คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าบริการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขืนใจชำระหนี้ค่าบริการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นความผิดฐานกรรโชก
ผู้เสียหายทั้งสี่เข้าไปเที่ยวในบาร์ ซึ่งมีการแสดงให้ชมและได้สั่งเครื่องดื่มรวม 4 แก้ว ต่อมาจำเลยซึ่งเป็นพนักงานเก็บเงินของบาร์ ได้นำใบเสร็จรับเงินมาเรียกเก็บเงิน 1,000 บาท โดยคิดเป็นค่าเครื่องดื่ม 200 บาทค่าชมการแสดง 800 บาท ตามอัตราที่ถูกต้องของบาร์ผู้เสียหายทั้งสี่ขอชำระแต่ชำระแต่ค่าเครื่องดื่มส่วนค่าชมการแสดงไม่ชำระเพราะได้รับคำบอกเล่าจากผู้ที่ชักชวนเข้าไปเที่ยวว่าไม่ต้องชำระ จำเลยไม่ยอมและพูดว่าถ้าไม่ชำระจะไม่ยอมให้ออกจากบาร์และสั่งคนปิดประตูบาร์กับเรียกพนักงานชาย 5-6 คน มายื่นคุมเชิงรอบโต๊ะข้างหลังผู้เสียหายทั้งสี่แล้วจำเลยพูดว่าจะชำระหรือไม่ถ้าไม่ชำระมีเรื่องแน่ ผู้เสียหายทั้งสี่กลัวถูกทำร้ายจึงยอมชำระเงิน 1,000 บาท ให้จำเลยถือได้ว่าเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายทั้งสี่ให้ยอมให้เจ้าของบาร์ ได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้เสียหายทั้งสี่ จนผู้เสียหายทั้งสี่ซึ่งถูกข่มขืนใจยอมให้เงินค่าชมการแสดง ดังนี้แม้ว่าการกระทำของจำเลยจะสืบเนื่องมาจากการทวงค่าชมการแสดงที่ผู้เสียหายทั้งสี่ได้รับการบริการไปแล้วก็ตาม แต่จำเลยก็ไม่มีอำนาจบังคับให้ผู้เสียหายทั้งสี่ชำระเงินโดยไม่ชอบด้วยการขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อผู้เสียหายทั้งสี่เช่นนั้น จำเลยจึงมีความผิดฐานกรรโชก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขืนใจเรียกค่าบริการในสถานบันเทิง ถือเป็นกรรโชกทรัพย์
การที่จำเลยยืนยันจะให้ผู้เสียหายทั้งสี่ชำระเงินค่าชมการแสดงโดยพูดว่าถ้าไม่ชำระจะไม่ยอมให้ออกจากบาร์และสั่งคนปิดประตูบาร์กับเรียกพนักงานชายประมาณ 5-6 คน มายืนคุมเชิงรอบโต๊ะข้างหลังผู้เสียหายทั้งสี่ แล้วจำเลยพูดว่าจะชำระหรือไม่ ถ้าไม่ชำระมีเรื่องแน่ ถือเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายทั้งสี่ให้ยอมให้เจ้าของบาร์ได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้เสียหายทั้งสี่แล้ว แม้การกระทำนั้นจะสืบเนื่องมาจากการทวงค่าชมการแสดงที่ผู้เสียหายทั้งสี่ได้รับการบริการไปแล้ว แต่จำเลยก็ไม่มีอำนาจบังคับให้ผู้เสียหายทั้งสี่ชำระเงินโดยการขู่เข็ญด้วยวิธีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความ: การคิดคำนวณค่าบริการ, ค่าป่วยการ, และการกำหนดจำนวนเงินที่เหมาะสม
แม้โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยตกลงให้โจทก์เรียกค่าจ้างว่าความตามปริมาณและระยะเวลาการทำงาน แต่โจทก์ก็ได้แนบเอกสารท้ายฟ้องแสดงรายการค่าจ้างว่าความ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและค่าป่วยการเป็นเงินรวม 249,440 บาท ให้จำเลยทราบ จึงเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาตามฟ้อง ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น โจทก์มีตัวโจทก์เบิกความประกอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงสอดคล้องต้องกันสมเหตุสมผล มีน้ำหนักน่าเชื่อยิ่งกว่าพยานจำเลยซึ่งมีแต่เพียงพยานบุคคลเบิกความลอย ๆ โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน รูปคดีฟังได้ว่าจำเลยได้ตกลงว่าจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความแก้ต่างให้แก่จำเลย