คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสมัครใจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่แท้จริงคือการกู้ยืมเงินหรือไม่
เดิมโจทก์มีเจตนาเพียงกู้เงินจากจำเลยไม่ประสงค์จะขายฝากที่พิพาท แต่เมื่อจำเลยให้โจทก์ทำสัญญาขายฝากที่พิพาท ซึ่งถ้าโจทก์ไม่ยอมทำขายฝากจำเลยก็จะไม่ให้เงินในที่สุด โจทก์ได้ตกลงทำสัญญาขายฝากให้เช่นนี้ ถือได้ว่า โจทก์ทำสัญญาขายฝากที่พิพาทโดยความสมัครใจของโจทก์เอง สัญญาขายฝากใช่เกิดจากเจตนาลวงด้วยการสมรู้ของโจทก์ จำเลยที่ทำเพื่อจะอำพราง การกู้ยืมเงินไม่ สัญญาขายฝากดังกล่าวจึงมิใช่นิติกรรมอำพราง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แม้เป็นความสมัครใจ แต่ไม่มีสิทธิเรียกคืน และประเด็นฟ้องซ้ำ
การชำระดอกเบี้ยเงินกู้ไปร้อยละ 2 ต่อเดือน แม้เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 แต่ก็เป็นเรื่องที่ชำระหนี้ด้วยความสมัครใจ โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระ จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืน
คดีก่อนจำเลยเป็นโจทก์ฟ้องทายาทของผู้กู้(ซึ่งถึงแก่กรรม)เรียกต้นเงินและดอกเบี้ยตั้งแต่วันค้างชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคือวันที่ 26 กรกฎาคม 2513 ทายาทยอมใช้เงินต้นที่ค้างและดอกเบี้ยตามฟ้อง ต่อมาทายาททราบว่าจำเลยได้รับชำระดอกเบี้ยไปก่อนวันที่ 26 กรกฎาคม 2513 จำนวนหนึ่งแล้ว จึงฟ้องเรียกเงินนั้นคืน ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะมิใช่เป็นคดีที่มีประเด็นอย่างเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2155/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพาผู้เยาว์ออกจากความดูแลโดยมิใช่การพรากตัว หากผู้เยาว์ออกจากบ้านด้วยความสมัครใจ
ผู้เยาว์เป็นหญิงอายุ 17 ปี ถูกมารดาตีและไล่ออกจากบ้านผู้เยาว์จึงหลบหนีออกจากบ้านมาเอง จำเลยพบเข้าสอบถามชื่อที่อยู่ อายุ ผู้เยาว์ไม่ยอมบอก จำเลยจึงพาไปฝากไว้กับพี่สาวของจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษอาญาต้องอาศัยหลักฐานยืนยันความผิด แม้จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนก็ใช้ลงโทษไม่ได้หากไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 แม้จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาล โจทก์ก็ยังมีหน้าที่นำสืบให้เป็นที่เชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ศาลจึงจะลงโทษได้ จะฟังเอาคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนมาเป็นเหตุลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยได้ หากมีพยานหลักฐานสนับสนุนความสมัครใจและเป็นความจริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนอาจใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คดีอาญาเรื่องฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจำเลยให้การปฏิเสธชั้นศาลโจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน แต่มีคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนรับว่าจำเลยเป็นคนยิงผู้ตาย โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมกระทำความผิด พฤติการณ์ในการกระทำความผิดตั้งแต่ต้นจนจบโดยละเอียดและมีผู้กำกับการตำรวจกับพนักงานสอบสวนมาเบิกความรับรองว่าจำเลยได้ให้การโดยสมัครใจ ได้พาไปชี้ที่เกิดเหตุและถ่ายภาพไว้ด้วยนอกจากจะบันทึกคำให้การรับสารภาพของจำเลยไว้เป็นหนังสือแล้วยังได้บันทึกเสียงคำรับสารภาพของจำเลยไว้มาเปิดให้ศาลฟังด้วยนอกจากนี้โจทก์ยังมีพยานบุคคลประกอบอีกว่า ได้พบเห็นจำเลยในเวลาก่อนเกิดเหตุ และภายหลังเกิดเหตุ ณ บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ ดังนี้ ศาลรับฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยประกอบกับพยานแวดล้อมเหล่านั้นลงโทษจำเลยได้ แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เสรีภาพในการทำสัญญาและการระวังประโยชน์ตนเอง คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขได้ตามความสมัครใจ
การทำสัญญานั้น จะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไร แล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วางเพลิงเผาตึกแถวที่มีคนอยู่อาศัย แม้ผู้เสียชีวิตเกิดจากความสมัครใจช่วยเหลือดับเพลิง จำเลยก็ยังมีความผิดตามกฎหมาย
จำเลยวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น มีผู้เข้าไปช่วยดับเพลิงแล้วถูกไฟลวกถึงแก่ความตาย การเข้าไปช่วยดับเพลิงเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายเอง หาใช่การวางเพลิงของจำเลยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไม่จำเลยจึงไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 224
ห้องที่จำเลยวางเพลิงเป็นตึกแถว จำเลยเช่าเปิดเป็นร้านขายยาและตรวจรักษาโรคในตอนกลางวัน ส่วนในตอนกลางคืนจำเลยกับครอบครัวไปนอนที่อื่น ไม่มีคนอยู่อาศัยในห้องนั้นแต่มีห้องติดกันซึ่งเป็นตึกแถวเดียวกันมีคนเช่าอยู่อาศัยหลับนอน ดังนี้ ตึกแถวที่จำเลยวางเพลิงย่อมเป็นตึกแถวที่มีคนอยู่อาศัย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218(1) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 27/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเลิกสัญญาเช่าที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากทำด้วยความสมัครใจและทราบถึงวัตถุประสงค์
ข้อสัญญาในสัญญาเช่าที่ว่าคู่สัญญาจะยอมเลิกการเช่ากันเมื่อผู้ให้เช่ามีความประสงค์จะใช้ที่เช่านั้น ถ้าข้อสัญญานี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ โดยฝ่ายผู้เช่าได้เห็นสภาพที่เช่าและรู้ความประสงค์ของผู้ให้เช่าดีแล้วจึงยอมตกลงด้วย และข้อตกลงนั้นเกี่ยวกับ สาธารณประโยชน์ ข้อตกลงเช่นนี้ย่อมไม่ขัดต่อ พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์บอกเลิกการเช่าตามข้อตกลงนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานโดยความสมัครใจของจำเลย และผลกระทบต่อการสืบพยานโจทก์ในภายหลัง
ในคดีแพ่ง ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่สืบพยานก่อน จำเลยก็รับรองไม่คัดค้าน จนสืบพยานจำเลยไป 4 ปาก แล้วยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามคำพยานจำเลยว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์กับขออ้างตราจองประกอบการวินิจฉัย ส่วนพยานอื่นๆ ของดสืบต่อไป ดังนี้ เป็นการของดสืบพยานจำเลยโดยความสมัครใจของจำเลยเอง การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดีนั้น ต้องถือว่าเป็นการสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่จะสืบต่อไป ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่นั้น ก็หมายความว่า ให้สืบพยานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดไว้นั้นต่อไปเท่านั้น และเมื่อศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยก็มิได้แถลงหรือคัดค้านจะขอสืบพยานจำเลยต่อไปแต่อย่างใด จนเมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วจำเลยจึงแถลงขอสืบพยานจำเลยต่อไป ดังนี้ ศาลสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาคดี จึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3238/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อด้วยความสมัครใจของผู้เช่าซื้อ และผลต่อการรับผิดของผู้ค้ำประกัน
การที่จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์เพื่อขอโอนสิทธิการเช่าซื้อให้แก่ ท. และโจทก์ได้เรียกเก็บเงินค่าเปลี่ยนสัญญา ค่าเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนโดยใช้แบบพิมพ์ของโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าตรวจสภาพรถ ค่าปรับล่าช้าและสั่งจ่ายเช็ครวม 6 ฉบับ เพื่อชำระค่าเช่าซื้อล่วงหน้าและโจทก์ยึดรถจากผู้ครอบครองคือ ท. และเป็นการยึดรถที่จังหวัดยโสธรอันเป็นภูมิลำเนาของ ท. ซึ่งโจทก์รับในฎีกาว่ายึดรถยนต์ได้จาก ท. พฤติการณ์ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ซึ่งเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่โจทก์แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าการเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 เป็น ท. นั้น โจทก์จะไม่อนุมัติในภายหลัง สัญญาเช่าซื้อก็เป็นอันเลิกกันแล้วนับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์พิพาทคืนโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 ซึ่งเป็นบทบัญญัติให้สิทธิผู้เช่าซื้อเลิกสัญญา เมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 มิได้ประพฤติผิดสัญญาและไม่มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาและค่าขาดประโยชน์
of 5