คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุคคลที่สาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขืนใจเรียกค่าไถ่ แม้ผู้ถูกข่มขืนใจจะเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิด ก็ยังถือเป็นบุคคลที่สามตามกฎหมาย
การที่จำเลยร่วมเขียนจดหมายไปขู่เข็ญเพื่อหลอกลวงเอาเงินจากบิดาบุคคลผู้มีชื่อ แม้จะฟังว่า ผู้มีชื่อนั้นวานให้จำเลยเขียนหรือให้ไปรับเงินก็ตาม ก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดฐานกรรโชกไปได้ไม่ เพราะในแง่ของบิดาผู้มีชื่อซึ่งถูกข่มขืนใจ ก็ยังคงต้องถือว่า ผู้มีชื่อดังกล่าวเป็นบุคคลที่สามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 วรรคต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรโชกทรัพย์: แม้ผู้ถูกข่มขืนใจจะเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิด ก็ยังถือเป็นบุคคลที่สาม
การที่จำเลยร่วมเขียนจดหมายไปขู่เข็ญเพื่อหลอกลวงเอาเงินจากบิดาบุคคลผู้มีชื่อ แม้จะฟังว่าผู้มีชื่อนั้นวานหรือร่วมกับจำเลยในการเขียนหรือให้ไปรับเงินก็ตาม ก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดฐานกรรโชกไปได้ไม่ เพราะในแง่ของบิดาผู้มีชื่อซึ่งถูกข่มขืนใจ ก็ยังคงต้องถือว่าผู้มีชื่อดังกล่าวเป็นบุคคลที่สามตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337 วรรคต้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์บุคคลที่สาม: ผู้รับประกันภัยต้องชดใช้ค่าเสียหายในนามผู้เอาประกันภัย แม้เกิดจากความประมาทของผู้เอาประกันภัย
โจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ไว้กับจำเลย ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยแบบประเภทบุคคลที่สาม ซึ่งตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887 เรียกว่า ประกันภัยแบบค้ำจุน คือผู้รับประกันภัยตกลงจะใช้เงินค่าสินไหมทดแทนในนามผู้เอาประกันภัย เมื่อความวินาศภัยอันเกิดขึ้นแก่อีกบุคคลหนึ่ง และซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ โดยโจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า คนขับรถของโจทก์ขับรถมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ของผู้อื่นเสียหายและคนตายผู้เสียหายฟ้องให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหาย โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบแล้ว โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามกรมธรรม์ประกันภัย ดังนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์ชัดเจนและครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกเงินจากผู้รับประกันภัยแบบค้ำจุนเพื่อจะเอาเงินไปเฉลี่ยให้แก่ผู้เสียหายซึ่งฟ้องเรียกเอาจากผู้เอาประกันภัย นั้น ไม่ใช่เป็นการฟ้องแทนผู้เสียหายจึงไม่ต้องมีการมอบอำนาจให้ฟ้องเพราะผู้เอาประกันมีอำนาจฟ้องตามกรมธรรม์ประกันภัยอยู่แล้ว
กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความระบุว่า ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยที่จะต้องรับผิดต่อบุคคลที่สามอันเกิดขึ้นจากการใช้ยานยนต์ที่ระบุในตารางแห่งกรมธรรม์นี้ ย่อมหมายความว่า การที่ผู้เอาประกันภัยใช้รถยนต์ไปเกิดเหตุขึ้น และผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดต่อบุคคลที่สามซึ่งรวมถึงความประมาทเลินเล่อของฝ่ายผู้เอาประกันภัยด้วย ดังนี้ ผู้รับประกันภัยย่อมต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลที่สามในนามของผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบ
กรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขระบุว่า เมื่อเกิดกรณีพิพาทขึ้นแล้ว คู่กรณีจะได้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการขึ้น แต่กรณีนี้ผู้รับประกันภัยมิได้เสนอตั้งอนุญาโตตุลาการ และยังบอกปัดปฏิเสธความรับผิดโดยสิ้นเชิง ดังนี้ผู้เอาประกันภัยย่อมนำคดีมาฟ้องศาลโดยไม่ต้องตั้งอนุญาโตตุลาการได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้มีสิทธิเก็บหนี้จากบุคคลที่สามได้
จำเลยให้นางถนอมยืมเงินไป 2,500 บาท นางถนอมมอบหลักฐานให้จำเลยเก็บเงินค่าหิน ค่าทรายเอากับนายบุญทองเพื่อชดใช้เงินที่นางถนอมเป็นหนี้จำเลย ๆ ไปเก็บเงินนั้น ไม่ต้องคืนให้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทนางถนอม แม้ว่านางถนอมยืมเงินจำเลยไปไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้มีสิทธิเก็บหนี้จากบุคคลที่สามตามตกลง แม้หนี้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยให้นางถนอมยืมเงินไป2,500บาท นางถนอมมอบหลักฐานให้จำเลยเก็บเงินค่าหิน ค่าทรายเอากับนายบุญทองเพื่อชดใช้เงินที่นางถนอมเป็นหนี้จำเลย จำเลยไปเก็บมาได้จำเลยย่อมมีสิทธิ์ในเงินนั้น ไม่ต้องคืนให้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทนางถนอม แม้ว่านางถนอมยืมเงินจำเลยไปไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารอยู่ในความครอบครองบุคคลที่สาม ไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความก่อนสืบพยาน
เอกสารอยู่ในความครอบครองของบุคคลที่สาม คู่ความที่อ้างอิงเอกสารนั้นไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยาน 3 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารในความครอบครองบุคคลที่สาม ไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความก่อนสืบพยาน
เอกสารอยู่ในความครอบครองของบุคคลที่สามคู่ความที่อ้างอิงเอกสารนั้นไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยาน 3 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินของบุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พ.ร.บ.สำรวจ และห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องห้ามบุคคลที่สาม แม้ไม่จดทะเบียนสมรส หากมีสิทธิในทรัพย์สินนั้น
โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองมาจำเลยไปขอจดทะเบียนออกโฉนดว่าเป็นที่ของผู้อื่น ขอให้ห้ามจำเลยต่อสู้ว่าเป็นนาของภริยาจำเลยครอบครองมาไม่ใช่นาของโจทก์ ดังนี้แม้จะปรากฎว่าจำเลยกับภริยาสมรสกันโดยมิได้จดทะเบียนจำเลยก็อาจอ้างอำนาจของคนที่ 3 เป็นข้อต่อสู้ของโจทก์ได้ เพราะถ้าข้อเท็จจริงฟังได้สมข้อต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นเป็นของภริยาจำเลย ไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจที่จะห้ามจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616-617/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปราณีประนอมที่ไม่ผูกมัดบุคคลที่สาม สิทธิบังคับคดีไม่ระงับ
ผู้ให้เช่ากับผู้ให้เช่าช่วงเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องขับไล่จำเลยศาลพิพากษาให้ขับไล่แล้ว ต่อมาผู้ให้เช่าช่วงไปทำสัญญายอมให้จำเลยเช่าต่อไป โดยได้รับสินจ้างและให้ถอนคดีที่จำเลยฟ้องผู้ให้เช่ากับผู้ให้เช่าช่วงนั้นถือว่าเป็นสัญญาปราณีประนอมเมื่อผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นด้วยก็ไม่ผูกมัดผู้ให้เช่าฯ จึงร้องขอบังคับคดีได้
(บันทึกความจำ สัญญาเช่าระหว่างนายเกตุกับกรมการศาสนา ห้ามผู้เช่าให้เช่าช่วงและห้ามไม่ให้ปลูกสิ่งสร้างสิ่งใดสอาด)
of 5