ค่าบริการเมื่อไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นค่าบริการอะไรในส่วนไหนศาลย่อมไม่กำหนดเงินในส่วนนี้ให้ สำหรับค่าสินจ้างว่าความที่โจทก์เรียกมาเป็นเงิน 200,000 บาท นั้น ปรากฏว่าในคดีที่จำเลยถูกธนาคารฟ้องมิใช่เป็นคดีที่มีปัญหายุ่งยากซับซ้อนมากนัก และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ว่าความโดยต้องซักถามพยานเป็นข้อยุ่งยากและโจทก์ต้องไปแสวงหาพยานหลักฐานโดยยากลำบากแต่อย่างใดสมควรกำหนดสินจ้างว่าความตามส่วนของงานที่ทำไปเป็นเงิน 80,000 บาทส่วนค่าป่วยการนั้นตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า"ป่วยการ" หมายถึงเสียงานเสียการ และ "ค่าป่วยการ" หมายถึงเรียกค่าชดเชยการงานเวลาที่เสียไปการที่โจทก์เดินทางไปว่าความต่างจังหวัดเป็นการเดินทางไปทำงานในหน้าที่ของทนายความโดยตรงจะเรียกว่าเป็นการเสียงานเสียเวลาไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์: โจทก์เป็นผู้ค้าหรือไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 165(7)
โจทก์เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2497 มีอำนาจตามมาตรา 9แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ดำเนินกิจการได้หลายประการ การที่โจทก์ให้จำเลยใช้บริการโทรศัพท์แล้วคิดค่าบริการตามอัตราที่โจทก์กำหนด ถือได้ว่า โจทก์เป็นผู้ค้ำรับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับจากการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7) ซึ่งโจทก์จะต้องเรียกร้องเอาค่าบริการภายใน 2 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าบริการคดีนี้เกิน 2 ปี จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2386/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใช้ไฟฟ้า: ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระค่าบริการตามจำนวนที่ใช้จริง แม้เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่
จำเลยเป็นผู้ขอใช้กระแสไฟฟ้าของโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระค่ากระแสไฟฟ้าตามจำนวนที่ใช้ไปเต็มจำนวน เมื่อปรากฏว่ามีการต่อสายไฟฟ้าเข้ามาตรวัดกระแสไฟฟ้าของจำเลยเฟสที่ 3 ขาเข้าและขาออกสลับกัน เป็นเหตุให้มาตราวัดกระแสไฟฟ้าหมุนช้าไปกว่าปกติร้อยละ65.5 แม้จะเกิดจากการกระทำผิดพลาดของพนักงานโจทก์เอง แต่จำเลยก็ได้ใช้กระแสไฟฟ้าไปเต็มจำนวน จำเลยจึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้กระแสไฟฟ้าของโจทก์อยู่ ต้องรับผิดชำระค่ากระแสไฟฟ้าให้โจทก์เต็มจำนวนตามข้อตกลง เมื่อโจทก์เรียกให้จำเลยชำระค่ากระแสไฟฟ้าขาดจำนวนไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระเพิ่มเติมย้อนหลังให้ครบถ้วนได้ จำเลยเป็นผู้ยื่นคำร้องขอใช้กระแสไฟฟ้าต่อโจทก์ในการนี้จำเลยยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อโจทก์ โดยต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้กระแสไฟฟ้า ต้องชำระค่ากระแสไฟฟ้าตามจำนวนที่โจทก์เรียกเก็บ โจทก์ได้ติดตั้งมาตรวัดกระแสไฟฟ้าให้จำเลยเพื่อใช้วัดกระแสไฟฟ้าประกอบการคิดค่ากระแสไฟฟ้าแสดงว่าโจทก์คิดค่ากระแสไฟฟ้าตามหน่วยการใช้กระแสไฟฟ้าตามมาตรวัดกระแสไฟฟ้าและอัตราค่ากระแสไฟฟ้าที่จำเลยสามารถตรวจสอบดูได้มิใช่ว่าโจทก์คิดค่ากระแสไฟฟ้ามากน้อยเพียงใดก็ได้ตามความพอใจของโจทก์ ข้อสัญญาที่ว่าจำเลยจะต้องชำระค่ากระแสไฟฟ้าตามจำนวนที่โจทก์เรียกเก็บจึงมีความหมายเพียงว่า เมื่อโจทก์เรียกเก็บค่ากระแสไฟฟ้าแล้ว จำเลยต้องชำระค่ากระแสไฟฟ้านั้น มิใช่ข้อสัญญาที่กำหนดให้โจทก์เรียกเก็บค่ากระแสไฟฟ้าตามความพอใจ ไม่ใช่ข้อสัญญาที่ทำให้ประชาชนเสียหายไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงใช้บังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ: ผู้ให้บริการถือเป็นผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) มีอายุความ 2 ปี
