พบผลลัพธ์ทั้งหมด 79 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4550/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยได้ หากมีพยานหลักฐานสนับสนุนการให้การสมัครใจและเป็นความจริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนอาจใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบให้ฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20 หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่าง ๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20 หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่าง ๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4550/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบยืนยันความสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนอาจใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบให้ฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่างๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิด ฐานปล้นทรัพย์
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่างๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิด ฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน – พยานบอกเล่าในชั้นสอบสวน ศาลใช้ดุลพินิจได้หากมีเหตุผลกว่า
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 ซึ่งนำมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญาโดยอาศัยมาตรา 15 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้นแม้จะบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบุคคลใด เว้นแต่บุคคลนั้นเป็นผู้ที่ได้เห็นได้ยินหรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรงก็ตามแต่มีข้อยกเว้นต่อไปว่าความในข้อนี้ให้ใช้ได้ต่อเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายโดยชัดแจ้งหรือคำสั่งของศาลว่าให้เป็นอย่างอื่นจึงมิได้ห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่าเสียทีเดียวฉะนั้นคำให้การชั้นสอบสวนของพยานที่กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลยิ่งกว่าคำให้การในชั้นศาล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3407/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การพยานชั้นสอบสวนประกอบวิถีกระสุนเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
คำให้การพยานชั้นสอบสวนไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไม่ให้รับฟังประกอบเป็นข้อพิจารณาของศาล ศาลรับฟังมาประกอบวิถีกระสุนจากบาดแผลของผู้ตายว่าจำเลยเป็นผู้ยิงผู้ตายถึงแก่ความตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าเชื่อถือพยานหลักฐาน: การเบิกความไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและชั้นศาล
ประจักษ์พยานโจทก์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งเมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้พยานดูตัวพยานก็ยืนยันอีกว่าจำเลยเป็นคนร้ายและลงชื่อไว้ในบันทึกการจับกุมแต่มาชั้นศาล พยานกลับเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่าตอนพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้ดูนั้น พยานดูแล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า จำเลยคล้ายๆคนร้าย เห็นได้ชัดว่าพยานเบิกความชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย คำเบิกความของพยานในชั้นศาลน่าจะไม่เป็นความจริง ส่วนคำยืนยันและคำให้การชั้นสอบสวนของพยานนั้น โจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่า ชั้นสอบสวนพยานได้ยืนยันและให้การดังกล่าวน่าจะเป็นความจริงและรับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2377/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยที่ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน แต่ปฏิเสธในชั้นพิจารณาคดี
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีในชั้นพิจารณา ดังนี้ ไม่ควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่ควรลดโทษให้หนึ่งในสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2813-2814/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนและบันทึกนำชี้สถานที่เกิดเหตุ ไม่เพียงพอลงโทษจำเลย หากจำเลยปฏิเสธในชั้นพิจารณาคดี
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน คงมีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนและบันทึกนำชี้สถานที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ อันเป็นพยานประกอบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาคดี ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานในชั้นสอบสวนมีน้ำหนักน้อยกว่าพยานหลักฐานในชั้นศาล ศาลฎีกายกฟ้อง
คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า จะรับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาล เมื่อตามคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำความผิด โจทก์คงมีแต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นพยานจึงไม่พอฟังลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ประกอบพยานแวดล้อมได้ แม้ไม่มีพยานเบิกความต่อศาลโดยตรง
คำให้การชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า จะรับฟังดังคำพยานที่เบิกความต่อศาลไม่ได้ แต่อาจฟังว่าเคยให้การไว้เช่นนั้นเพื่อพิเคราะห์สอดส่องถึงข้อเท็จจริงอย่างเช่นเอกสารทางราชการที่ได้ทำขึ้นจากถ้อยคำของบุคคล(อ้างฎีกาที่ 51/2498)
คดีอาญาเรื่องปล้นทรัพย์ จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธชั้นศาล โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานและพยานรายทางอื่นมาสืบ คงมีคำให้การชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การรับสารภาพไว้โดยสมัครใจและนำชี้ที่เกิดเหตุให้ถ่ายภาพไว้กับมีตำรวจผู้จับและพนักงานสอบสวนมาสืบประกอบว่าได้จับกุมจำเลยทั้งสามได้ในที่แห่งเดียวกันและได้สร้อยคอของผู้เสียหายจากจำเลยที่ 2 ทั้งในชั้นสอบสวนผู้เสียหายได้ชี้ตัวจำเลยทั้งสามได้ถูกต้อง ดังนี้ ศาลรับฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามประกอบพยานแวดล้อมดังกล่าวลงโทษจำเลยทั้งสามได้
คดีอาญาเรื่องปล้นทรัพย์ จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธชั้นศาล โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานและพยานรายทางอื่นมาสืบ คงมีคำให้การชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การรับสารภาพไว้โดยสมัครใจและนำชี้ที่เกิดเหตุให้ถ่ายภาพไว้กับมีตำรวจผู้จับและพนักงานสอบสวนมาสืบประกอบว่าได้จับกุมจำเลยทั้งสามได้ในที่แห่งเดียวกันและได้สร้อยคอของผู้เสียหายจากจำเลยที่ 2 ทั้งในชั้นสอบสวนผู้เสียหายได้ชี้ตัวจำเลยทั้งสามได้ถูกต้อง ดังนี้ ศาลรับฟังคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามประกอบพยานแวดล้อมดังกล่าวลงโทษจำเลยทั้งสามได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1764/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องเบิกความเท็จต่อศาล: การบรรยายฟ้องต้องระบุความขัดแย้งระหว่างคำเบิกความกับคำให้การในชั้นสอบสวน
บรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นพยานโจทก์ในคดีปล้นทรัพย์เบิกความเท็จต่อศาลว่าจำคนร้ายไม่ได้ อันเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดี ซึ่งความจริงจำเลยเคยให้การในฐานะพยานในชั้นสอบสวนว่าจำคนร้ายได้ ดังนี้ แม้จะมิได้กล่าวให้ปรากฏชัดว่าความจริงเป็นดังที่จำเลยเบิกความหรือเป็นดังที่จำเลยให้การ ก็ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าโจทก์กล่าวอ้างว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นความเท็จ ส่วนความจริงเป็นดังที่จำเลยได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนนั่นเอง และในคดีอาญาเรื่องปล้นทรัพย์ คำเบิกความของพยานในข้อที่ว่าจำคนร้ายได้หรือไม่นั้น ย่อมเป็นข้อสำคัญในคดี คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 ที่สมบูรณ์แล้ว