พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: ภยันตรายใกล้จะถึงและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ให้จำคุก 12 ปี ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 72 ให้จำคุก 4 ปี ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ขณะที่ผู้ตายกำลังจับมือถือแขนคู่หมั้นของจำเลยอยู่นั้น พอผู้ตายเห็นจำเลย ผู้ตายก้มลงหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ ๆ มีดนี้มีคมยาวประมาณ 12 นิ้ว ด้ามยาว 12 นิ้ว เป็นมีดขนาดเดียวกับที่จำเลยถือติดตัวมา คดีมีเหตุผลแสดงว่าผู้ตายจะทำร้ายจำเลยถึงตายได้ในทันทีที่ผู้ตายหยิบมีดได้ แม้มือผู้ตายยังอยู่ห่างมีดประมาณ 1 คืบก็ตาม บุคคลที่อยู่ในฐานะอย่างจำเลยย่อมเข้าใจว่าผู้ตายจะทำร้ายตนแน่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ฟันผู้ตายไปที่ซอกคอ 1 ที เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่จะเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ขณะที่ผู้ตายกำลังจับมือถือแขนคู่หมั้นของจำเลยอยู่นั้น พอผู้ตายเห็นจำเลย ผู้ตายก้มลงหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ ๆ มีดนี้มีคมยาวประมาณ 12 นิ้ว ด้ามยาว 12 นิ้ว เป็นมีดขนาดเดียวกับที่จำเลยถือติดตัวมา คดีมีเหตุผลแสดงว่าผู้ตายจะทำร้ายจำเลยถึงตายได้ในทันทีที่ผู้ตายหยิบมีดได้ แม้มือผู้ตายยังอยู่ห่างมีดประมาณ 1 คืบก็ตาม บุคคลที่อยู่ในฐานะอย่างจำเลยย่อมเข้าใจว่าผู้ตายจะทำร้ายตนแน่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ฟันผู้ตายไปที่ซอกคอ 1 ที เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่จะเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบธรรมในการงดสืบพยานเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำตัวพยานมาศาลได้
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ พยานโจทก์ 2 ปากไม่มาศาล โจทก์ขอเลื่อน ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ประวิงความ ให้งดสืบพยานโจทก์นั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับแล้ว เหตุที่ร้อยตรีทวีปมาศาลไม่ได้ อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดทั้งสองครั้งศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบ ทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ตามพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการประวิงคดีที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้น ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 156/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปิดทำนบเพื่อประโยชน์เกษตรกรรม ไม่ถือเป็นการขัดขวางการประมง หากกระทำโดยชอบธรรมและจำเป็น
โจทก์ประมูลทำการประมงในคลองที่พิพาทได้ จำเลยและราษฎรอีกมากเป็นเจ้าของนาหลายพันไร่ต้องอาศัยใช้น้ำในคลองนี้ทำนา ตอนปากคลองมีทำนบปิดกั้นน้ำไว้เพื่อใช้ทำนา ถัดออกไปเป็นที่ตั้งจิบสำหรับจับปลาของโจทก์ เมื่อน้ำในคลองเริ่มลดลง ราษฎรเจ้าของนายื่นคำร้องขอให้เปิดทำนบเพื่อกักน้ำไว้หล่อเลี้ยงต้นข้าวก่อนนายอำเภอสั่งให้ปิดทำนบ ราษฎรเกรงว่าถ้ารอช้าต้นข้าวจะเสียหาย จำเลยกับเจ้าของนาหลายคนจึงช่วยกันปิดทำนบเสีย น้ำจึงไม่ไหลไปยังจิบของโจทก์ โจทก์จับปลาไม่ได้ การที่จำเลยปิดทำนบนี้จะรอให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งอาจจะไม่ทันการ และเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์แก่กสิกรรม กฎหมายให้ปิดเองได้ ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 22 ซึ่งมีมาตรา 10 วรรค 2 สนับสนุนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การตอบโต้เพื่อป้องกันภยันตรายต่อตนเองและผู้อื่นจากเหตุประทุษร้าย
