คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บรรเทาโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธแล้วขอเปลี่ยนเป็นไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษในคดียาเสพติด
ในชั้นสอบสวนตอนแรกจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อหา ต่อมายื่นคำร้องขอให้การใหม่มีใจความว่า จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฮโรอีนของกลาง และเพิ่งทราบในภายหลังว่าของที่บรรทุกมาในรถเป็นเฮโรอีน คำให้การเช่นนี้ ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอันจะถือว่ามีเหตุบรรเทาโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธแล้วขอให้การใหม่ที่ไม่ยอมรับความผิด ไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติด
ในชั้นสอบสวนตอนแรกจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อหา ต่อมายื่นคำร้องขอให้การใหม่มีใจความว่า จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฮโรอีนของกลาง และเพิ่งทราบในภายหลังว่าของที่บรรทุกมาในรถเป็นเฮโรอีน คำให้การเช่นนี้ ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอันจะถือว่ามีเหตุบรรเทาโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนสงครามโดยผู้อพยพ: ความผิดและเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยเป็นทหารจีนคณะชาติกองพลที่ 93 ซึ่งตกค้างอยู่บริเวณชายแดนไทย แล้วอพยพเข้ามาและอยู่ในความควบคุมของ บก.04(กองอำนวยการควบคุมและพัฒนาอาชีพผู้อพยพ กองบัญชาการทหารสูงสุดส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่) ทาง บก.04 จ่ายอาวุธปืน ปสบ. 87 ของกลาง ซึ่งเป็นอาวุธปืนของราชการทหารใช้เฉพาะแต่ในการสงครามให้แก่กองพล 93 ไว้ แล้วผู้บังคับบัญชาทางทหารของจำเลยจ่ายอาวุธปืนดังกล่าวนั้นให้จำเลย ดังนี้ จำเลยมิใช่ทหารของประเทศไทย เป็นแต่ผู้อพยพซึ่งอยู่ในความควบคุมของ บก. 04 จึงไม่มีสิทธิครอบครองได้อย่างทหาร เมื่อจำเลยมีไว้ในความครอบครองจึงต้องมีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุบรรเทาโทษ: อายุ, ความรู้สึกผิดชอบน้อย, รับสารภาพ, ให้ความรู้แก่ศาล
จำเลยอายุ 19 ปี ย่อมมีความรู้สึกผิดชอบน้อย ได้กระทำผิดโดยเข้าใจว่าผู้ตายข่มเหงน้ำใจตน ศาลเห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นลงหนึ่งในสาม
จำเลยได้กระทำความผิดแล้วมิได้หลบหนี เมื่อถูกจับก็รับสารภาพว่าได้ยิงผู้ตายจริง เป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานและให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ถือได้ว่ามีเหตุบรรเทาโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทขับรถบนถนนชำรุดทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ความรับผิดชอบและเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยขับรถยนต์ไปตามถนนหลวงที่เป็นหลุมเป็นบ่อด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้รถเกิดการกระแทกโดยแรง ทำให้เสื้อเพลารถซึ่งแตกร้าวอยู่ก่อนแล้วขาด ล้อหลังข้างซ้ายของรถจึงหลุดกลิ้งออกไปชนกระแทก ส. โดยแรงถึงแก่ความตาย นับว่าผลที่เกิดขึ้นจากความประมาทของจำเลย และเหตุที่ทำให้ ส. ตาย เป็นเรื่องที่ถึงคราวจะเกิดขึ้นในเวลาและสถานที่ที่พอดีกัน สภาพความผิดในคดีนี้ไม่เป็นความผิดประมาทอย่างร้ายแรง ทั้งคดีมีเหตุบรรเทาโทษโดยจำเลยให้การรับสารภาพและได้ช่วยเหลือจัดการศพผู้ตายสมควรให้รอการลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการถอนฟ้องคดีอาญา: ผลกระทบต่อความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 และ 176
จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาหาว่าโจทก์ปลอมและใช้เอกสารสัญญกู้ ขอให้ลงโทษนั้น แม้จำเลยจะถอนฟ้องคดีอาญาเสียระหว่างไต่สวนมูลฟ้องก่อนศาลสั่งประทับฟ้องก็ดี หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่จำเลยกล่าวหาโจทก์เป็นฟ้องเท็จแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175, 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4114/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารสิทธิ (หนังสือรับรองการส่งออก) เพื่อส่งออกสินค้า มีพฤติการณ์บรรเทาโทษได้
หนังสือรับรองการส่งออกสินค้าสิ่งทอของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นหนังสือที่ทำให้ผู้ส่งออกที่เป็นเจ้าของสินค้าสิ่งทอดังกล่าวสามารถมีสิทธิส่งสินค้าของตนไปขาย จำหน่ายในต่างประเทศได้ หากไม่ได้หนังสือรับรองการส่งออกดังกล่าวก็ไม่สามารถที่จะส่งสินค้าสิ่งทอของตนออกไปได้ การทำปลอมสำเนาหนังสือรับรองการส่งออกสินค้าสิ่งทอ จึงเป็นการทำปลอมเอกสารสิทธิ แม้สำเนาหนังสือรับรองการส่งออกสินค้าสิ่งทอ เป็นใบกำกับสินค้าซึ่งผู้ส่งออกเป็นผู้จัดทำขึ้นเอง มิใช่เป็นเอกสารที่จัดทำโดยกรมการค้าต่างประเทศ แต่เมื่อเป็นเอกสารที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยและลงตราประทับพร้อมลายมือชื่อของพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อให้ได้สิทธิในการส่งออกสินค้าสิ่งทอไปต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นเอกสารที่เจ้าพนักงานได้รับรองในหน้าที่ การทำปลอมสำเนาหนังสือรับรองการส่งออกสินค้าสิ่งทอ จึงเป็นการทำปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
