คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกวดราคา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิเสนอราคาหลังยื่นซองประกวดราคา ถือเป็นการผิดเงื่อนไขสัญญา และการฟ้องธนาคารต้องฟ้องบริษัทแม่
การยื่นซองประกวดราคาการก่อสร้างมีเงื่อนไขหลายประการที่โจทก์(องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย) วางไว้ เมื่อโจทก์ได้ออกประกาศแจ้งความเรียกประกวดราคา ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 เข้ายื่นซองประกวดราคาต่อโจทก์จึงเท่ากับว่าจำเลยได้ยอมรับที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของโจทก์ทุกประการต่อมาจำเลยยื่นหนังสือต่อโจทก์มีข้อความว่า 'เนื่องจากความผิดพลาดในการคิดคำนวณราคาคลาดเคลื่อนและตกหล่นไปบ้างบางรายการ ซึ่งหากไม่เช่นนั้นแล้วข้าพเจ้า (จำเลย) ก็จะต้องเสนอราคาสูงกว่านี้อีกมาก ฯลฯ โดยข้าพเจ้าไม่มีเจตนาแต่อย่างใดเลยและก็เกินแก่การแก้ไขได้ ดังนั้น...ฯลฯ.... ขอท่านได้โปรดพิจารณากรุณาผ่อนผันให้ข้าพเจ้าได้สละสิทธิการเสนอราคางานรายนี้โดยยกเว้นไม่ต้องพิจารณาราคาที่ข้าพเจ้าเสนอในครั้งนี้ เสมือนหนึ่งว่าข้าพเจ้ามิได้ยื่นประกวดราคาครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด....ฯลฯ.....' หนังสือของจำเลยดังกล่าวจึงเห็นได้ชัดว่าเป็นหนังสือสละสิทธิการเสนอราคา และขณะเดียวกันก็เป็นหนังสือที่แสดงการขอถอนซองประกวดราคาต่อโจทก์ด้วย เพราะมีถ้อยคำว่า'เสมือนหนึ่งว่าข้าพเจ้ามิได้ยื่นประกวดราคาครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด' เงื่อนไขในการยื่นซองประกวดราคาต่อโจทก์ซึ่งกำหนดไว้ว่า ซองของผู้เสนอราคาทุกรายที่ได้ยื่นไว้ต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์ฯ แล้ว ย่อมถือว่าเป็นสิทธิขององค์การโทรศัพท์ฯจะถอนคืนไปมิได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น และถ้าผู้ใดสละสิทธิการเสนอราคาหรือขอถอนซองประกวดราคาภายหลังยื่นซองประกวดราคาแล้ว ถือว่าผู้นั้นผิดเงื่อนไขการประกวดราคา ซึ่งองค์การโทรศัพท์ฯ จะริบเงินมัดจำตามรายการนี้ได้ทันที
คำฟ้องของโจทก์แม้จะกล่าวว่าฟ้องธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาวัดตึก ก็ต้องถือว่าโจทก์ฟ้องธนาคารไทยพัฒนา จำกัดนั่นเอง เพราะบริษัทจำกัด นอกจากสำนักงานแห่งใหญ่แล้วจะมีสำนักงานสาขาที่ใดอีกก็ได้และสาขาของบริษัทใดก็คือส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นนั่นเอง จึงไม่ต้องมีการจดทะเบียนให้สาขาเป็นบริษัทขึ้นอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาในสัญญาประกวดราคา: เริ่มนับวันรุ่งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158
เงื่อนไขในการประกวดราคาซึ่งกำหนดให้ราคาสินค้าที่เสนอขายยืนราคาอยู่ 45 วันนับแต่วันยื่นซองประกวดราคานั้นถือไม่ได้ว่ามีนิติกรรมกำหนดการนับระยะเวลาไว้เป็นประการอื่น ดังนั้น จึงไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย
การประกวดราคาซื้อน้ำมันมิใช่เป็นเรื่องการทำงาน เพราะไม่มีลักษณะหรือสภาพเป็นงานที่ต้องทำต่อๆ ไปอีก เมื่อยื่นซองประกวดราคาเสร็จก็เป็นอันเสร็จกันไป ไม่มีการกระทำอะไรในการประกวดราคานั้นอีก กรณีจึงปรับเข้ากับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ตอนท้ายมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาในสัญญาประกวดราคา: เริ่มนับวันรุ่งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158
เงื่อนไขในการประกวดราคาซึ่งกำหนดให้ราคาสินค้าที่เสนอขายยืนราคาอยู่ 45 วันนับแต่วันยื่นซองประกวดราคานั้น ถือไม่ได้ว่ามีนิติกรรมกำหนดการนับระยะเวลาไว้เป็นประการอื่น ดังนั้น จึงไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย
การประกวดราคาซื้อน้ำมันมิใช่เป็นเรื่องการทำงาน เพราะไม่มีลักษณะหรือสภาพเป็นงานที่ต้องทำต่อๆ ไปอีก เมื่อยื่นซองประกวดราคาเสร็จก็เป็นอันเสร็จกันไป ไม่มีการกระทำอะไรในการประกวดราคานั้นอีก กรณีจึงปรับเข้ากับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ตอนท้ายมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาในสัญญาประกวดราคา: เริ่มนับในวันรุ่งขึ้นตามมาตรา 158 และการไม่ถือว่าเป็นการทำงานต่อเนื่อง
เงื่อนไขในการประกวดราคาซึ่งกำหนดให้ราคาสินค้าที่เสนอขายยืนราคาอยู่ 45 วันนับแต่วันยื่นซองประกวดราคานั้น.ถือไม่ได้ว่ามีนิติกรรมกำหนดการนับระยะเวลาไว้เป็นประการอื่น. ดังนั้น จึงไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย.