น้องชายจำเลยชกต่อยกับหลานผู้ตายและน้องภริยาผู้ตายผู้ตายเป็นบุคคลภายนอกมิได้ร่วมชกต่อยด้วย ถือท่อนเหล็กเข้าไปตีทำร้ายน้องชายจำเลย จำเลยซึ่งมิได้ร่วมชกต่อยด้วยจึงวิ่งเข้าไปกันมิให้ผู้ตายตีน้องชายจำเลย ผู้ตายเงื้อท่อนเหล็กจะตีจำเลยๆ จึงเสือกมีดแทงไปทันทีถูกผู้ตาย 1 ที ถึงแก่ความตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การกระทำเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากคนร้ายบุกรุก
ผู้ตายเป็นคนร้ายขึ้นไปทำการลักทรัพย์บนเรือนจำเลย จำเลยเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16 ปี อยู่เฝ้าบ้านตามลำพัง ได้พบคนร้านในห้องเรือนมีอาวุธมีดปลายแหลมถือ - ขู่จะทำร้ายทั้งเก็บทรัพย์บนเรือนพยายามจะพาเอาไปด้วย จำเลยจึงเอาพร้าฟันผู้ตายซึ่งเป็นคนร้ายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: การรื้อรั้วโดยชอบธรรมของผู้ครอบครองที่ดิน เมื่อผู้อื่นบุกรุกโดยไม่มีสิทธิ
โจทก์เข้ามาทำรั้วไว้ในที่ดินของจำเลยโดยไม่มีอำนาจนายอำเภอสั่งให้โจทก์รื้อโจทก์ก็เพิกเฉยเสียจำเลยจึงรื้อรั้วเสียเองเป็นการใช้สิทธิตามควรแก่เหตุ ไม่เป็นละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: สถานการณ์คับขัน ผู้ตายมีอาวุธ การยิงเพื่อป้องกันชีวิต
ผู้ตายถือปืนวิ่งไล่ติดตามจำเลยมาในลักษณะอาการซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้าย จนได้ร้องบอกกล่าวว่าคนร้ายไล่ยิงตนเช่นนี้ ย่อมทำให้จำเลยคิดเห็นไปว่าผู้ตายมีเจตนาจะฆ่าจำเลยมาแต่แรกแล้ว เมื่อจำเลยหนีหลบไปแล้วกลับมาเจอผู้ตายเข้าอีกในสถานที่คับขัน ห่างกันเพียงประมาณ 7 วา ขณะนั้นผู้ตายมีปืนติดตัวอยู่ถึง 2 กระบอกถ้าจะวิ่งหนีก็อาจจะถูกผู้ตายยิงตายในเวลาฉุกละหุกกระทันหันเช่นนี้ จำเลยได้ตัดสินใจยิงไปก่อนที่ปืนของผู้ตายจะลั่นมาถูกจำเลยจะตำหนิว่าไม่ถูกต้อง ถ้าผู้ใดตกอยู่ในสถานการณ์คับขันอย่างจำเลยและคิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายจะยิงจำเลยทันทีทันใดโดยจำเลยไม่มีทางหลบหนีดังคดีนี้แล้ว การที่จำเลยตัดสินใจยิงผู้ตายเสียก่อนเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยพอสมควรแก่เหตุเพื่อให้พ้นภยันตรายซึ่งกำลังเผชิญหน้าจำเลยอยู่ในขณะนั้นจะมัวรอให้ผู้ตายยกปืนจ้องจะยิงจำเลยเสียก่อนแล้วจึงยิงโต้ตอบอาจไม่ทันได้ป้องกันชีวิตของตนได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าใจสิทธิโดยชอบธรรม: เหตุยกเว้นความผิดฐานบุกรุก
ฝ่ายโจทก์และจำเลยต่างแย่งเพื่อเข้าอยู่ห้องรายพิพาทโดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ได้ทำสัญญามาจากผู้มีอำนาจให้เช่าจนคดีถึงฟ้องร้องกันในศาล ยังไม่ทราบว่าใครจะมีสิทธิดีกว่ากัน ตามรูปคดีมีเหตุผลทำให้จำเลยเข้าใจว่าฝ่ายจำเลยมีสิทธิในห้องพิพาทที่จะเอาคืนจากโจทก์ จำเลยจึงปิดประตูหน้าห้องหลังห้องพิพาท เพื่อไม่ให้โจทก์เข้าอยู่ ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการบังอาจอันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การใช้มีดเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากผู้มีรูปร่างใหญ่กว่า
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่า ผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียง-กับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีโทษ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองโดยชอบธรรมเมื่อเจ้าพนักงานกระทำนอกหน้าที่ในการจับกุม
กรมการอำเภอตั้งกำนันตรวจโรงฆ่าสัตว์ และทำการจับกุมผู้ฆ่าสุกร โดยไม่ได้รับอนุญาต กำนันไปพบผู้หาบของมาสงสัยว่าจะทำการขายเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต จะเข้าจับกุมผู้นั้นหนีเข้าบ้าน กำนันตามเข้าไปเพื่อจะจับ จำเลยหยิบมีดมาเงื้อจะทำร้าย พอดีตำรวจจับจำเลย ดังนี้ ไม่มีเหตุถือว่า เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และคดีนี้กำนันไม่มีอำนาจเข้าไปจับในห้อง จึงเป็นการนอกหน้าที่ จำเลยทำการป้องกันได้ ไม่มีความผิด