทก์เสนอข้อพิพาทต่อศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลมา 50 บาท โดยขอให้ศาลสั่งให้เลิกหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยและชำระบัญชีทั้งๆ ที่หุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลยได้เลิกกันและได้มีการคิดบัญชีกันตามที่ตกลงกันแล้วก็ไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องสั่งให้เลิกหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย และให้มีการชำระบัญชีกันอีกตามที่โจทก์ขอมาและไม่ชอบที่ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นข้อพิพาทที่โต้เถียงกันในชั้นคิดบัญชีนั้นให้ได้ด้วย เพราะโจทก์มิได้เสนอข้อพิพาทมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ประกอบกับคำขอท้ายฟ้องก็มิได้ขอบังคับในเรื่องเงินหุ้นส่วนที่พิพาทนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์ การฎีกาประเด็นข้อเท็จจริงได้ แม้มีการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม สิทธิครอบครองตึกแถว
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมออกจากที่ดินวัดปทุมคงคาเพื่อให้โจทก์ปลูกตึกแถว โจทก์สัญญาว่าปลูกแล้วจะให้จำเลยเช่า 1 คูหา ซึ่งตามแต่โจทก์จะเป็นผู้เลือกให้ จำเลยจะต้องช่วยค่าก่อสร้าง 20,000 บาท.
สร้างเสร็จจำเลยเข้าอยู่ในห้องเลขที่ 66/8 โจทก์จึงฟ้องว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยพละการมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์ตั้งใจเลือกห้องเลข4/4 ให้จำเลย การที่จำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์เป็นการละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย
เมื่อจำเลยมิได้โต้เถียงกรรมสิทธิฟ้องดังกล่าวจึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ (ฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาเงินได้) ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ เพียงแต่โจทก์มีคำขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุทำให้โจทก์หมดสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไม่มีทุนทรัพย์ ฎีกาได้ แม้มีเรียกค่าเสียหาย สิทธิครอบครองห้องเช่าและเจตนาของสัญญาประนีประนอม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมออกจากที่ดินวัดปทุมคงคาเพื่อให้โจทก์ปลูกตึกแถวโจทก์สัญญาว่าปลูกแล้วจะให้จำเลยเช่า 1 คูหา ซึ่งตามแต่โจทก์จะเป็นผู้เลือกให้ จำเลยจะต้องช่วยค่าก่อสร้าง 20,000 บาท
สร้างเสร็จจำเลยเข้าอยู่ในห้องเลขที่ 66/8 โจทก์จึงฟ้องว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยพละการมิได้รับความยินยอมจากโจทก์โจทก์ตั้งใจเลือกห้องเลข 4/4 ให้จำเลย การที่จำเลยเข้าอยู่ในห้อง 66/8 โดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์เป็นการละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย
เมื่อจำเลยมิได้โต้เถียงกรรมสิทธิ์ฟ้องดังกล่าวจึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์(ฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวนเป็นราคาเงินได้) ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่ เพียงแต่โจทก์มีคำขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุทำให้โจทก์หมดสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนผู้รับมรดกและสิทธิในมรดกของบุตรจากสินสมรส คดีไม่มีทุนทรัพย์
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกและลงชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลยนั้น เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จะเรียกค่าฤชาธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์ไม่ได้
การที่บิดาพูดรับรองในวันทำบุญ 7 วันศพภริยาจะแบ่งนาพิพาทให้บุตรทุกคน แล้วบิดาได้ครอบครองนาพิพาทต่อมาร่วมกับบุตรบางคน ดังนี้ ถือว่าบิดาได้ครอบครองนาพิพาทแทน
สินสมรสระหว่างบิดามารดานั้น หากมารดาตาย แต่ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ บุตรคงมีส่วนเฉพาะที่เป็นมรดกของมารดาเท่านั้น
of 6