พบผลลัพธ์ทั้งหมด 155 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3346/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาก่อนสมรสต้องจดแจ้งในทะเบียนสมรสจึงมีผล หากไม่จดแจ้ง สัญญาเป็นโมฆะและไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วน
สัญญาก่อนสมรสที่ผู้ร้องและจำเลยทำขึ้นมีข้อความว่า ให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรสตกเป็นสินสมรสนั้น เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องและจำเลยมิได้จดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือมิได้ทำสัญญาก่อนสมรสเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ สัญญาก่อนสมรสดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466เมื่อทรัพย์สินดังกล่าวถูกโจทก์ยึดขายทอดตลาดชำระหนี้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วนของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2741/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดของผู้เยาว์: การแก้ไขบกพร่องด้านความสามารถของผู้แทนโดยชอบธรรมหลังจดทะเบียนสมรส
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกกระทำละเมิดได้ยื่นฟ้องคดีโดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ฟ้องคดีแทน แม้ขณะยื่นฟ้องบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้อง ซึ่งอาจแก้ไขให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้เมื่อบิดามารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นแล้วเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมหมดไป การฟ้องคดีของโจทก์จึงสมบูรณ์.
(อ้างฎีกาที่ 1608/2509 ประชุมใหญ่)
(อ้างฎีกาที่ 1608/2509 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2741/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้แทนโดยชอบธรรม: การแก้ไขข้อบกพร่องหลังจดทะเบียนสมรส
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกกระทำละเมิดได้ยื่นฟ้องโดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ฟ้องคดีแทน แม้ขณะยื่นฟ้องบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้องซึ่งอาจแก้ไขให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้ ดังนั้นเมื่อบิดามารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นแล้วเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมหมดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2741/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของการฟ้องคดีโดยผู้แทนโดยชอบธรรมหลังจดทะเบียนสมรส
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกกระทำละเมิดได้ยื่นฟ้องคดีโดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ฟ้องคดีแทน แม้ขณะยื่นฟ้องบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้อง ซึ่งอาจแก้ไขให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้เมื่อบิดามารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นแล้วเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมหมดไป การฟ้องคดีของโจทก์จึงสมบูรณ์. (อ้างฎีกาที่ 1608/2509 ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยของบุตรที่เกิดในไทยจากมารดาที่มีสัญชาติไทยและบิดาเป็นชาวต่างชาติ กรณีมิได้จดทะเบียนสมรส
นางป.มารดาโจทก์ทั้งสามเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานีจึงได้สัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2456 มาตรา 3 และนางป.เป็นบุตรคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง นางป.จึงไม่ถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 เมื่อนางป.คนสัญชาติไทยอยู่กินฉันสามีภรรยากับ ก. คนญวนอพยพโดยไม่จดทะเบียนสมรสโจทก์ทั้งสามจึงมีบิดาไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ทั้งสามเกิดที่อำเภอเมืองอุบลราชธานีย่อมได้สัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 7(3) บุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทยจะถูกถอนสัญชาติไทยโดยเหตุที่บิดาเป็นคนต่างด้าวตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 337 นั้น จะต้องปรากฏว่าคนต่างด้าวนั้นเป็นบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น เมื่อนาง ป. มารดาของโจทก์ทั้งสามไม่ใช่คนต่างด้าวและนาย ก. ก็มิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ทั้งสาม กรณีจึงไม่ต้องด้วยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337อันจะเป็นผลให้โจทก์ทั้งสามถูกถอนสัญชาติไทย โจทก์ทั้งสามจึงยังคงมีสัญชาติไทย เมื่อ พ.