พบผลลัพธ์ทั้งหมด 164 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์เป็นกรรมเดียวกัน โจทก์มีอำนาจฟ้องได้หากมีการสอบสวนทั้งสองข้อหา
เมื่อข้อเท็จจริงในคดีปรากฏว่า ข้อหาความผิดฐานบุกรุกกับข้อหาความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องกันและเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน การที่ได้ร้องทุกข์ในข้อหาความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์แล้วก็เท่ากับได้ร้องทุกข์ในข้อหาความผิดฐานบุกรุกด้วย เมื่อมีการสอบสวนในความผิดทั้งสองข้อหานี้แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องทั้งสองข้อหา และศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานบุกรุกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์: การแจ้งข้อหาและการรวบรวมพยานหลักฐาน
ในชั้นสอบสวนเมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาจำเลยว่าทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์และเป็นของทางราชการและได้สอบปากคำพยานเกี่ยวกับข้อหาว่า จำเลยทำให้เสียหายทำลายท่อส่งน้ำคอนกรีต และก้านพวงมาลัยปิดเปิดประตูน้ำและได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมทำบันทึกความเสียหายไว้ด้วยเช่นนี้ แสดงว่าพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 แล้วโดยไม่ต้องแจ้งทุกกระทงความผิด และได้รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับความผิดที่กล่าวหาจำเลยแล้ว จึงถือว่า ได้มีการสอบสวนในข้อหาดังกล่าวโดยชอบ พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เชื่อมโยงถึงการทำให้เสียทรัพย์: เจตนาและพฤติการณ์
เช้าวันเกิดเหตุก่อนเป็ดของผู้เสียหายตาย จำเลยได้นำข้าวใส่กะละมังไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ และเป็ดของผู้เสียหายตายเพราะกินอาหารที่มีสารเคมีกำจัดแมลงผสมอยู่ แม้โจทก์จะไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยผสมสารเคมีกำจัดแมลงลงไปในข้าวและเป็ดของผู้เสียหายกินข้าวนั้น แต่การที่เป็ดของผู้เสียหายตายอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยหลังจากจำเลยนำข้าวไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ โดยตรวจพบข้าวและสารเคมีกำจัดแมลงในกระเพาะอาหารของเป็ดที่ตาย เป็นพฤติการณ์เชื่อมโยงให้รับฟังได้ว่า เป็ดตายเพราะกินข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงที่จำเลยวางไว้ และการที่จำเลยนำข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 358
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำให้เสียทรัพย์ด้วยการวางยาเป็ด: ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์
เช้าวันเกิดเหตุก่อนเป็ดของผู้เสียหายตาย จำเลยได้นำข้าวใส่กะละมัง ไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ และเป็ดของผู้เสียหายตายเพราะกินอาหารที่มีสารเคมีกำจัดแมลงผสมอยู่ แม้โจทก์จะไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยผสมสารเคมีกำจัดแมลงลงไปในข้าวและเป็ดของผู้เสียหายกินข้าวนั้น แต่การที่เป็ดของผู้เสียหายตายอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยหลังจากจำเลยนำข้าวไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ โดยตรวจพบข้าวและสารเคมีกำจัดแมลงในกะเพาะอาหารของเป็ดที่ตาย เป็นพฤติการณ์เชื่อมโยงให้รับฟังได้ว่า เป็ดตายเพราะกินข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงที่จำเลยวางไว้ และการที่จำเลยนำข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การวางยาเบื่อเป็ดของผู้เสียหายถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
การที่จำเลยนำข้าวผสมกับสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 358.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4403/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เสียทรัพย์ - การกระทำที่ไม่มีเจตนาหรือเล็งเห็นผลเสียหายไม่เป็นความผิด
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘ ผู้กระทำต้องมีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็น ความผิด เมื่อจำเลยไม่มีเจตนาประสงค์ต่อผลที่จะทำให้รั้วเหล็กดัด ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย และไม่อาจเล็งเห็นได้ว่าการ เจาะรั้วคอนกรีตของจำเลยเพียงส่วนน้อยโดยใช้ไม้ค้ำยันจะทำให้ รั้วเหล็กดัดของผู้เสียหายซึ่งตั้งอยู่บนรั้วคอนกรีตของจำเลยได้รับ ความเสียหายอย่างแน่นอนแล้ว จำเลยจึงมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4403/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เสียทรัพย์ - การกระทำโดยไม่มีเจตนาและไม่สามารถเล็งเห็นผลเสียหายได้
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358ผู้กระทำต้องมีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นความผิด เมื่อจำเลยไม่มีเจตนาประสงค์ต่อผลที่จะทำให้รั้วเหล็กดัดของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย และไม่อาจเล็งเห็นได้ว่าการเจาะรั้วคอนกรีตของจำเลยเพียงส่วนน้อยโดยใช้ไม้ค้ำยันจะทำให้รั้วเหล็กดัดของผู้เสียหายซึ่งตั้งอยู่บนรั้วคอนกรีตของจำเลยได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนแล้ว จำเลยจึงมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกและการทำให้เสียทรัพย์ในเคหสถาน การกระทำโดยไม่มีเหตุอันสมควรและความรับผิดทางอาญา
แม้จำเลยจะไปมาหาสู่ ด. ที่บ้านโจทก์ร่วมเป็นประจำ แต่จำเลยไม่เคยเข้าไปในห้องนอนของ ด. เลย การที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.เพื่อตามหาด. ให้มาดื่มสุรากับตนโดยโจทก์ร่วมมิได้อนุญาตให้เข้าไป เป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการรบกวนการครอบครองบ้านของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อจำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.โจทก์ร่วมได้ปิดประตูห้องนอนไว้ เพื่อมิให้จำเลยออกมาเพราะจำเลยเมาสุราจำเลยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูห้องนอนหลุดดังนี้นอกจากเป็นความผิดฐานบุกรุกกรรมหนึ่งแล้วยังผิดฐานทำให้เสียทรัพย์อีกกรรมหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์เป็นกรรมต่อเนื่อง
จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครอง โดยนำรถแทรกเตอร์เข้าไปไถ โค่น เผาต้นยางพารา และขนำของโจทก์ที่ปลูกไว้เสียหาย แล้วจำเลยปลูกต้นมะพร้าว ต้นยางพาราต้นมะม่วงหิมพานต์ ของจำเลยลงในที่ดินดังกล่าวแทน การกระทำของจำเลยเป็นการต่อเนื่องกัน โดยจำเลยมีเจตนาถือการครอบครองที่ดินของโจทก์และทำให้ทรัพย์สินของโจทก์ในที่ดินดังกล่าวเสียหายในคราวเดียวกัน จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกระทงและแยกการกระทำของจำเลยมาในฟ้องเป็นข้อ ก. และข้อ ข. แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลก็จะลงโทษจำเลยหลายกรรมเป็นกระทงความผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำโดยตรงของจำเลย
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ถอนทำลายต้นไม้อีกทั้งผู้เสียหายก็มิได้ไปดูแลที่ดินพิพาทเป็นประจำ และต้นไม้ที่ผู้เสียหายปลูกในที่ดินพิพาทเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก อายุเพียง6 เดือน หากต้นไม้ดังกล่าวต้องตายเพราะขาดการดูแลรดน้ำก่อนจำเลยบุกรุกเข้าไปก็เป็นได้ พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ถอนทำลายต้นไม้ที่ผู้เสียหายปลูกไว้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์.