คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดำเนินการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน: ไม่ใช่โมฆะ หากมีเจตนาทำสัญญาและดำเนินการจดทะเบียน
ฎีกาที่ว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นโมฆะเสียเปล่า จะฟ้องร้องบังคับมิได้นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และมิได้ยกขึ้นว่าในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีการับวินิจฉัยให้
โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายที่ดินกัน โดยตกลงกันว่าจำเลยจะจัดการโอนกรรมสิทธิ์ภายในกำหนด 3 เดือน จำเลยผิดสัญญาไม่ไปจัดการจดทะเบียนให้ตามกำหนด โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้ไปจัดการจดทะเบียน ดังนี้ สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยหาตกเป็นโมฆะไม่ เพราะอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่จดทะเบียน: สัญญาไม่เป็นโมฆะหากมีการดำเนินการจดทะเบียน
ฎีกาที่ว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นโมฆะเสียเปล่า จะฟ้องร้องบังคับมิได้นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะมิได้ยกขึ้นว่าในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีการับวินิจฉัยให้
โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายที่ดินกัน โดยตกลงกันว่าจำเลยจะจัดการโอนกรรมสิทธิ์ภายในกำหนด 3 เดือน จำเลยผิดสัญญาไม่ไปจัดการจดทะเบียนให้ตามกำหนด โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้ไปจัดการจดทะเบียน ดังนี้ สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยหาตกเป็นโมฆะไม่ เพราะอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลอาจพิจารณาคดีต่อได้หากผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้อง
ก่อนพิพากษา ศาลอาจพิจารณาต่อไปอีกได้ จึงให้ผู้อ้างปิดอากรแสตมป์ในเอกสารให้ถูกต้องก่อนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี จำเป็นต้องวินิจฉัยเจตนาการขาดนัดก่อน จึงจะดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และพยานโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว ในระหว่างพิจารณาคดีฝ่ายเดียว ทนายจำเลยมาศาล แต่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสองและวรรคสามโดยเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้วก็นัดฟังคำพิพากษาเลยทีเดียวโดยมิได้วินิจฉัยว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยจงใจหรือไม่เสียก่อนจนเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้สืบพยานของตนและแพ้คดี อันเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2), 247พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสองและวรรคสามโดยให้วินิจฉัยว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยจงใจหรือไม่แล้วมีคำสั่งหรือดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่พนักงานอัยการในการบังคับตามสัญญาประกันและการดำเนินการบังคับคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 และตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11(8) กับมาตรา 4 ย่อมเห็นได้ว่า เมื่อมีการผิดสัญญาประกันจำเลยที่ทำไว้กับศาลแล้ว พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินเป็นผู้มีหน้าที่ดำเนินคดี หาใช่หน้าที่ของศาลหรือเจ้าหน้าที่ของศาลไม่ และตามมาตรา 4 และมาตรา 11(8) นั้นแสดงว่าพนักงานอัยการต้องดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประกัน ซึ่งหมายถึงการขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและจัดการอื่นใดในทางอรรถคดีเพื่อเป็นผลให้ได้เงินค่าปรับตามคำสั่งศาล การนำยึดทรัพย์ผู้ผิดสัญญาประกัน ไม่ใช่หน้าที่ของศาลหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายศาล แต่เพื่อประโยชน์ในการค้นหาทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันต่อศาล ศาลย่อมเรียกผู้ประกันมาสอบถามและให้จัดการนำยึดตามที่พนักงานอัยการขอได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและการดำเนินการไต่สวนมูลฟ้อง: จำเลยยังไม่มีสิทธิฎีกา
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี ดังนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสาม ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและการพิพากษาล้มละลาย: การดำเนินการตามมติเจ้าหนี้โดยไม่ต้องรอคดีถึงที่สุด
คดีล้มละลายนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ย่อมมีผลบังคับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 และเมื่อไม่มีการทุเลาการบังคับตามคำพิพากษา ก็ย่อมไม่มีเหตุใดที่จะต้องรอการประชุมเจ้าหนี้ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการพิจารณาคดีหลังศาลฎีกาให้พิจารณาต่อ การอนุญาตถอนฟ้องซ้ำเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง แต่ศาลฎีกาให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปนั้น หาใช่ให้ศาลชั้นต้นฟังจำเลยเสียใหม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 แล้วมีคำสั่งไม่ แต่ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไปตามกระบวนความทีเดียว ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นนัดคู่ความมาสอบถามเกี่ยวกับคำขอถอนฟ้อง เดิมของโจทก์และถือว่าได้ฟังจำเลยถูกต้อง สั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ จึงเป็นการรื้อฟื้นเอาคำขอถอนฟ้องของโจทก์ที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาสั่งซ้ำอีก ย่อมไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: การไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้สิทธิในการบังคับคดีสิ้นสุดลง
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ชนะคดี เพียงแต่ขอหมายบังคับคดีไว้เฉยๆ 5-6 ปี มิได้นำยึดเพื่อบังคับให้เป็นผลตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นต่อไเมื่อโจทก์ผู้ชนะคดีนี้ได้บังคับคดีเอากับจำเลยผู้ร้องจึงโต้แย้งสิทธิขึ้นมา ดังนี้ จึงเป็นการยากที่จะถือว่ายังอยู่ในระยะเวลาที่ผู้ร้องจะปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาดำเนินการเมื่อคู่ความถึงแก่ความตายระหว่างพิจารณาคดี
จำเลยฎีกาเมื่อความเพิ่งปรากฏว่าโจทก์ตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ ทั้งจำเลยก็ไม่ขอให้เรียกผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทนจนเวลาล่วงเลยเกิน 1 ปีแล้วดังนี้ กรณีมีพฤติการณ์พิเศษประกอบด้วยข้อเท็จจริง เพิ่งจะปรากฏขึ้น ณบัดนี้ ศาลฎีกามีอำนาจสั่งขยายระยะเวลาเพื่อจำเลย จัดหาตัวผู้รับมรดกความโจทก์ได้ตามความในมาตรา 23
of 6