แม้การกระทำความผิดของจำเลยที่ 3 ก่อให้เกิดความเสียหายอันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ แต่ในส่วนพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 3 ยังไม่ร้ายแรงนัก ประกอบกับจำเลยที่ 3 เป็นหญิง ป่วยเป็นเนื้องอกสมอง อยู่ระหว่างการรักษา ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยที่ 3 แต่เพื่อให้จำเลยที่ 3 ได้รู้สำนึกในการกระทำของตนและไม่หวนกลับมากระทำความผิดอีก จึงให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15232/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการบรรเทาโทษทางอาญา: โจทก์เป็นผู้เสียหายแม้จำเลยที่ 2 รับสารภาพ และการถอนฟ้องเข้าข่ายได้รับการบรรเทาโทษ
เมื่อจำเลยเอาความเท็จมาฟ้องโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหาย และความผิดของจำเลยย่อมเกิดขึ้นทันทีที่จำเลยฟ้องคดี แม้จำเลยที่ 2 ในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์จะให้การรับสารภาพ ก็หาใช่ว่าโจทก์มีส่วนมีร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 อันมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยไม่
ส่วน ป.อ. มาตรา 176 บัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 175 แล้วลุแก่โทษต่อศาล และขอถอนฟ้องหรือแก้ฟ้องก่อนมีคำพิพากษา ให้ศาลลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้หรือศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้" บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการบรรเทาโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด ดังนี้ เมื่อจำเลยถอนฟ้องในคดีอาญาที่เอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์ก่อนมีคำพิพากษา ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ลุแก่โทษต่อศาลแล้ว ควรได้รับการบรรเทาโทษตามบทบัญญัตินั้นทั้งกฎหมายหาได้บัญญัติว่าจำเลยต้องให้การรับสารภาพจึงจะได้รับการบรรเทาโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15232/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จและการบรรเทาโทษตามมาตรา 176 ประมวลกฎหมายอาญา การถอนฟ้องก่อนมีคำพิพากษา
จำเลยเอาความอันเป็นเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นจำเลยที่ 1 และนาง ป. เป็นจำเลยที่ 2 แต่ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำเลยยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นอนุญาต ดังนั้น เมื่อจำเลยเอาความเท็จมาฟ้องคดีโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายและความผิดของจำเลยย่อมเกิดขึ้นทันทีที่จำเลยฟ้องคดี แม้จำเลยที่ 2 ในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์จะให้การรับสารภาพก็หาใช่ว่าโจทก์มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 อันมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยดังข้อฎีกาของจำเลยไม่
บทบัญญัติตาม ป.อ. มาตรา 176 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการบรรเทาโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด ดังนั้น เมื่อจำเลยถอนฟ้องในคดีอาญาที่เอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์ก่อนมีคำพิพากษาย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ลุแก่โทษต่อศาลแล้ว ควรได้รับการบรรเทาโทษตามบทบัญญัตินั้น ทั้งกฎหมายหาได้บัญญัติว่าจำเลยต้องให้การรับสารภาพจึงจะได้รับการบรรเทาโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5497/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาเหตุบรรเทาโทษจากพฤติการณ์หลังเกิดเหตุ และการมอบตัวต่อเจ้าพนักงาน
การลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานอันเป็นเหตุบรรเทาโทษนั้น หมายถึงหลังเกิดเหตุจำเลยต้องเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจและรับสารภาพความผิด แต่ได้ความจากคำเบิกความของพนักงานสอบสวนว่า หลังเกิดเหตุจำเลยหลบหนีไป จึงไปขอออกหมายจับจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ขณะจำเลยนั่งรถผ่านด่านตรวจของเจ้าพนักงานตำรวจ การที่จำเลยยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมโดยดีเป็นเพราะมีหมายจับมากกว่าจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานอันเป็นเหตุบรรเทาโทษที่จะพึงลดโทษให้จำเลยตาม ป.อ. มาตรา 78
of 5