คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นับระยะเวลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 147/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฎีกา: การนับระยะเวลาเริ่มต้นจากวันรุ่งขึ้นหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยฟังคำพิพากษาวันที่ 1 กรกฎาคม 2489 ยื่นฎีกาวันที่ 1 สิงหาคม 2489 ได้ ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7693/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้จากการจ้างงานและซื้อขาย: การนับระยะเวลาและผลกระทบต่อการฟ้องร้อง
การนับระยะเวลาไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมเข้าด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/3 วรรคสอง โจทก์ฟ้องคดีวันที่ 25 ตุลาคม 2543 อันเป็นวันสุดท้ายของกำหนดอายุความ 2 ปี นับแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2541 ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้รับมอบสินค้าที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องต่อจำเลยที่ 1 ครั้งแรกสิทธิเรียกร้องทั้งหมดของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4725/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับอายุความฟ้องคดีใหม่หลังศาลไม่รับฟ้อง: เริ่มนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องถึงที่สุด
ป.พ.พ. มาตรา 193/17 วรรคสอง มีความหมายว่า กำหนดระยะเวลา 60 วัน เริ่มนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นซึ่งได้รับคำฟ้องไว้แต่แรกมีคำสั่งไม่รับฟ้องถึงที่สุด เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกาซึ่งถือว่าเป็นคำสั่งถึงที่สุดตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญหาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 9 พร้อมกับมีคำสั่งไม่รับฟ้อง ให้จำหน่ายคดีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2548 กำหนดระยะเวลา 60 วัน ย่อมนับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2548 มิใช่นับแต่วันที่ 4 เมษายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่ประธานศาลฎีกามีคำวินิจฉัยเรื่องเขตอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3044/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาฟ้องคดีแรงงานต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานไม่ได้กำหนด
พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับวิธีการนับระยะเวลาไว้เป็นพิเศษแต่อย่างใด ดังนั้นการนับระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ลักษณะ 5 เรื่องระยะเวลาอันเป็นบทบัญญัติทั่วไป โดยมาตรา 193/3 วรรคสอง บัญญัติว่า "ถ้ากำหนดระยะเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือนหรือปี มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมเข้าด้วยกัน เว้นแต่จะเริ่มการในวันนั้นเองตั้งแต่เวลาที่ถือได้ว่าเป็นเวลาเริ่มต้นทำการงานกันตามประเพณี" เมื่อโจทก์ได้รับทราบคำสั่งของจำเลยในฐานะพนักงานตรวจแรงงานในวันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2554 โจทก์ไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว โจทก์จะต้องนำคดีไปสู่ศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยต้องเริ่มนับระยะเวลาดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2554 เป็นต้นไป ตามนัยบทบัญญัติมาตรา 193/3 วรรคสอง ดังกล่าว การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 จึงเป็นการที่โจทก์ไม่นำคดีไปสู่ศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5), 246 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2853/2564

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีอาญา: การนับระยะเวลาเริ่มจากวันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด
โจทก์อ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ส. ที่ยกให้แก่โจทก์ และจำเลยที่ 1 ผู้จัดการมรดกของ ส. เบียดบังที่ดินพิพาทไม่จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ กลับจดทะเบียนโอนให้แก่จำเลยที่ 2 อันเป็นการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อ. มาตรา 354 ประกอบมาตรา 353 โจทก์จึงต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 96 แต่เมื่อในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ซึ่งโจทก์ขอให้จำเลยที่ 1 โอนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ และจำเลยที่ 1 ไม่โอนให้ เนื่องจากโจทก์ไม่มีเงินให้ตามที่จำเลยที่ 1 เรียกร้อง ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ปฏิเสธการแบ่งปันทรัพย์มรดกที่ดินพิพาทต่อโจทก์ และมูลความแห่งคดีเกิดขึ้นในวันดังกล่าวแล้ว เมื่อนับจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือน คดีโจทก์จึงขาดอายุความตาม ป.อ. มาตรา 96 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์เป็นอันระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6)
of 4