คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุคคลอื่น

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความและเล่าเรื่องต่อบุคคลอื่นเพื่อแสวงหาความจริง ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท
การที่จำเลยแจ้งความว่าโจทก์ได้สมคบกับพวกจ้างคนให้ไปยิงจำเลยเป็นการที่จำเลยกระทำตามกฎหมาย เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจับกุมโจทก์กับพวกมาดำเนินคดีและเพื่อขอให้ตำรวจช่วยคุ้มครองความปลอดภัยแก่ตัวจำเลยเองด้วยและแม้ว่าจำเลยจะไปเล่าให้คนอื่นฟังเพื่อให้ช่วยสอบถามโจทก์ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ทั้งๆที่ได้แจ้งความไว้แล้วก็เป็นเรื่องที่จำเลยมีความชอบธรรมที่จะแสวงหาพยานหลักฐานมาฟ้องร้องโจทก์ได้ จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความโจทก์เพื่อให้เสียชื่อเสียงการกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้โดยบุคคลอื่นแทนลูกหนี้ต้องมีอำนาจชอบธรรม การยอมรับของโจทก์ไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระให้แก่นายขาบสามีโจทก์แล้ว นายขาบร้องสอดเข้ามารับว่าได้รับชำระไว้แทนโจทก์แล้ว วันชี้สองสถาน ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยแถลงว่าถ้าโจทก์ยอมรับว่าขณะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยจำเลยก็ไม่นำสืบ โจทก์ยอมรับ คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็นข้อต่อสู้กลับไม่สืบจะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้น ไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกตินามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดีโจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการสมคบยิงผู้อื่น แม้กระสุนพลาดเป้าไปถูกบุคคลอื่น
การที่จำเลยกับพวกสมคบกันมาเจตนาจะยิงคู่ปรปักษ์ แม้กระสุนปืนของพวกจำเลยยิงไปจะพลาดพวกปรปักษ์แต่ไปถูกผู้เสียหายซึ่งมาดูเหตุการณ์เข้าเช่นนี้.จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายพวกผู้ถูกยิงย่อมต้องมีผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ถือว่าจำเลยมีความผิดไปด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิดกฎหมาย และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเราไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตามกฎหมายและจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เยาว์ไม่สามารถเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ แม้ผู้ถูกจัดการทรัพย์สินหายตัวไป
บุตรผู้เยาว์ของบุคคลซึ่งไปเสียจากภูมิลำเนา โดยมิได้ตั้งตัวแทนไว้และไม่มีใครรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรนั้น จะยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของบุคคลนั้น โดยมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมไม่ได้ เพราะกรณีเช่นนี้ไม่เข้าข้อยกเว้นที่ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายของเรือนที่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นระหว่างเช่า
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไป เรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่ อันเป็นความผิดของจำเลยๆ ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ป.พ.พ.ม
เมื่อสญญา+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่สาธารณะโดยได้รับอนุญาตและการมีสิทธิเหนือกว่าบุคคลอื่น
นายอำเภอตัดทางสาธารณะใหม่เข้าไปในที่ของโจทก์ นายอำเภอจึงเอาที่ดินถนนเก่าซึ่งราษฎรมิได้ใช้เดินแล้วนั้น ให้แก่โจทก์ด้วยปากเปล่า ดังนี้ แม้การยกให้จะเป็นโมฆะเพราะเป็นที่สาธารณะสมบัติก็ตาม แต่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินอย่างนี้อยู่ในความดูแลรักษาของอำเภอ เมื่อนายอำเภออนุญาตให้โจทก์เข้าใช้ที่นี้ได้ และโจทก์ก็ได้เข้าไปปลูกต้นผลไม้ลงไว้ตามที่ได้รับอนุญาตแล้ว ราษฎรคนอื่นก็ไม่มีสิทธิจะเข้าทำรั้วล้อมที่ดังกล่าวเอาเป็นของตนเสีย เมื่อทำลงโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้รื้อถอนขับไล่ออกไปจากที่ดังกล่าวแล้วนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์ของบุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้นเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานอนาจารต่อหน้าธารกำนัล: การกระทำต่อหน้าบุคคลอื่นถือเป็นความผิดต่อหน้าธารกำนัล แม้เป็นเวลากลางคืน
กอดปล้ำทำอนาจารหญิงสาวบนถนนริมฝั่งคลอง ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทางหลวงในเวลากลางคืน ในขณะที่มีเด็กชายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเข้าก็วิ่งหนีไปเสีย และยังมีชายอีก 2 คนซึ่งเดินอยู่บนถนนชายคลองอีกฟากหนึ่งพบเห็นเข้า ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นความผิดที่ได้กระทำต่อหน้าธารรกำนัล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1594/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่น: ข้อจำกัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาเพื่อใช้บังคับ
สัญญาจำนอง ซึ่งมีข้อความว่าเป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้นั้น ถ้าผู้รับจำนองจะขอสืบว่าการรับจำนองนั้นผู้รับจำนองแสดงเจนาไปด้วยสำคัญผิดว่า ผู้จำนองจำนองเพื่อประกันบุคคลอื่น ฉะนั้นที่ทำสัญญาไปเป็นการประกันผู้จำนองเอง จึงเป็นการแสดงเจตนาด้วยสำคัญผิดในสิ่ง ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมเพื่อต่อสู้ว่า นิติกรรมเป็นโมฆะตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 119 นั้น ผู้รับจำนองอาจนำสืบได้ แต่ถ้าผู้รับจำนองขอสืบว่า ข้อความในสัญญาจำนองที่มีว่า "เป็นประกันเงิน ซึ่งผู้จำนองเป็นหนี้" เป็นว่าเป็นประกันบุคคลอื่นเพื่อให้สัญญาจำนองมีผลบังคับได้ดั่งข้อความที่ผู้รับจำนองขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เป็นการต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 (ข)
of 6