คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: การตีความ 'ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง' ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ตามความใน พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8 นั้นหมายความว่าถ้าผู้ใดได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วตั้งแต่ 2 ครั้งหรือกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ก็เรียกว่าไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง
จำเลยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อมาต้องคำพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายในคดีนี้ขึ้นอีก กรณีจึงเข้าเกณฑ์ความผิดตาม พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8 ด้วย (ฎีกาที่ 714/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: การตีความ 'ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง' ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ตามความใน พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8 นั้นหมายความว่าถ้าผู้ใดได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วตั้งแต่ 2 ครั้งหรือกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ก็เรียกว่าไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง
จำเลยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อมาต้องคำพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายในคดีนี้ขึ้นอีก กรณีจึงเข้าเกณฑ์ความผิดตาม พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 มาตรา 8 ด้วย (ฎีกาที่ 714/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษซ้ำตามมาตรา 74 ต้องเป็นความผิดในหมวดเดียวกัน ศาลพิพากษาลงโทษตามบทหนักบทเดียว
ความผิดที่จะเป็นเหตุให้เพิ่มโทษเป็นทวีคูณตามความใน มาตรา 74 นั้น จะต้องเป็นความผิดที่อยู่ในประเภท(หมวด)เดียวกับความผิดในครั้งก่อน
จำเลยเคยต้องโทษฐานลักทรัพย์พ้นโทษแล้วมากระทำผิดครั้งนี้ขึ้นอีกคือลักทรัพย์และหน่วงเหนี่ยวเพื่อเรียกสินไถ่สำหรับความผิดครั้งนี้แม้ศาลพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 294 ซึ่งอยู่ในหมวดว่าด้วยการประทุษร้ายต่อทรัพย์และมาตรา 270 ซึ่งอยู่ในหมวดว่าด้วยการทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแต่เมื่อศาลให้ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 270 ซึ่งเป็นบทหนักแต่มาตราเดียวดังนี้ความผิดของจำเลยในครั้งนี้จึงเป็นความผิดซึ่งปรับอยู่ในหมวดว่าด้วยการทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพเท่านั้นและเป็นความผิดคนละหมวดกับความผิดครั้งก่อนซึ่งอยู่ในหมวดว่าด้วยการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยตาม มาตรา 74 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษจำคุกซ้ำ: 'ได้รับโทษจำคุกมาก่อน' หมายถึงได้รับโทษจริง ไม่ใช่แค่รอการลงโทษ
จำเลยเคยต้อคำพิพากษาให้จำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษไว้ แล้วกลับมากระทำผิดอีกภายในกำหนดเวลา ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลยพินิจให้รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยอีกได้
คำว่า "ได้รับโทษจำคุกมาก่อน" ใน ม.41 ที่แก้ไขใหม่หมายความว่า จำเลยต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้ว หาใช่เพียงแต่ถูกคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษจำคุกนั้นไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันฯ สามารถถูกลงโทษกักกันซ้ำได้ แม้ยังไม่พ้นโทษกักกันก่อน
ผู้ที่มีสันดานเป็นผู้ร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันฯ มาตรา 6 นั้นเพียงแต่เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษกักกันมาแล้วเท่านั้น ไม่จำต้องพ้นโทษกักกันไปแล้ว มากระทำผิดขึ้นอีก เช่นที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 72 ไม่และเมื่อเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายแล้ว ตามมาตรา 9 แห่ง พระราชบัญญัติกักกันฯลฯก็ได้บัญญัติไว้ตายตัวให้ศาลลงโทษกักกันศาลจะใช้ดุลพินิจงดลงโทษกักกันเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้กระทำผิดซ้ำถูกพิจารณาว่ามีสันดานเป็นผู้ร้าย และถูกกักกันตามกฎหมาย
จำเลยทำผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวมาถึง 3 ครั้ง ระหว่างพ.ศ.2480 ถึง 2489 ดังนี้นับว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ควรลงโทษกักกันจำเลยแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน เมื่อพ้นโทษแล้วให้กักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไม่เพิ่มโทษกักกันดังนี้ถือว่าแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษซ้ำ: เลือกโทษหนักได้ทางเดียว
การที่จำเลยกระทำผิดซ้ำครั้งเดียวต้องด้วยบทกฎหมายที่ให้เพิ่มโทษ 2 ทาง ศาลต้องเลือกเพิ่มตามกฎหมายที่เป็นโทษหนัก จะเพิ่ม 2 หนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษซ้ำจากความผิดการพนัน: พ.ร.บ.การพนันเฉพาะเจาะจงกว่ากฎหมายอาญา
การเพิ่มโทสผู้กะทำผิดตามไม่เข็ดหลาบตาม พ.ร.บ.การพนันนั้น จะไข้มาตรา 72 แห่งกดหมายลักสนะอาญาเพิ่มโทสไม่ได้
อ้างดีกาที่ 824/2482

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษกักกันซ้ำ แม้โทษกักกันเดิมยังไม่สิ้นสุด กรณีผู้กระทำผิดซ้ำ
การลงโทษกักกันนั้น แม้จำเลยเคยต้องโทษกักกันมาก่อนและยังไม่พ้นโทษ ก็ลงโทษกักกันได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4089/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอให้งดบังคับคดีซ้ำ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144 วรรคหนึ่ง หากประเด็นเคยถูกวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดคดีเกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามคำร้องขอให้งดการบังคับคดีแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 วรรคหนึ่ง การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 มายื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีอีกโดยอ้างเหตุว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของจำเลยที่ 3 และโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามมูลหนี้คดีนี้เต็มจำนวนแล้ว อันเป็นการอ้างเหตุเดิม แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 จะอ้างว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้ระงับไปแล้วก็ตาม แต่ข้ออ้างดังกล่าวเป็นการอ้างเพื่อให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามคำพิพากษาเช่นเดียวกับคำร้องขอให้งดการบังคับคดีครั้งก่อน ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดคดีไปแล้ว กรณีจึงต้องด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 144 วรรคหนึ่ง ที่ห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว คำร้องขอให้งดการบังคับคดีของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องห้ามตามบทมาตราดังกล่าว
of 5