พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทจำกัด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็น วินิจฉัยเรื่องแปลงหนี้ใหม่ที่ไม่ใช่ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นเหตุให้ต้องกลับคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้เพียงประเด็นเดียวว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอมหรือไม่ดังนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าหนังสือสัญญากู้ดังกล่าวไม่ใช่สัญญาปลอมแล้วจะวินิจฉัยว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่หนี้ตามสัญญากู้ไม่สมบูรณ์เพราะไม่ระบุจำนวนเงินโจทก์นำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในสัญญากู้ต้องห้ามไม่ให้รับฟังหาได้ไม่เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบการชำระหนี้ตามประเด็นที่ศาลกำหนด แต่กลับนำสืบเรื่องบุคคลอื่นชำระหนี้แทน ถือเป็นการนำสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อน้ำมันเครื่องจากโจทก์แล้วไม่ชำระราคาจำเลยให้การว่า หนี้ตามฟ้องจำเลยได้ชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่าความจริง ช.เป็นผู้ซื้อ. และ ช. ได้ชำระราคาน้ำมันให้โจทก์แล้ว ดังนี้เป็นการนำสืบนอกประเด็น
เมื่อหน้าที่นำสืบตกอยู่แก่จำเลย แต่ข้อนำสืบของจำเลยฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระราคาน้ำมันแก่โจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ต่อไปอีก
เมื่อหน้าที่นำสืบตกอยู่แก่จำเลย แต่ข้อนำสืบของจำเลยฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระราคาน้ำมันแก่โจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ต่อไปอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบต้องตรงประเด็น หากจำเลยอ้างว่าไม่ใช่ลูกหนี้ แต่กลับนำสืบว่าผู้อื่นเป็นผู้ชำระหนี้ ถือเป็นการนำสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อน้ำมันเครื่องจากโจทก์แล้วไม่ชำระราคา จำเลยให้การว่า หนี้ตามฟ้องจำเลยได้ชำระให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่าความจริงช.เป็นผู้ซื้อ.และช.ได้ชำระราคาน้ำมันให้โจทก์แล้วดังนี้เป็นการนำสืบนอกประเด็น
เมื่อหน้าที่นำสืบตกอยู่แก่จำเลย แต่ข้อนำสืบของจำเลยฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระราคาน้ำมันแก่โจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ต่อไปอีก
เมื่อหน้าที่นำสืบตกอยู่แก่จำเลย แต่ข้อนำสืบของจำเลยฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระราคาน้ำมันแก่โจทก์แล้ว จำเลยก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ต่อไปอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่กำหนด หากวินิจฉัยนอกประเด็นคำพิพากษาเป็นโมฆะ
กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนดแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นและและอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนอกฟ้องนอกประเด็น: ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่กำหนดไว้ในคำฟ้องและข้อโต้แย้งเท่านั้น
กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนดแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นและและอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังข้อเท็จจริงเรื่องทายาทนอกประเด็นข้อพิพาท ศาลต้องไม่รับฟังตามหลักวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่ทายาทผู้ตายข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นทายาทของผู้ตายหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นมาจากคำพยานในทางนำสืบ ซึ่งเป็นเรื่องนอกข้อต่อสู้ในคำให้การและนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลกำหนดไว้ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3867/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องทางจำเป็น/ภารจำยอม: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยนอกประเด็นที่กำหนด และถือว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับทางภารจำยอมถึงที่สุดแล้ว
คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่น ทั้งยังบรรยายว่าที่ดินที่มีทางภารจำยอมนั้นเป็นที่ดินมรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้ตั้งประเด็นว่าที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ ทั้งในชั้นชี้สองสถานก็ได้กำหนดประเด็นไว้ว่ามีทางภารจำยอมหรือไม่ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นทางจำเป็นและให้เปิดทางจำเป็น จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดนอกฟ้องนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภารจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เปิดทางจำเป็น และยกฟ้องในคำขอข้ออื่น ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับทางภารจำยอมแล้ว เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับทางภารจำยอมจึงถึงที่สุด โจทก์จะรื้อฟื้นฎีกาขอให้เปิดทางภารจำยอมอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานนอกประเด็นข้อพิพาทในคดีสัญญาเงินกู้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ยืมเงินไปแล้วไม่ชำระหนี้ จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้ ลายมือชื่อผู้กู้ในหนังสือสัญญากู้ยืมท้ายฟ้องไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย สัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ดังนี้ คดีมีประเด็นเพียงว่า จำเลยทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องหรือไม่การที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว เป็นการนำสืบนอกประเด็นข้อพิพาท รับฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นพินัยกรรมปลอมสำคัญกว่าความสมบูรณ์ของแบบ หากศาลวินิจฉัยนอกประเด็นย่อมไม่ชอบ
ประเด็นมีเพียงว่า พินัยกรรมฉบับพิพาทปลอมหรือไม่ การที่ศาลล่างยกเอาเรื่องความสมบูรณ์ของพินัยกรรมว่า เจ้ามรดกได้ลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าพยานสองคนหรือไม่ มาเป็นข้อวินิจฉัย แม้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ให้อำนาจศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยที่ไม่มีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ก็ตาม แต่จะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริง ในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบตามมาตรา 87 ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากพยานนอกเรื่องนอกประเด็น ไม่เกี่ยวกับที่คู่ความจะต้องนำสืบ หรือมีกฎหมายบังคับให้ต้องแสดง ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตาม มาตรา 142(5) หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบหลักฐานนอกประเด็น และการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายในคดีเช็ค
ตามคำให้การของจำเลยว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยมีเงื่อนไขว่า โจทก์จะไปขึ้นเงินตามเช็คได้ต่อเมื่อ ว. โอนกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ให้แก่จำเลย เพราะจำเลยออกเช็คเพื่อใช้หนี้แทน ป. น้องชายของจำเลย แต่จำเลยกลับนำสืบว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่ พ. เจ้าหนี้คนหนึ่งของ ป. โดย พ. ได้ทราบข้อตกลงและเงื่อนไขดังกล่าว ต่อมา ว. ไม่ยอมโอนอู่ซ่อมรถยนต์ให้จำเลย จำเลยจึงแจ้งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินแล้ว พ. กลับโอนเช็คพิพาทให้แก่โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลเพื่อให้โจทก์นำเช็คมาฟ้องจำเลย ซึ่งเป็นเรื่องจำเลยต่อสู้ว่า พ. ผู้ทรงคนก่อนโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ผู้ทรงคนปัจจุบันด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ข้อนำสืบของจำเลยดังกล่าวจึงนอกประเด็นพิพาท รับฟังไม่ได้