การประกวดราคาซื้อน้ำมันมิใช่เป็นเรื่องการทำงาน. เพราะไม่มีลักษณะหรือสภาพเป็นงานที่ต้องทำต่อๆ ไปอีก. เมื่อยื่นซองประกวดราคาเสร็จก็เป็นอันเสร็จกันไป. ไม่มีการกระทำอะไรในการประกวดราคานั้นอีก. กรณีจึงปรับเข้ากับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ตอนท้ายมิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของกับการประกวดราคา: ผลผูกพันเมื่อยังไม่ได้ทำสัญญาหลัก และการถอนคำเสนอ
พฤตติการณ์ที่ไม่ถือว่าได้มีสัญญาจ้างทำของเกิดขึ้นแล้วจำเลยยื่นประกวดราคารับเหมาก่อสร้าง ถึงแม้โจทก์จะตกลงสนองรับใบประกวดราคาของจำเลยแล้วก็ดีแต่เมื่อโจทก์จำเลยยังจะต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณอักษณกันอีกชั้นหนึ่งดังนี้ จะถือว่าได้มีสัญญาจ้างทำของเกิดขึ้นระหว่างโจทก์จำเลยแล้วไม่ได้ จำเลยยื่นประกวดราคารับเหมาก่อสร้างตามคำเชื้อเชิญของโจทก์ แล้วจำเลยขอถอนใบประกวดราคาของตนเสียดังนี้ เมื่อโจทก์ตอบรับใบประกวดราคาของจำเลยในเวลาอันสมควรต้องถือว่าได้มีคำสนองรับใบประกวดของจำเลย และมีผลผูกพันจำเลยตามใบประกวดราคานั้น ผู้ประมูลสร้างไม่ยอมทำสัญญาก่อสร้าง ผู้จ้างจึงให้ประกวดราคาใหม่ดังนี้จำนวนเงินที่ผิดกันระหว่างการประมูลทั้งสองนั้นไม่ใช่ค่าเสียหายในการผิดสัญญาประมูล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2176/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 กรณีอ้างตนเป็นเจ้าพนักงานและเรียกรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการประกวดราคา
คณะกรรมการตรวจการจ้างมิใช่เป็นบุคคลหรือคณะบุคคลที่จะมีอำนาจในการพิจารณาว่าจะให้บุคคลใดชนะการประกวดราคา ดังนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ทั้งสองนำสืบว่าจำเลยกล่าวอ้างต่อโจทก์ทั้งสองว่าจำเลยเป็นคณะกรรมการตรวจการจ้าง หากให้เงินจำเลยก็จะให้ห้างหุ้นส่วนของโจทก์ทั้งสองชนะการประกวดราคาก็ตาม การกระทำของจำเลย ก็มิได้เป็นการกล่าวอ้างต่อโจทก์ทั้งสองเพื่อกระทำการเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจในการพิจารณาว่าจะให้ห้างหุ้นส่วนของโจทก์ทั้งสองชนะการประกวดราคาอันจะเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 145 วรรคแรก แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานแจ้งข้อความเท็จ-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-แจ้งความเท็จ กรณีประกวดราคาอาหารกลางวัน ศาลฎีกาแก้โทษรอการลงโทษ
หนังสือบอกเลิกสัญญาผู้จ้างเหมาประกอบอาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จำเลยที่ 1 ทำและแจ้งไปยังโจทก์ที่ 1 ที่ 2 มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อบอกเลิกสัญญา ส่วนหนังสือของจำเลยที่ 1 ที่เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาให้มีคำสั่งว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ทิ้งงานก็เป็นหนังสือที่จำเลยที่ 1 ได้ทำขึ้นเพื่อรายงานเรื่องการทิ้งงานต่อผู้มีอำนาจสั่งการไปตามขั้นตอน ไม่ใช่เอกสารที่ทำขึ้นเพื่อรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จตาม ป.อ. มาตรา 162 (4) แต่อย่างใด
of 4