พบผลลัพธ์ทั้งหมด 54 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การติชมเจ้าพนักงานด้วยความสุจริตและเป็นธรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
บุตรจำเลยถูกตำรวจจับข้อหาขับรถจักรยานยนต์ไม่มีใบขับขี่ไม่เสียภาษีขับรถเป็นที่น่าหวาดเสียว และรถถูกยึดไปไว้ที่สถานีตำรวจ จำเลยไปติดต่อกับโจทก์ซึ่งเป็นสารวัตรจราจร เพื่อขอรับรถคืน โจทก์เป็นเจ้าพนักงานที่จะต้องปฏิบัติการตามหน้าที่เกี่ยวกับคดีที่บุตรจำเลยต้องหา แทนที่จะพูดให้จำเลยเข้าใจ กลับพูดแรงไป การที่จำเลยส่งข้อความไปลงหนังสือพิมพ์ถึงอธิบดีกรมตำรวจซึ่งเป็นเป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์ มีใจความเป็นการแสดงความเสียใจน้อยใจของจำเลย และขอร้องให้ผู้ใหญ่ในกรมตำรวจสอดส่องตักเตือนตำรวจให้พูดจาแนะนำประชาชนในสิ่งที่ประชาชนไม่รู้อย่างสุภาพ เพื่อให้ตำรวจเข้ากับประชาชนได้ จึงเป็นการติชมโจทก์ด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ และจำเลยลงข้อความนั้นโดยสุจริตตามเรื่องที่เกิดแก่จำเลย กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทและฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์: แม้ประกาศหวงห้ามไม่ชอบ แต่หากโจทก์ครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่อง ย่อมเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่มีเอกชนคนใดถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายมาก่อนต่อมาได้มีประกาศหวงห้ามที่ดินไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะรวมถึงที่พิพาทด้วยและได้มีการแจ้งส.ค.1 สำหรับที่ดินตามประกาศเมื่อ ออกประกาศแล้วโจทก์ได้เข้าครอบครองที่หวงห้ามโดยทำรั้วรอบที่ดินจัดตลาดสดมีโครงการจัดสร้างสนามเด็กเล่นสนามกีฬาและหอประชุมเป็นต้นแม้ประกาศหวงห้ามที่ดินไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ถือได้ว่าที่ดินที่โจทก์ประกาศหวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ: การครอบครองแทนราชการ
จำเลยครอบครองที่ดินมือเปล่าทำบันทึกยกที่ดินให้ทางราชการจัดตลาดสาธารณะตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป จำเลยยังเก็บประโยชน์ตามอัตราที่ทางการกำหนดเพื่อใช้ทำความสะอาด ถ้าทางราชการจะดำเนินการเองเมื่อใด จำเลยจะถอนตัวออกไปทันทีดังนี้เป็นการที่จำเลยครอบครองแทนทางราชการ ที่พิพาทเป็นของแผ่นดินแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละการครอบครองที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ และการละเมิดสิทธิการใช้น้ำ
จำเลยยอมให้ขุดลำเหมืองใหม่ให้น้ำไหลเลาะผ่านที่ดินจำเลยไปทางเหนือ แทนที่จะไหลผ่านนาจำเลย เพื่อให้โจทก์และเจ้าของนาอื่นใช้ประโยชน์ร่วมกันในการใช้น้ำทำนาเมื่อที่ดินของจำเลยเป็นที่ดินมือเปล่า ย่อมถือได้ว่าจำเลยสละการครอบครองที่ดินส่วนที่ขุดลำเหมืองใหม่นั้นแล้วสิทธิครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลง หากจำเลยถมดินปิดลำเหมือง ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ย่อมเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน: จำเลยมีสิทธิพิสูจน์ความจริงเพื่อยกเว้นความผิดได้ หากการกระทำเป็นการตักเตือนเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ข้อความที่จำเลยโฆษณาว่า "จ่าสิบตำรวจอารมย์ ประทุมศรี หัวหน้าตำรวจจราจรและพลตำรวจพิชัย จิตรหาญ ฟังทางนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของท่านจงอย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อย ฯลฯ" นั้นไม่ใช่เป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว เพราะผู้เสียหายเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการจราจร การที่ผู้เสียหายเรียกหรือรับสินบนจากผู้กระทำผิดจราจรนั้น ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบถ้าเป็นความจริงดังที่จำเลยโฆษณา ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำเลยจึงขอพิสูจน์ความจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน: พิสูจน์ความจริงเพื่อยกเว้นความผิดได้ หากเป็นการติชมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ข้อความที่จำเลยโฆษณาว่า "จ่าสิบตำรวจอารมย์ ประทุมศรีหัวหน้าตำรวจจราจรและพลตำรวจพิชัย จิตรหาญ ฟังทางนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของท่านจงอย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อย ฯลฯ " นั้นไม่ใช่เป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว เพราะผู้เสียหายเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการจราจร การที่ผู้เสียหายเรียกหรือรับสินบนจากผู้กระทำผิดจราจรนั้น ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบถ้าเป็นความจริงดังที่จำเลยโฆษณา ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จำเลยจึงขอพิสูจน์ความจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากการถูกข่มเหงรุนแรงขณะปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ขณะเกิดเหตุจำเลยกำลังปฏิบัติงานแจกยาแก่ประชาชน ผู้ตายกล่าวคำหยาบคายก้าวร้าวต่อบุคคลที่กำลังปฏิบัติงาน เมื่อจำเลยห้ามก็ถูกผู้ตายซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเข้าชกต่อย จำเลยต่อยตอบแต่ผู้ตายก็ไม่หยุดยั้ง การข่มเหงเป็นเหตุให้จำเลยต้องใช้ปืนยิงผู้ตายเช่นนี้ กรณีถือว่าจำเลยถูกข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775-1776/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณประโยชน์ชลประทาน: การกันเขตที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะและการครอบครองก่อนหน้า
กรมชลประทานเป็นกรมในรัฐบาล ขึ้นกับกระทรวงเกษตราธิการและเป็นนิติบุคคล เป็นเจ้าหน้าที่โดยตรงในการทดน้ำไขน้ำ เมื่อมีผู้ละเมิด กรมชลประทานย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้ 2. คำฟ้องที่กล่าวถึงเขตที่ดินที่กันไว้เพื่อการชลประทานโดยอาศัยอำนาจตามประกาศกระแสพระบรมราชโองการฯ และประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดหวงห้ามที่ดินชายทะเลโดยมีแผนที่ประกอบไว้ท้ายฟ้องด้วย นับว่าเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม 3. ที่พิพาทซึ่งอยู่ในเขตที่ดินของชลประทานจึงเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินซึ่งสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 ห้ามมิให้ยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1306 4. ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2478 ให้หวงห้ามโดยวิธีการออกพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีกฎหมายบังคับไว้อย่างไร ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐย่อมออกประกาศหวงห้ามที่รกร้างว่างเปล่าไม่ให้ผู้ใดจับจองหรือเข้าถือเอาโดยพลการ ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายในที่ใดให้สิทธิราษฎรจับจองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเอาตามชอบใจ 5. ส.ค.1 ไม่เป็นเอกสารแสดงสิทธิอย่างใดตามกฎหมาย (ซ้ำฎีกาที่ 1218/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707-1708/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายชลประทานคุ้มครองสาธารณสมบัติเหนือกว่าสิทธิเช่าเอกชน
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง ฯ มีวัตถุประสงค์จะคุ้มครองสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันเป็นกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองสาธารณชนส่วนพระราชบัญญัติควบุคมค่าเช่าในภาวะคับขัน ฯ เป็นกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองสาธารณชนจึงมีผลบังคับเหนือกว่ากฎหมายที่คุ้มครองเอกชน การที่พระราชบัญญัติการชลประทานหลวงบัญญัติห้ามปลูกสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดรุกล้ำคันคลอง ชานคลองนั้น แม้จำเลยจะเช่าที่ดินกรมชลประทานปลูกเรือนอยู่อาศัยมาก่อนก็ตามก็ย่อมไม่ได้รับยกเว้นที่จะคงอยู่ต่อไป และไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ฯ ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกีดขวางทางสาธารณะโดยการปิดกั้นทางเดินที่สาธารณะใช้ประโยชน์มานาน แม้ที่ดินอยู่ในโฉนดจำเลย ก็ไม่อาจกระทำได้
ฟ้องว่าจำเลยกีดขวางทางสาธารณะเมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามที่ ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบที่เกิดเหตุประกอบกับคำรับของคู่ความว่า ที่ดินของจำเลยอยู่ริมแม่น้ำ หน้าที่ดินของจำเลยมีทางเดินซึ่งสาธารณชนใช้เดินเลียบริมแม่น้ำมา 15 ปีแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่จะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงต่อไป เพราะถึงแม้จะฟังตามฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยว่า ทางเดินเดิมได้พังลงแม่น้ำไปหมดแล้ว ทางเดินใหม่ อยู่ในโฉนดของจำเลยก็ตาม เมื่อจำเลยได้สละสิทธิให้สาธารณะชนเดินมานานตั้ง 15 ปี จำเลยจะปิดกั้นเสียหาได้ไม่