พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจากความขัดแย้งส่วนตัวและการด่าทอที่ไม่ถึงขั้นข่มเหงร้ายแรง
การที่โจทก์ร่วมค่าจำเลยว่า "คนอย่างมึงแก่แล้วตัณหากลับ แย่งผัวกูหรือ หรือเงี่ยนไม่รู้จักหาย คนอย่างมึงร้อยควย อย่างนี้ต้องเอาช้างเย็ด" ในขณะที่โจทก์ร่วมและจำเลยอยู่ด้วยกันสองต่อสอง และการด่ากันดังกล่าวเกิดจากการที่โจทก์ร่วมเข้าใจว่าจำเลยเป็นชู้กับสามีโจทก์ร่วม ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องไม่จริง เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องเงินและคำดูถูก ศาลฎีกายืนโทษ
ผู้ตายกับจำเลยเคยมีสาเหตุกันเนื่องจากผู้ตายแบ่งเงินจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้จำเลยน้อยและพูดจาดูถูกจำเลยเสมอ วันเกิดเหตุผู้ตายกับจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกันเนื่องจากจำเลยลวงผู้ตายว่ามีผู้สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจำเลยใช้อาวุธปืนที่พาติดตัวไปยิงผู้ตายในลักษณะจ่อยิงด้านหลัง แล้วลากศพไปทิ้งไว้ในป่า และนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าจำเลยทะเลาะกับผู้ตาย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้วางแผนตระเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงฟังได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินและคำพูดดูถูก มีพยานหลักฐานยืนยัน
ขณะเกิดเหตุ จำเลยกับผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลางคนละคันมุ่งหน้าจะไปทางจังหวัด กำแพงเพชร โดย จำเลยลวงผู้ตายว่า มีผู้สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์ของกลาง เมื่อถึง บริเวณสถานที่ เกิด เหตุ จำเลยได้ ใช้ อาวุธปืนที่มีและพกพาติด ตัว ไปยิงผู้ตายในลักษณะจ่อยิงด้านหลังประชิดตัว ผู้ตาย แล้วลากศพผู้ตายไปทิ้งในป่า นำรถจักรยานยนต์ไปซ่อน ไว้ ปรากฏจากภาพถ่ายสภาพศพประกอบรายงานการชันสูตร พลิก ศพว่า มีรอยกระสุนปืนลูกซอง 1 นัดเข้าเป็นกลุ่มตรง บริเวณกลางหลังด้านขวาของผู้ตาย เป็นร่องรอยของการใช้ อาวุธปืนลูกซองยิงในระยะประชิดตัว ซึ่ง การยิงในลักษณะเช่นนี้ จำเลยจะต้อง มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับผู้ตาย ทั้งก่อนเกิดเหตุขณะที่อยู่บ้าน นาย ฉ. ก็ไม่ปรากฏว่า จำเลยมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้ง กับผู้ตายแต่ อย่างใดเลย เช่นนี้ จึงเชื่อ ได้ ว่าก่อนเกิดเหตุคดีนี้จำเลยได้ วางแผนตระเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว สาเหตุเพราะผู้ตายแบ่งเงินจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้จำเลยน้อยและพูดจาดูถูก จำเลยเสมอดัง ที่จำเลยให้การรับสารภาพไว้ต่อ ร้อยตำรวจโท ส. ตามบันทึกคำให้การของจำเลย คดีจึงรับฟังได้ ว่าจำเลยได้ ฆ่าผู้ตายโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งส่วนตัว มีแผนการล่วงหน้าและรับสารภาพ
ผู้ตายกับจำเลยเคยมีสาเหตุกันเนื่องจากผู้ตายแบ่งเงินจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้จำเลยน้อยและพูดจาดูถูกจำเลยเสมอวันเกิดเหตุผู้ตายกับจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกันเนื่องจากจำเลยลวงผู้ตายว่ามีผู้สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจำเลยใช้อาวุธปืนที่พาติดตัวไปยิงผู้ตายในลักษณะจ่อยิงด้านหลัง แล้วลากศพไปทิ้งไว้ในป่า และนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าจำเลยทะเลาะกับผู้ตาย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้วางแผนตระเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงฟังได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินและการดูถูก
ผู้ตายกับจำเลยเคยมีสาเหตุกันเนื่องจากผู้ตายแบ่งเงินจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้จำเลยน้อยและพูดจาดูถูกจำเลยเสมอ วันเกิดเหตุผู้ตายกับจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกันเนื่องจากจำเลยลวงผู้ตายว่ามีผู้สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์เมื่อถึงที่เกิดเหตุจำเลยใช้อาวุธปืนที่พาติดตัวไปยิงผู้ตายในลักษณะจ่อยิงด้านหลัง แล้วลากศพไปทิ้งไว้ในป่า และนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าจำเลยทะเลาะกับผู้ตาย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้วางแผนตระเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงฟังได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3486/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มทุนของธนาคาร: ความขัดแย้งระหว่างมติกรรมการและผู้ถือหุ้นเดิม
ธนาคารจำเลยเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่ภายในกำหนดเวลา 5 ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522ใช้บังคับ การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้จะนำมาตรา 1222 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับหาได้ไม่ มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ฉบับดังกล่าวบัญญัติให้ธนาคารพาณิชย์ ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ประสงค์จะเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่ ต้องขายหุ้นใหม่แก่บุคคลธรรมดาซึ่งไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของจำนวนหุ้นที่ออกใหม่นั้น หมายความว่าต้องขายหุ้นใหม่แก่บุคคลภายนอกตั้งแต่ร้อยละยี่สิบห้าขึ้นไป ดังนั้น การที่กรรมการธนาคารมีมติให้ขายหุ้นใหม่แก่บุคคลภายนอกเกินกำหนดดังกล่าวจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แต่เมื่อที่ประชุมใหญ่วิสามัญของผู้ถือหุ้นมีมติให้ขายหุ้นใหม่แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว คือเพียงร้อยละยี่สิบห้าเท่านั้นการที่กรรมการธนาคารลงมติให้ขายเกินกำหนดดังกล่าวแม้ไม่ขัดต่อกฎหมายแต่เมื่อขัดต่อมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญของผู้ถือหุ้นย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมในอันที่จะจองซื้อหุ้นที่ออกใหม่ โจทก์และโจทก์ร่วมชอบที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนมติของกรรมการธนาคารได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญา: ความขัดแย้งในคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 28980ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 28880 โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องดังนี้ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตาม มาตรา 28980 โดย อาศัยข้อเท็จจริงโจทก์จึงฎีกาข้อหาดังกล่าวในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ คงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ เฉพาะ ข้อหาความผิดตาม มาตรา 28880 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับกันมา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกับสถานที่เกิดเหตุและคำเบิกความอื่น
เด็กหญิง พ. ประจักษ์พยานโจทก์เบิกความว่า คืนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ไปดูโทรทัศน์ที่บ้านของ ด. พยานเข้านอนเวลา19 นาฬิกาเศษ ต่อมาได้ยินเสียงคนเดินจึงตื่นขึ้น เห็นจำเลยมาที่หัวนอนเปิดมุ้งแล้วหยิบเอาวิทยุเทปไป แต่ตามแผนที่เกิดเหตุปรากฏว่าวิทยุไม่ได้วางที่หัวนอนและ ท.พยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความว่าวันเกิดเหตุเวลา 22 นาฬิกาผู้เสียหายมาแจ้งว่าสงสัย ช.ขโมยวิทยุเทปไปเมื่อท. บอกว่าช. ดื่มสุราอยู่กับตน ผู้เสียหายจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นสงสัยจำเลยเอาไป แสดงว่าในคืนเกิดเหตุผู้เสียหายไม่ทราบว่าใครลักเอาวิทยุเทปของผู้เสียหายไป คำเบิกความของเด็กหญิง พ. จึงไม่มีน้ำหนักพอฟังลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: กรณีความขัดแย้งเรื่องหนี้สินและการเตรียมอาวุธ
ผู้ตายยืมเงินจำเลยไปโดยเอาเข็มขัดนากปลอมให้ไว้เป็นประกันจำเลยทวงถาม ผู้ตายชำระเงินคืนให้บ้าง ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ผู้ตายต่อว่าจำเลยเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ผู้ตายยืมและจะใช้อาวุธปืนยิงจำเลย ถึงกับจำเลยต้องบอกว่าเรื่องเงินให้แล้วกันไป ทำให้จำเลยมีความเจ็บใจคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายตลอดมา ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าได้มีการโต้เถียงกันอันจะเป็นเหตุให้จำเลยยิงผู้ตายในขณะนั้น ทั้งไม่มีสาเหตุอื่นที่จำเลยจะยิงผู้ตาย การที่จำเลยมีความเจ็บใจและคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายเมื่อมีโอกาสจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมติดตัวไปยิงผู้ตาย ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากความขัดแย้งเรื่องค่าอาหาร ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิมไม่ลดโทษ
จำเลยที่ 1 อายุ 19 ปี จำเลยที่ 2 อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่ง เลิกเรียนแล้วได้ไปดื่มสุราที่ร้านอาหารที่มีการแสดงดนตรีจนดึกเกือบ 24 นาฬิกา แล้วแสดงความประพฤติไม่ดีจะไม่จ่ายค่าอาหาร ครั้นถูกติดตามทวงค่าอาหารก็เกิดความไม่พอใจและไปพาพวกมายิงพนักงานร้านอาหารนั้นจนถึงแก่ความตาย แสดงว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 รู้สึกผิดชอบเป็นผู้ใหญ่และประพฤติตนเป็นอาชญากรเหี้ยมโหดถึงกับฆ่าผู้ประกอบกิจการงานโดยสุจริต เป็นภัยแก่สังคมอย่างยิ่ง ไม่สมควรได้รับการลดมาตราส่วนโทษลงอีก หรือดำเนินการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74.(ที่มา-ส่งเสริม)