คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุเลาการบังคับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์เป็นของศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดห้ามฎีกา
อำนาจในการสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์เป็นอำนาจเฉพาะของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวรวมตลอดถึงเรื่องการพิจารณาหลักประกันด้วย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดคู่ความจะฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิจารณาคำร้องขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด
กรณีที่พิพาทกันในชั้นขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ซึ่งจำเลยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์นั้น อำนาจในการสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตเป็นอำนาจเฉพาะของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้รวมตลอดถึงเรื่องการพิจารณาหลักประกันด้วย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดคู่ความจะฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์มิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3438/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความคำสั่งทุเลาการบังคับ: หลักประกันต้องครอบคลุมเฉพาะหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย
จำเลยที่ 3 ฎีกาอ้างว่า ศาลล่างทั้งสองแปลคำสั่งของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้อง มิใช่ฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการสั่งเรื่องการขอทุเลาการบังคับซึ่งเป็นอำนาจแต่ละชั้นของศาล จึงเป็นเรื่องที่พิพาทกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในชั้นบังคับคดีว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งไม่มีบทกฎหมายห้ามมิให้ฎีกา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดในต้นเงิน496,396.80 บาท จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดในต้นเงินไม่เกิน100,000 บาท และดอกเบี้ยในต้นเงินดังกล่าว จำเลยที่ 2 ที่ 3ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับรวมเป็นฉบับเดียวกัน ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องว่า ถ้าจำเลยที่ 2 หรือที่ 3 คนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นพร้อมด้วยดอกเบี้ยมีกำหนด 5 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง การปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องขอทุเลาการบังคับสำหรับจำเลยที่ 3 จึงต้องพิจารณาจากจำนวนหนี้ของจำเลยที่ 3 ที่จะต้องรับผิดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น การแปลคำสั่งของศาลอุทธรณ์โดยนำเอาจำนวนหนี้ของจำเลยที่ 2 ที่ขอทุเลาไว้เป็นภาระตกแก่จำเลยที่ 3 ด้วยนั้น ทำให้จำเลยที่ 3 ต้องรับผิดชอบเกินกว่าจำนวนหนี้ที่จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงเป็นการแปลที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4067/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอขยายระยะเวลาบังคับคดีคือการขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเด็ดขาด จำเลยฎีกาไม่ได้
การขอขยายระยะเวลาการบังคับคดี มีผลเท่ากับเป็นการขอทุเลาการบังคับคดี และการจะให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์หรือไม่ เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะจำเลยจะฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการบังคับและการเลื่อนการพิจารณาหลักประกัน เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ การฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
คดีที่จำเลยขอทุเลาการบังคับอยู่ในระหว่างการพิจารณา ของศาลอุทธรณ์ การขอเลื่อนคดีไปเพื่อให้โจทก์ไปตรวจดูหลักทรัพย์ จึงเป็นเรื่องต่อเนื่องกับคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่สั่งเกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของจำเลยและเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา หลักประกันไป จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการบังคับและการเลื่อนพิจารณาหลักประกันเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ การฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
คดีที่จำเลยขอทุเลาการบังคับอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การขอเลื่อนคดีเพื่อให้โจทก์ตรวจดูหลักทรัพย์ จึงเป็นเรื่องต่อเนื่องกับคำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการทุเลาการบังคับของจำเลยและเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาหลักประกันไป จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2168/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลชั้นต้น-อุทธรณ์-ฎีกาในเรื่องทุเลาการบังคับคดี การขอเพิกถอนคำสั่งทุเลาการบังคับต้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์
การทุเลาการบังคับคดีและการเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี กฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นชั้น ๆ ไปถ้าเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีในระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยโจทก์อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ เช่นนี้การที่จำเลยยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษา โดยขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนและกำหนดวิธีการห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกต่อไป ก็เท่ากับเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้โจทก์ทุเลาการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ และบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาเพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ที่พิพาทกันได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 264 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องแล้ว จำเลยจะฎีกาคำสั่งนั้นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2168/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับและการเพิกถอนคำสั่ง: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจตัดสินเด็ดขาด ไม่สามารถฎีกาได้
การทุเลาการบังคับและการเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับกฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นชั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องที่ อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และบังคับตาม ฟ้องแย้งขอจำเลย โจทก์อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ เช่นนี้ การที่จำเลยยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาโดยขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนและกำหนดวิธีการห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกต่อไป ก็เท่ากับเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้โจทก์ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ และบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา เพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ที่พิพาทกันได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 264 แห่ง ป.วิ.พ. เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องแล้ว จำเลยจะฎีกาคำสั่งนั้นอีกไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2168/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับและเพิกถอนคำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเด็ดขาด
การทุเลาการบังคับและการเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับกฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นชั้น ๆ ไปการขอให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวแล้วคู่ความจะฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยโจทก์อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ เช่นนี้ การที่จำเลยยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาโดยขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนและกำหนดวิธีการห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกต่อไป ก็เท่ากับเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้โจทก์ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์และบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาเพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ที่พิพาทกันได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 264 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องแล้ว จำเลยจึงฎีกาคำสั่งนั้นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีล้มละลาย: การจัดการทรัพย์สินหลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ อำนาจอยู่ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ไม่สามารถขอทุเลาการบังคับได้
ในคดีล้มละลาย เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ด ขาดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483จำเลยจะขอทุเลาการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 231 ดัง เช่นคดีแพ่งธรรมดาหาได้ไม่.
of 8