ศ. 2522 มารดาโจทก์ทั้งสามได้ขอให้เจ้าหน้าที่เพิกถอนชื่อโจทก์ทั้งสามออกจากทะเบียนบ้านคนญวนอพยพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่จัดการให้โดยโต้แย้งว่าโจทก์ทั้งสามเป็นคนต่างด้าวเช่นนี้ แม้จำเลยเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ากิจการคนญวนอพยพเมื่อเดือนพฤศจิกายน2525 ตลอดมาถึงวันฟ้องก็ตาม ตราบใดที่โจทก์ทั้งสามมีสัญชาติไทยแต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านคนญวนอพยพได้ให้จำเลยถอนชื่อออกแต่จำเลยไม่จัดการให้ย่อมถือได้ว่าโจทก์ทั้งสามถูกโต้แย้งสิทธิตลอดมา จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะหัวหน้าสำนักงานกิจการคนญวนอพยพจังหวัดอุบลราชธานี ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1) ให้ดุลพินิจศาลอุทธรณ์ที่จะพิพากษายกคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้วส่งสำนวนคืนไปเพื่อให้พิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่สุดแต่ว่าจะมีเหตอันสมควรหรือไม่ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้วศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาหรือมีคำสั่งเองได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการไม่จดทะเบียนสมรส แม้ไม่ใช่สัญญาหมั้น ก็มีผลผูกพันตามกฎหมาย
โจทก์ผู้เยาว์ยินยอมให้จำเลยที่ 1 กระทำชำเราโดยความสมัครใจซึ่งแม้ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อบิดาโจทก์ทราบเรื่องได้ไปร้องเรียนต่อกำนันท้องที่ จำเลยที่ 1 ก็ได้ทำสัญญากับโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 จะจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ หากผิดสัญญายินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 50,000 บาท และจำเลยที่ 2ได้ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของจำเลยที่ 1 ด้วยต่อมาจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาไม่จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ แม้มิใช่เป็นกรณีผิดสัญญาหมั้น โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5052/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งเท็จเพื่อจดทะเบียนสมรสซ้ำ และอำนาจฟ้องของผู้ถูกกระทำ
โจทก์ไม่ทราบว่าจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับน้องสาวของโจทก์ไว้ก่อนแล้ว การที่จำเลยแจ้งต่อนายทะเบียนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ให้จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสาร ราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐานว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรส ณ ที่ใดมาก่อนเพื่อขอจดทะเบียนสมรส กับโจทก์ นายทะเบียนจึงจดทะเบียนสมรสให้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5052/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งเท็จเพื่อจดทะเบียนสมรสซ้ำซ้อน โจทก์มีอำนาจฟ้องฐานทำให้ผู้อื่นกระทำความผิด
โจทก์ไม่ทราบว่าจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับน้องสาวของโจทก์ไว้ก่อนแล้ว การที่จำเลยแจ้งต่อนายทะเบียนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ให้จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสาร ราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐานว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรส ณ ที่ใดมาก่อนเพื่อขอจดทะเบียนสมรส กับโจทก์ นายทะเบียนจึงจดทะเบียนสมรสให้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3306/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อมูลเท็จเพื่อจดทะเบียนสมรส และการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมีชื่อว่า นายกี เหวี้ยน แต่โจทก์แจ้งต่อเจ้าพนักงานผู้จดทะเบียนสมรสว่าโจทก์ชื่อนายสง่า แสงจันทร์ โดยมีเจตนาจะให้เจ้าพนักงานและบุคคลทั่วไปหลงผิดว่าโจทก์เป็นคนที่มีสัญชาติไทยอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย ดังนี้โจทก์จะขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานแก้ไขทะเบียนสมรสว่าโจทก์ชื่อนายกี เหวี้ยน ย่อมเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3306/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อมูลเท็จเพื่อจดทะเบียนสมรสและใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมีชื่อ ว่านายกีเหวี้ยน แต่โจทก์แจ้งต่อพนักงานผู้จดทะเบียนสมรสว่าโจทก์ชื่อ นายสง่า แสงจันทร์ โดยมีเจตนาจะให้เจ้าพนักงานและบุคคลทั่วไปหลงผิดว่าโจทก์เป็นคนที่มีสัญชาติไทยอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานแก้ไขทะเบียนสมรสว่าโจทก์ชื่อ นายกีเหวี้ยน ย่อมเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตาม ป.พ.พ. มาตรา 5 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.