การที่โจทก์จัดให้มีบริการพูดโทรศัพท์ติดต่อไปต่างประเทศและเรียกเก็บเงินค่าบริการในการพูดโทรศัพท์นั้น ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำงานต่าง ๆ และเรียกร้องเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7) มีอายุความ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ: การจัดบริการเป็น 'การค้า' ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) ทำให้อายุความ 2 ปี
โจทก์จัดให้มีบริการพูดวิทยุโทรศัพท์ติดต่อไปต่างประเทศและเรียกเก็บเงินค่าบริการ โจทก์จึงเป็นผู้ค้าในการรับทำการงานตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) สิทธิเรียกร้องค่าบริการ จึงมีอายุความ 2 ปี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเช่าโทรศัพท์และค่าบริการ: องค์กรโทรศัพท์มีฐานะเป็นผู้ค้า
การที่โจทก์จัดให้มีบริการโทรศัพท์และเรียกเก็บเงินค่าเช่าเครื่องโทรศัพท์กับค่าใช้บริการโทรศัพท์ ถือได้ว่าโจทก์เป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เรียกเอาค่าเช่าและเป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้าง อันจะพึงได้รับในการนั้น สิทธิเรียกร้องค่าเช่าเครื่องโทรศัพท์และค่าใช้บริการโทรศัพท์ของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา 165(6),(7).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ: โจทก์เป็นผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) อายุความ 2 ปี
โจทก์เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นโดย พ.ร.บ. การสื่อสารฯ ให้บริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่ประชาชน เมื่อผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดโทรศัพท์จากประเทศ ไทย ไปยังต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์ ผู้ใช้บริการพูดโทรศัพท์จะต้องเสียค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ตามอัตราที่โจทก์กำหนดไว้ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์จึงเป็นสินจ้าง กรณีดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าโดยรับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าบริการโทรศัพท์: ผู้ให้บริการสาธารณะเป็นผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7)
โจทก์เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 เพื่อให้บริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่ประชาชน เมื่อผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดโทรศัพท์จากประเทศไทยไปยังต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์ ผู้ใช้บริการพูดโทรศัพท์จะต้องเสียค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ตาม อัตราที่โจทก์กำหนดไว้ ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์จึงเป็นสินจ้างถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าโดยรับทำการงาน เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7)ซึ่งมีอายุความ 2 ปี
of 10