คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตัวแทนเชิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นตัวแทนเชิดต้องแสดงเจตนาหรือยินยอม การกระทำโดยทุจริตของตัวการไม่ถือเป็นตัวแทน
การเป็นตัวแทนตาม ป.พ.พ.นั้น อาจเกิดโดยการแต่งตั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายก็ได้ และกรณีตัวแทนเชิดที่ถือได้ว่าเป็นการแต่งตั้งโดยปริยายนั้น ตัวการผู้เชิดต้องแสดงออกว่าผู้ถูกเชิดเป็นตัวแทนของตน หรือรู้แล้วยอมให้ผู้เชิดแสดงออกว่าเขาเป็นตัวแทนของตน ตัวการจึงจะมีความรับผิดต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายที่ตัวแทนได้กระทำลงไป คดีนี้ ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 สั่งให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ หรือยินยอมให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ในนามจำเลยที่ 1 แต่เป็นเรื่องจำเลยที่ 3 ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตสั่งซื้อเบียร์จากโจทก์เองโดยพลการ การที่จำเลยที่ 3 ใช้อำนาจหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้โดยใช้ใบรับเงินของจำเลยที่ 1 ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยที่ 3 กระทำ การกระทำของจำเลยที่ 3 ต่าง ๆ จำเลยที่ 1 มิได้มีส่วนได้เสียหรือยินยอมด้วย จำเลยที่ 3 จึงมิใช่ตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของตัวการเมื่อตัวแทนกระทำทุจริต ตัวแทนเชิดต้องแสดงเจตนาหรือยอมความ
เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 สั่งให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ หรือยินยอมให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ในนามจำเลยที่ 1 แต่เป็นเรื่องจำเลยที่ 3 ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตสั่งซื้อเบียร์จากโจทก์เองโดยพลการ และการที่จำเลยที่ 3ใช้อำนาจหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้โดยใช้ใบรับเงินของจำเลยที่ 1ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยที่ 3 กระทำจำเลยที่ 3 จึงมิใช่ตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นตัวแทนเชิดต้องแสดงออกหรือยินยอมให้แสดงเป็นตัวแทน มิฉะนั้นตัวการไม่ต้องรับผิด
การเป็นตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น อาจเกิดโดยการแต่งตั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายก็ได้ และกรณีตัวแทนเชิดที่ถือได้ว่าเป็นการแต่งตั้งโดยปริยายนั้น ตัวการผู้เชิดต้องแสดงออกว่าผู้ถูกเชิดเป็นตัวแทนของตน หรือรู้แล้วยอมให้ผู้เชิดแสดงออกว่าเขาเป็นตัวแทนของตน ตัวการจึงจะมีความรับผิดต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายที่ตัวแทนได้กระทำลงไป คดีนี้ ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 สั่งให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ หรือยินยอมให้จำเลยที่ 3 สั่งซื้อเบียร์จากโจทก์ในนามจำเลยที่ 1 แต่เป็นเรื่องจำเลยที่ 3 ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตสั่งซื้อเบียร์จากโจทก์เองโดยพลการ การที่จำเลยที่ 3 ใช้อำนาจหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้โดยใช้ใบรับเงินของจำเลยที่ 1 ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยที่ 3 กระทำ การกระทำของจำเลยที่ 3 ต่าง ๆ จำเลยที่ 1 มิได้มีส่วนได้เสียหรือยินยอมด้วย จำเลยที่ 3 จึงมิใช่ตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนทางกฎหมาย: นิติบุคคลเป็นตัวแทนเชิดของบุคคลธรรมดาได้ และบุคคลธรรมดาต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทน
การที่บุคคลผู้ใดเชิดบุคคลอีกคนหนึ่งออกแสดงเป็นตัวแทนของตนบุคคลนั้นต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 821 และบุคคลที่เป็นตัวแทนเชิดได้หาจำต้องเฉพาะแต่บุคคลธรรมดาเท่านั้นไม่ เพราะแม้แต่การตั้งตัวแทนทั่วไป นิติบุคคลโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนย่อมเป็นตัวแทนได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดาเว้นแต่สิทธิและหน้าที่ซึ่งโดยสภาพจะพึงมีพึงเป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดาเท่านั้น และความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยผู้แทนของนิติบุคคล เมื่อ ช. เป็นผู้แทนของนิติบุคคลทั้งหลายที่ใช้ติดต่อค้าขายกับจำเลยแสดงว่านิติบุคคลเหล่านั้นเป็นเพียงตัวแทนเชิดของ ช.ซึ่งช. เป็นตัวการและเป็นเจ้าของลูกเดือยพิพาทเมื่อช.ยกกรรมสิทธิ์ในลูกเดือยพิพาทให้แก่จำเลย เพื่อนำออกจำหน่ายชำระค่าเสียหายในกรณีที่ ช.ในนามของบริษัท ม. ผิดสัญญาบอกเลิกการซื้อข้าวสารกับจำเลยจำเลยจึงมีสิทธิในลูกเดือยพิพาท โจทก์ซึ่งเป็นเพียงตัวแทนเชิดของช.จึงไม่สามารถอ้างสิทธิตามสัญญาซื้อขายลูกเดือย ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4866/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิดทำสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ต้องมีหลักฐานการตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ
บันทึกข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายที่สามีโจทก์ทำไว้กับจำเลยมีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือการตั้งตัวแทนเพื่อไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798แต่ปรากฏว่าในการไปทำบันทึกข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายดังกล่าวโจทก์ได้แสดงออกหรือยอมให้สามีโจทก์แสดงออกว่าเป็นตัวแทนโจทก์ไปทำบันทึกข้อตกลงเรื่องค่าเสียหายกับจำเลย อันเป็นเรื่องตัวแทนเชิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 ไม่อยู่ในบังคับมาตรา 798 ที่จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้โจทก์มิได้มีหนังสือตั้งให้สามีโจทก์ไปทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวกับจำเลย โจทก์ในฐานะตัวการก็ต้องผูกพันรับผิดต่อจำเลยตามข้อตกลงนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากเงินโดยนิติบุคคล แม้กรรมการจะทำธุรกรรมส่วนตัว หากสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ฝาก ย่อมผูกพันนิติบุคคลตามหลักตัวแทนเชิด
การที่โจทก์นำเช็คเงินสดจำนวน 2,000,000บาท ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการเรียกเก็บเงินแล้วไปที่บริษัทจำเลย พนักงานของจำเลยได้รับฝากเงินจำนวนดังกล่าวแล้วดำเนินการออกเช็คพิพาท ซึ่ง พ.กับง.กรรมการของบริษัทจำเลยร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายพร้อมกับแจ้งให้โจทก์ทราบว่าจำเลยรับฝากเงินจำนวนดังกล่าวของโจทก์มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และโจทก์ได้รับของขวัญและของที่ระลึกต่าง ๆมีชื่อบริษัทจำเลยพร้อมตราประทับจากบริษัทจำเลย ทั้งจำเลยเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพัฒนาและเพื่อการเคหะ จำเลยสามารถกู้ยืมเงินและรับเงินจากประชาชนโดยตกลงจ่ายดอกเบี้ยไม่เกินอัตราตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยอันเป็นวิธีการจัดหามาซึ่งเงินทุนของจำเลย พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตหลงเข้าใจได้ว่าการรับฝากเงินเป็นกิจการของจำเลยและอยู่ในวัตถุประสงค์ข้อบังคับของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยรับฝากเงินและรู้เห็นเอง โดยจำเลยเชิดพ.และง. เป็นตัวแทน จำเลยต้องผูกพันรับผลการกระทำของพ.และง. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2763/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้จากการเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า และขอบเขตความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ
จำเลยทั้งสองได้เชิดช.ออกแสดงเป็นตัวแทนของตนสั่งซื้อวงกบประตู หน้าต่างจากโจทก์ และค้างชำระหนี้ค่าสินค้าโจทก์ตามฟ้องจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระค่าวงกบประตู หน้าต่างที่ค้าง ปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นฎีกาจำเลยทั้งสองไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ และเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่วินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดตามสัญญาประนีประนอมจากตัวแทนเชิด แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ
ปัญหาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมตามฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 3หรือไม่ เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกา โจทก์บรรยายว่า จำเลยที่ 3 เชิดจำเลยที่ 4ให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องถึงพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 3 ได้เชิดจำเลยที่ 4 อย่างไร เพราะสามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้างของบริษัทจำเลยที่ 1 และที่ 4 ซึ่งเป็นลูกจ้างฝ่ายตรวจสอบอุบัติเหตุของจำเลยที่ 3 ร่วมกันเจรจาและทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ณ สำนักงานของจำเลยที่ 3ประกอบกับการที่จำเลยที่ 1 และทนายความของจำเลยที่ 3 ยอมรับผิดตามหนังสือของโจทก์ที่ขอให้ชำระหนี้ แสดงว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 เห็นชอบในการทำสัญญา-ประนีประนอมยอมความด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 รู้อยู่แล้วยอมให้จำเลย-ที่ 3 และที่ 4 เชิดตัวเขาเองออกเป็นตัวแทน จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
เมื่อมิใช่เป็นเรื่องการตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอม-ความกันตามปกติแต่เป็นเรื่องตัวแทนเชิด จึงหาจำต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนแต่อย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิด: สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องถึงพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 3 ได้เชิดจำเลยที่ 4 อย่างไร เพราะเป็นข้อที่สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้างของบริษัทจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นลูกจ้างฝ่ายตรวจสอบอุบัติเหตุ ของจำเลยที่ 3 ร่วมกันเจรจาและทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ โจทก์ณ สำนักงานของจำเลยที่ 3 ประกอบกับการที่ทนายของจำเลย ที่ 3กับจำเลยที่ 1 ยอมรับผิดตามหนังสือของโจทก์ที่ขอให้ ชำระหนี้ จึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 เห็นชอบในการทำ สัญญาประนีประนอมยอมความด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 รู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 และที่ 4 เชิดตัวเขาเองออกเป็นตัวแทน จำเลยที่ 1 และที่ 3จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญา ประนีประนอมยอมความ เมื่อมิใช่เป็นเรื่องตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ กันตามปกติ แต่เป็นเรื่องตัวแทนเชิด จึงหาจำต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ให้กระทำแทนแต่อย่างใดไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิด: สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันจำเลย แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นบริษัทจำกัดโดยจำเลยที่ 3 เป็นบริษัทรับประกันวินาศภัยจากจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 ได้ตอกเสาเข็มฐานรากอาคารของจำเลยที่ 1 ทำให้บ้านโจทก์ได้รับความเสียหาย ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2จำเลยที่ 3 ได้เชิดจำเลยที่ 4 ให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 800,000 บาท ได้ชำระไปบางส่วนยังค้างชำระอยู่ 320,000 บาท ขอให้จำเลยทั้งสี่ชำระค่าเสียหายที่ค้างชำระดังกล่าว เป็นคำฟ้องที่บรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาพร้อมคำขอบังคับทั้งได้อ้างอิงสิทธิซึ่งเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ไม่จำเป็นต้องบรรยายถึงพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 3ได้เชิดจำเลยที่ 4 อย่างไร เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวสามารถนำสืบในชั้นพิจารณาคดีได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม จำเลยที่ 1 กับที่ 3 มิได้ตั้งจำเลยที่ 2 กับที่ 4 เป็นตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ตามปกติ แต่เป็นเรื่องตัวแทนเชิด จึงไม่จำต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้กระทำแทน
of 11