คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10751/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม – ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – คำพิพากษาเกินฟ้อง – อำนาจศาลวินิจฉัยความสงบเรียบร้อย
ฎีกาของจำเลยทั้งสองล้วนคัดลอกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองแบบคำต่อคำ เว้นแต่มีการแก้ไขชื่อของศาลจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 เป็นศาลฎีกา เพื่อให้ตรงตามความจริงเท่านั้น ฎีกาของจำเลยทั้งสอง จึงมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ว่าไม่ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนอย่างไร และควรวินิจฉัยอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินครึ่งหนึ่งและขอให้จำเลยที่ 1 โอนที่ดินให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมจดทะเบียนโอนที่ดิน ระหว่างจำเลยทั้งสองเฉพาะส่วนของโจทก์สองในสามส่วน จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 142 ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246, 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4642/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง การประเมินค่าเสียหายต้องระบุข้อผิดพลาดในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างชัดเจน
โจทก์ฎีกาอ้างว่า โจทก์ได้ประเมินราคาทรัพย์เสียหายโดยมีหลักฐานเรื่องความเสียหายชัดเจนนอกจากนี้กระทรวงการคลังได้วางหลักเกณฑ์ ไว้ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ส่วนราชการชนะคดีไม่เต็มฟ้องต้องยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาต่อไป ข้อความดังกล่าวมิได้ระบุให้แจ้งชัดว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในส่วนใดมีข้อวินิจฉัยผิดพลาดคลาดเคลื่อนอย่างไร และที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง แม้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นจะรับรองมีเหตุสมควรที่โจทก์จะฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่อาจรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาได้เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – จำเลยไม่ได้โต้แย้งเหตุผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างเฉพาะเจาะจง
จำเลยฎีกาโดยคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาทั้งสิ้น มิได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอ้างอิงให้เห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ทั้ง ๆ ที่เหตุผลในคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นต่างกับเหตุผลในคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 แม้จำเลยจะมีคำขอท้ายฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิจารณาและพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก็ไม่อาจถือเป็นคำคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15116/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง: จำเลยไม่ได้โต้แย้งเหตุผลใหม่ของศาลอุทธรณ์ ทำให้ฎีกาไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด
ฎีกาของจำเลยคัดลอกข้อความมาจากอุทธรณ์ของจำเลยโดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งได้วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ด้วยเหตุผลอื่นที่แตกต่างจากเหตุผลของศาลชั้นต้นว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3530-3531/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง: ผู้ร้องไม่โต้แย้งเหตุผลที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ข้อความในฎีกาฉบับแรกตั้งแต่หน้าที่ 3 ย่อหน้าที่ 2 จนถึงหน้าสุดท้าย กับข้อความในฎีกาฉบับที่สองตั้งแต่หน้าที่ 3 ย่อหน้าที่ 2 จนถึงหน้าสุดท้าย ล้วนแต่เป็นข้อความเดียวกันทั้งสิ้น โดยฎีกาของผู้ร้องคัดค้านทั้งสองฉบับไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ด้วยเหตุที่ไม่รับอุทธรณ์ทั้งสองฉบับของผู้ร้องคัดค้านไว้วินิจฉัยนั้นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร ที่ถูกควรเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง (เดิม) ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 4